(1 พ.ค./ กรุงเทพฯ) จากการที่ผู้แทนการค้าสหรัฐออกรายงานมาตรา 301 พิเศษ เมื่อวานนี้ โดยที่ประเทศไทยยังคงอยู่ในประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) นั้น
รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงรายงานดังกล่าวที่ระบุถึงการที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ไปสัญญาที่จะให้ความสำคัญในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้สูงขึ้น จนทำให้ผู้แทนการค้าสหรัฐมีความพอใจนั้น ว่า
"การไปให้สัญญาในสิ่งที่ไม่ใช่ประเด็นปัญหา ทำให้เราก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหา และเราอาจต้องเสียผลประโยชน์ของประเทศ เพราะเชื่อตามสิ่งที่สหรัฐฯอยากได้ "ของแถม" เช่นเดียวกับที่เราเสียผลประโยชน์ของประเทศ การทำลายอุตสาหกรรม และสังเวยการเข้าไม่ถึงยาของประชาชนไปตั้งแต่การแก้ไข พระราชบัญญัติสิทธิบัตร เมื่อปี ๒๕๓๕ ดังนั้นรัฐบาลควรบริหารประเทศอย่างโปร่งใสด้วยการเปิดเผยแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปสัญญากับทางยูเอสทีอาร์ทันที"
รศ.ดร.จิราพร ระบุว่า รายงาน 301 พิเศษของสหรัฐฯ เป็นเครื่องมือกดดันประเทศต่างๆ เพื่อตัวเองจะได้ "ของแถม" ที่เกินไปกว่าความตกลงทรัพย์สินทางปัญญา (ทริปส์) ฉะนั้น รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จะต้องไม่หลงประเด็น โดยต้องยืนยันกับทางสหรัฐฯว่า ประเทศไทยได้ทำตามปฏิญญาโดฮาอยู่แล้วด้วยการใช้มาตรการยืดหยุ่นในทริปส์ (TRIPS flexibilities) และอย่าหลงเชื่อว่า ระบบสิทธิบัตรที่เป็นอยู่ในขณะนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนายาจำเป็นใหม่ โดยไม่พยายามหาระบบการส่งเสริมวิจัยและพัฒนาทางเลือกอื่น
ทั้งนี้ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังได้เตือนกระทรวงพาณิชย์ว่าควรทำงานในหน้าที่ของตนเองให้มีประสิทธิภาพ แล้วประเทศไทยก็หลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ "สิ่งที่รายงาน 301 ชี้ คือ การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ และการออกเอกสารสิทธิบัตรล่าช้า อย่าบิดเบือนว่าเป็นเรื่องซีแอลยา และไม่ควรใช้ข้ออ้างนี้ในการเร่งออกสิทธิบัตรที่ไม่มีคุณภาพ แต่ต้องเป็นการออกสิทธิบัตรที่มีคุณภาพและเป็นไปตามเวลาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสาธารณสุขและองค์กรผู้บริโภคในสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ วิพากษ์วิจารณ์รายงาน 301 พิเศษว่า ยังเต็มไปด้วยอิทธิพลของอุตสาหกรรมที่ถือลิขสิทธิและสิทธิบัตร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยา และหวังว่า รัฐบาลของนายบารัก โอบามา จะเปิดศักราชใหม่ของผู้แทนการค้าสหรัฐ และรับรองสิทธิของประเทศต่างๆในการใช้มาตรการที่กำหนดในความตกลงทริปส์เพื่อการเข้าถึงยา