ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการรักษาความปลอดภัย (รปภ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายนว่า มีการเปลี่ยนทีม รปภ.นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงใหม่ โดยส่งคืนกำลังพลจากศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งใช้ตามอารักขาในช่วงเกิดเหตุการณ์คนเสื้อแดงทุบรถนายกฯ 2 ครั้งกลับทั้งหมด เปลี่ยนมาใช้กำลังทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี หรือ "ทหารเสือราชินี" จำนวน 30 นายแทน แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดละ 15 นาย ผลัดกันชุดละวัน ใน 15 นาย แบ่งประกบขบวนนายกฯ 1 ชุด และส่วนล่วงหน้า 1 ชุด และเป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนเป็นต้นมา มีการปกปิดภารกิจของนายกฯ ในแต่ละวันเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด และไม่บรรจุลงในวาระงานตามปกติ

ข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่เปลี่ยนทีม รปภ.เพื่อเสริมมาตรการภายหลังเกิดเหตุความรุนแรงต่อตัวนายกฯ ถึง 2 ครั้ง ที่พัทยา และที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งทีม ศรภ.เดิมไม่สามารถดูแลได้ จน พ.ต.ปกรณ์ สมภานต์ หัวหน้าชุดถูกตำหนิอย่างหนักจากผู้ใหญ่ใน ศรภ.ว่าหละหลวม แม้กระทั่ง พ.ต.ปกรณ์ยังถูกกลุ่มเสื้อแดงจับตัวไปได้อีก นอกจากโดนเปลี่ยนตัวแล้ว ทีม ศรภ.เดิมยังถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีกด้วย

"ฟอร์ด" นำรถกันกระสุน "ไรเฟิล" ให้ "สุเทพ" ทดลองใช้

ทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 22 เมษายน ตัวแทนจำหน่วยรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดได้นำรถยนต์โฟลวีล ฟอร์ด รุ่นเอฟเวอร์เรต จำนวน 2 คันมามอบให้ชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงทดลองใช้ โดยรถดังกล่าวได้ประกอบขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษต่างจากรถฟอร์ด เอฟเวอร์เรตทั่วไปที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด เนื่องจากใช้กระจกนิรภัยกันกระสุนรอบคัน ขณะที่ตัวถังใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นมากเป็นกรณีพิเศษ ชนิดที่ปืนไรเฟิลยังไม่อาจยิงทะลุได้ ส่วนล้อยางมีคุณสมบัติพิเศษ แม้จะถูกยิงจนยางแตก คนขับก็ยังสามารถประคองรถต่อไปได้ ทั้งนี้รถรุ่นดังกล่าวจะผลิตและส่งออกไปยังประเทศที่มีภาวะสงครามเท่านั้น อาทิ ประเทศอัฟกานิสถาน ประเทศอิรัก ฯลฯ โดยสนนราคาที่ 5-6 ล้านบาท

ที่มา: มติชนออนไลน์