ภาพในคลิปที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ เผยแพร่

(23 เม.ย.) เวลาประมาณ 12.40 น. ระหว่างการประชุมรัฐสภา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ขออนุญาตนำเทปบันทึกภาพ ที่อ้างว่าเป็นภาพบุคคลที่เป็นพยานรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมาเปิดในที่ประชุมเพื่อประกอบการอภิปราย แต่นายประสพสุข บุญเดช ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้นไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นการทำตามข้อตกลงของสภาที่จะไม่อนุญาตให้มีการนำภาพที่ไม่ผ่านการตรวจสอบมาเปิดเผยในที่ประชุม ทำให้นายวรวัจน์ไม่พอใจและระบุว่า รัฐบาลต้องการปิดกั้นและแทรกแซงการแสดงออกทางความคิดเห็น จนทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ต้องขึ้นมาทำหน้าที่และชี้แจงด้วยตนเอง โดยยืนยันว่า ไม่สามารถอนุญาตให้เปิดภาพดังกล่าวได้ แม้นายวรวัจน์จะระบุว่า พร้อมรับผิดชอบข้อมูลที่นำมาเปิดเผย ก่อนที่จะเปลี่ยนให้นายประสพสุขทำหน้าที่ต่อไป จนเกิดการประท้วงจากทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล

ต่อมา นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ที่ประชุมยอมให้เปิดภาพดังกล่าว แต่จะต้องเปิดภาพของฝ่ายรัฐบาลด้วย จนนายประสพสุข ยอมให้เปิดภาพดังกล่าว ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณแยกดินแดง ในช่วงเช้าวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ทหารรุมทำร้ายและทุบตีผู้ชุมนุมซึ่งถูกมัดมือไพล่หลัง รวมถึงคลิปวิดีโอขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงและบังคับใช้กฏหมาย และจะทำงานโดยยึดหลักเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน

คลิกดูคลิปวิดีโอที่

http://matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1240469716

จากนั้นนายวรวัจน์ตั้งคำถามว่า การเอาทหารออกมาไม่รุนแรงหรือ คนใส่เสื้อแดงโดนยำโดนยิง คนไม่กลัวหรือ จึงไม่สงสัยว่าทำไมเอารถเมล์ไปกั้น เพราะเขาไม่คิดว่ารัฐบาลประชาธิปไตยจะทำอย่างนี้ได้ ทั้งนี้ นายวรวัจน์ ระบุว่า ชายคนดังกล่าวเป็นการ์ด นปช. คนหนึ่งที่ถูกทุบตีจนสลบไป 1 วัน และรู้สึกตัวอีกครั้งที่รถทหารคันหนึ่งซึ่งมีศพอยู่เป็นสิบ คละคลุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือด โดยไม่ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่ถูกนำไปลพบุรี โดยมีทหารอยู่ด้านหน้า 5 คน เมื่อรถขับไปถึงสะพาน จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถหลบหนีมาได้ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีเพื่อเอาตัวรอด อย่างไรก็ตาม คลิปที่สองจะบอกว่าหลังจากนี้บุคคลเหล่านี้ไปไหน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ชี้แจงว่า กรณีพบศพนายนัฐพงษ์ หรือแก๊บ ปองดี อายุ 24 ปี และนายชัยพร หรือโจ กันทัง อายุ 30 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อ้างว่าเป็นการ์ดของกลุ่มว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปปฏิบัติการเพื่อเปิดทางการจราจรในจุดต่างๆ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 13 เม.ย. จนกระทั่งเวลา 17.00 น. จึงเลิกปฏิบัติงาน แต่ภรรยาของนายชัยพรและนัฐพงษ์ยืนยันว่า ทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่ และดื่มสุรากับเพื่อนจนถึงเวลา 02.00 น. วันที่ 14 เม.ย.

นายสุเทพ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้กำลังอาวุธกับประชาชน โดยการปฏิบัติการตั้งแต่ต้นจนจบ สามารถทำให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบเรียบร้อย และยืนยันว่าไม่มีใครเสียชีวิตตามที่มีการอ้างกัน อย่างไรก็ตาม ยินดีจะตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมาพิสูจน์ในทุกกรณีที่มีความสงสัยให้มีความชัดเจนขึ้น และจะไม่มีใครบิดเบือนได้ รวมทั้งอยากให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 สภาร่วมสอบด้วย เพื่อจะได้มีรายงานหลายฉบับมาเปรียบเทียบกัน

ด้านนายวรวัจน์ กล่าวเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ลาออก และว่าหากยังเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ไม่กล้าเอาหลักฐานให้ และว่า "จะเปิดคลิปยังไม่ให้เปิดเลย"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเปิดคลิปหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของประธานรัฐสภาที่จะวินิจฉัย ทั้งนี้ ชี้แจงใน 2 ประเด็นคือ 1.กรณีที่มีการกล่าวว่า ตนเองไม่ได้สนใจเมื่อเกิดการตายของประชาชนนั้น ไม่จริง เพราะทันทีที่มีข่าวเรื่องพบศพ 1 ศพ ก็ได้สั่งว่าต้องดำเนินการพิสูจน์เต็มที่และรายงานผล ซึ่งได้มีรายงานชัดเจนว่า ทั้งสองมีชีวิตอยู่ในวันที่ 13 เม.ย. และผู้ที่พบเห็นให้ข้อมูลว่า พวกเขาจะเดินทางไปสนามหลวง ดังนั้น ทั้งสองจึงไม่ไ้ด้เสียชีวิตจากการปฏิบัติการ เพราะในเวลาดังกล่าว ไม่มีการปฏิบัติการแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ก็ยินดีรับฟังและให้ความเป็นธรรม นอกจากนี้แล้วยังได้ดำเนินการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย

2.กรณีคลิปวิดีโอที่นายวรวัจน์นำมาเปิดนั้น น่าจะเป็นที่ดินแดง โดยยืนยันว่า ไม่มีใครสบายใจที่เห็นภาพดังกล่าว ทั้งนี้ จุดยืนและแนวทางของรัฐบาลนั้น ผู้นำได้รับไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะรับภาพเหล่านี้ไป ซึ่งผู้บัญชาการกองทัพบกซึ่งได้รับชมการถ่ายทอดอยู่เช่นกัน ได้บอกว่าต้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งหากไม่มั่นใจฝ่ายบริหาร องค์กรที่เป็นกลางอาจเข้าไปดำเนินการได้

ด้านนายสุเทพ กล่าวเสริมว่า กรณีที่นายวรวัจน์บอกว่า นายชัยพรเป็นการ์ดของเสื้อแดงนั้น ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า นายชัยพรไม่ได้ไปชุมนุมด้วย ไม่เคยเป็นการ์ด และที่บ้านไม่มีสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเป็นสีใดๆ ทั้งสีเหลืองและสีแดง

ขณะที่นายวรวัจน์โต้ว่า ข้อมูลที่เขาได้มาคือมีการบอกให้รีบเผาศพ และโชว์รูปภาพว่า นายชัยพรเป็นการ์ดจริง และว่าเอาทหารมาขนาดนี้ ใครก็ต้องบาดเจ็บ