วิทยุชุมชน 1.2 พันราย แห่ตีทะเบียนวันแรก

วิทยุชุมชนแห่ขึ้นทะเบียนวันแรก 1,200 ราย “พ.อ.นที” ชี้กลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ทั้งกลุ่มการเมืองและสมาคมต่างๆ ยังขัดขวาง เพราะเกรงเสียประโยชน์ แจงเตรียมเดินสายต่อเชียงใหม่-ขอนแก่น-สงขลา อีก 3 ครั้ง คาด 95% ยอมจด

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. คณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้จัดประชุมชี้แจงร่างประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบการกิจการวิทยุชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) และชี้แจงขั้นตอนการเตรียมการเพื่อลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุชุมชน ขึ้นที่ห้องประชุมแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคาร 9 ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างเวลา 09.30-17.00 น

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยภายหลังการจัดประชุมชี้แจงว่า ยอดผู้มาขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในวันแรก มี 1,200 ราย ตามเป้าที่ตั้งไว้

สำหรับการเปิดขึ้นทะเบียนครั้งนี้ มีทั้งกลุ่มวิทยุชุมชนจริงๆ และกลุ่มวิทยุธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการทุกประเภทเข้ามาขึ้นทะเบียนได้ และใช้ใบอนุญาตชั่วคราวในการทดลองออกอากาศเป็นระยะเวลา 300 วัน หลังจากนั้นการให้ใบอนุญาตถาวรและแบ่งประเภทการประกอบกิจการอย่างชัดเจน จะต้องรอคณะกรรมการกิจการสื่อสารแห่งชาติ (กสทช.)

“การขึ้นทะเบียนครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีจุดลงทะเบียนถึง 50 จุด ใช้เวลารายละ 2 ชั่วโมงจึงขึ้นทะเบียนเสร็จ แต่มีบางกลุ่มที่เสีย ผลประโยชน์ ทั้งกลุ่มการเมืองและสมาคมต่างๆ ที่ยังคอยขัดขวางไม่ให้มีการขึ้นทะเบียน เพราะเกรงว่าจะเสียประโยชน์” พ.อ.นที กล่าว

คณะกรรมการฯ จะดำเนินการขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชนอีก 3 ครั้ง ในต่างจังหวัด คาดว่าจะมีผู้ขึ้นทะเบียน 95% ของวิทยุชุมชนทั้งหมด 4,000-5,000 สถานี หากไม่ดำเนินการ ขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันที่กฎหมายประกาศใช้จะถือว่ามีความผิด

ทั้งนี้ การจัดประชุมชี้แจงร่างประกาศดังกล่าวและตั้งโต๊ะลงทะเบียนครั้งต่อไปจะจัดในวันที่ 22 มิถุนายน 2552 ที่ จ.เชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ที่ จ.ขอนแก่น และวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ผู้สนใจลงทะเบียนภายในงาน เตรียมเอกสารดังนี้ 1.สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนาทะเบียนบ้าน 3.สำเนาหนังสือจัดตั้งนิติบุคคล/กลุ่มคน 4.หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชน (กรณีผู้แทนนิติบุคคล/กลุ่มบุคคล) 5.รูปถ่ายหน้าตรงไม่ใส่หมวก ไม่สวมแว่นขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป และ 6.แผนที่ตั้งสถานีและรูปถ่ายสถานี

ที่มา: เรียบเรียงจากเดลินิวส์ โพสต์ทูเดย์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท