Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


"มาร์ค" ยันไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องของเสื้อแดง?


เว็บไซต์แนวหน้า - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกแถลงการณ์ให้นายกรัฐมนตรี และองคมนตรีลาออกภายใน 24 ชั่วโมง ว่า ไม่สามารถปฏิบัติได้ และขอยืนยันว่าจะไม่มีการลาออก แต่ทั้งนี้ ขอให้แกนนำผู้ชุมนุมตอบคำถามภายใน 24 ชั่วโมง ว่านักประชาธิปไตยที่จะให้เข้ามาปฏิรูปการเมืองหมายถึงใคร เพราะหากเป็นประชาธิปไตยจริง จะไม่มีการยื่นเงื่อนไขในลักษณะยื่นคำขาด ไม่ทำร้ายคนอื่นและไม่ก่อเหตุรุนแรง


 



นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จะไม่มีการเลื่อน ไม่มีการเลิก พร้อมทั้งยอมรับว่า จะมีทหารเข้าไปเป็นผู้ช่วยพนักงานดูแลรักษาความปลอดภัย และยังแสดงความคิดเห็นว่า ส่วนตัว ไม่คิดว่าคนเสื้อแดงจะไปป่วนที่พัทยา เพราะคงรู้ดีว่าการทำเช่นนี้เป็นผลเสียกับประเทศชาติ


 


มท.สรุปยอดม็อบ 8.5 หมื่น เตือนมีอาวุธร้ายแรงแฝง
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เมื่อค่ำวันที่ 8 เมษายนว่า ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์รายงานว่า จำนวนผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนกำลังจากทำเนียบรัฐบาลไปขับไล่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์นั้น ในช่วงเช้ามีกว่า 4 หมื่นคน โดยแยกเป็นผู้ชุมนุมที่ทยอยมาปักหลักที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่คืนวันที่ 7 เมษายน จนถึงช่วงเช้าวันที่ 8 เมษายน มีประมาณ 22,000 คน ส่วนแนวร่วมจากต่างจังหวัดนั้นมีประมาณ 10,533 คน แยกเป็นภาคเหนือ 1,848 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6,997 คน ภาคกลางและภาคตะวันออก 1,688 คน



โดยจังหวัดที่มีประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมใน กทม.มากที่สุดคือ จ.อุดรธานี มีประมาณ 4,000 คน รองมาคือ จ.เชียงใหม่ มีประมาณ 1,040 คน ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมในช่วงบ่ายถึงค่ำนั้นประเมินว่า รวมประมาน 85,000 คน อย่างไรก็ตาม ยังมีการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังในการชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยเฉพาะกลุ่มการ์ดอาสาที่เป็นวัยรุ่น และมีพฤติกรรมที่จะใช้ความรุนแรง จนอาจมีผู้ไม่หวังดีนำอาวุธร้ายแรงแฝงเข้าร่วมชุมนุมเช่น ปืนเอ็ม 26 ท่อแป๊บบรรจุดินปืน ระเบิดปิงปอง มาใช้เพื่อสร้างสถานการณ์ เช่น เผาทำเนียบรัฐบาล และบ้านสี่เสาเทเวศร์


 


ตร.ประเมินม็อบ 5 หมื่นกว่า ไม่เสริมกำลัง


มติชนออนไลน์ - เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 เมษายน พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงสถานการณ์กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ชุมนุมใหญ่และเดินทางมาที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ว่า  สถานการณ์เวลานี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 5 หมื่นเศษ กำลังก็ยังคงใช้เท่าเดิม การชุมนุมก็ยังเป็นไปอย่างสงบ การหาข่าวก็ยังเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง ขณะนี้ใกล้เวลาค่ำแล้ว ผบช.น.ได้สั่งตั้งจุด ว.43 รอบในบริเวณที่มีการชุมนุมขึ้นอีก 12 จุด เพื่อตรวจสอบผู้พกพาอาวุธและยาเสพติดเป็นหลัก ขณะที่รอบนอกทุกสถานีต้องตั้ง จุดว.43 สถานีละ 2 จุดในจุดที่เหมาะสม และจุดตรวจจราจร สน.ละ 1 จุด เพื่อดูแลความปลอดภัย ส่วนบ้านบุคคลสำคัญก็จัดกำลังไปตรวจสอบและดูแล ซึ่งที่เพิ่มกำลังค่อนข้างมากก็เนื่องจากทางการข่าวและเพิ่มความมั่นใจในการดูแลในเรื่องความเรียบร้อยประโยชน์สุขของประชาชนในภาครวมด้วย ใครที่มีการกระทำความผิดพกพาอาวุธ และยาเสพติดก็ต้องเพิ่มความเข้มลงไป



ถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมประชิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ถือว่าไม่เป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ โฆษก บช.น.กล่าวว่า เราประชาสัมพันธ์ว่าห้ามบุกรุกเข้าไปในบ้านขององคมนตรี การชุมนุมก็ต้องเป็นไปอย่างสงบ ไม่ทำลายสถานที่ราชการ หากมีใครละเมิดหรือทำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็จะมีการบันทึกเอาไว้  สิ่งใดที่ยอมได้ตำรวจก็จะยอมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หากมีการเจรจากันก็ยอมได้เพื่อการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบ


 


ถามว่าข้อห่วงใย ผบช.น. ในการชุมนุมครั้งนี้  พล.ต.ต.สุพรกล่าวว่า ทางฝ่ายผู้ประสานงานก็มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ประสานงานกลุ่มผู้ชุมนุมในเรื่องการใช้เครื่องขยายเสียงขอให้ลดลงในช่วงเวลากลางคืน ทุกอย่างอยู่ที่การเจรจาพยายามขอร้องจะเน้นในส่วนนั้นมากกว่า


 


"สำหรับการจราจรจะส่งผลกระทบบ้างมีการปิดทั้งหมด 5 เส้นทาง ที่ถนนพิษณุโลกปิดจากแยกยมราชไปถึงแยกวังแดง เส้นราชดำเนินปิดตั้งแต่แยกมัฆวานไปถึงแยกอู่ทองใน เส้นนครราชสีมาปิดแยกการเรือนถึงแยกประชาเกษม และอีกแยกคือจากแยกซังฮี้ถึงแยกเทเวศร์  จึงขอให้หลีกเลี่ยงก็จะดี ไม่ใช่เป็นคำสั่งเจ้าพนักงาน แต่เป็นการปิดโดยปริยาย หากผู้ชุมนุมถอนไปก็เปิดได้ตามปกติ ซึ่งก็ประกาศว่าชุมนุมให้เสร็จสิ้นใน 3 วันนี้ ก็ต้องประเมินและติดตามอย่างใกล้ชิด" โฆษกบช.น.กล่าวและว่า "สำหรับการชุมนุมในช่วงกลางคืนก็ต้องรอบคอบมากขึ้น เรามีภาพจากกล้องวงจรปิดตลอดการชุมนุมบันทึกภาพตลอดเวลา และฝากสื่อมวลชนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย บุคคลต้องสงสัยที่จะมีความขัดแย้งต้องระวังให้ดี ต้องประเมินเป็นรายชั่วโมงไปตำรวจยังดูแลอยู่ได้"


 


ถามอีกว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวีดีโอลิงก์เข้ามาในเวลา 20.00 น.จะดำเนินการอย่างไร โฆษก บช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้เก็บรายละเอียดและบันทึกทุกวันของศูนย์ฝ่ายข่าว ซึ่งจะตรวจสอบว่าพาดพิงหรือไม่ถอดเทปวันต่อวัน ที่ผ่านมาก็พบว่าหมิ่นเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น ยังสามารถวีดีโอลิงก์มาได้ก็มีการบันทึกเหมือนเดิม



ล่าเก๋งยิงปืนใส่สมาชิกเสื้อแดง
มติชนออนไลน์ - เวลา
18.30 น. ขณะที่นายชัยยุทธ อรุณรัตน์ อายุ 56 ปี กำลังไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงถึงบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางถนนสวรรคโลก แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตพระนคร ระหว่างหยุดทักทายกับนายธนศร บางบุญ อายุ 30 ปี และ น.ส.สุพัตรา จุลษร อายุ 43 ปี ที่เดินกลับจากฟังปราศรัย ได้มีผู้โดยสารที่นั่งคู่คนขับในรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน เทียน่า สีน้ำเงิน ทะเบียน ชพ 2719 กรุงเทพมหานคร ติดสัญญาณไฟจราจรอยู่ ได้ลดกระจกยกมือให้ของลับ นายชัยยุทธจึงด่ากลับไป พอสัญญาณไฟเขียวชายคนดังกล่าวได้ก้มตัวลงและใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มนายชัยยุทธแต่ไม่ถูก จึงแจ้งความกับตำรวจ สน.นางเลิ้ง มาตรวจสอบ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน



พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวและกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งจะติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป


 



"ป๋าเหนาะ" ย้ำการเมืองเข้าขั้นรุนแรง วอนยุติปัญหาการเมือง หันหน้าเข้า ชูตั้ง "รัฐบาลเพื่อชาติ"


เว็บไซต์แนวหน้า - เมื่อเวลา 19.00น. นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช .ให้สัมภาษณ์ประเมินถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ว่า ขณะนี้ถือว่ารุนแรง เพราะไม่เคยมีครั้งไหน ที่ประชาชนจำนวนมากกล้ามาโจมตีองคมนตรี แบบนี้ ซึ่งตนเองรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์ในขณะนี้ มาก และมองว่าทางออกทางเดียวในขณะนี้ คือทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน โดยให้ลืมความขัเดแย้งให้หมด หรือที่เรียกว่า เอาการบ้านไว้ ลืมเรื่องการเมืองก่อน เพราะขณะนี้ไฟกำลังไหม้บ้าน อย่าเอาน้ำมันมาราดไฟอีกเลย


 



"ป๋าเป็นคนชายแดนมองออกว่า หากไม่หยุดวิกฤตนี้บ้านเมืองจะเดินไปทางไหนเพราะมีประสบการณ์มาแล้วจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีการฆ่ากันเอง ถามว่าอยากให้ไทย ถูกแบ่งออกเป็นเสี่ยงๆเหมือนประเทศเพื่อนแบบนั้นหรือ ผมอยากเรียกร้องให้มาตั้งรัฐบาลเพื่อชาติแก้ปัญหา ส่วนใครจะเป็นผู้นำค่อยมาหารือกันทีหลัง เราต้องป้องกันอย่าให้ไฟไหม้บ้าน" นายเสนาะ กล่าวและว่า ตนรอยากให้ทุกฝ่ายเข้ามาแก้วิกฤติ โดยเฉพาะสื่อมวลชน ที่มีอิทธิพลต่อสังคมมากที่สุด ควรจะลงมติว่า สังคมไทยจะต้องทำอย่างไรให้สงบ


 


แม่ "จตุพร" วอนลูกชายเลิกทำผิด เสียใจนอนร้องไห้ทุกคืนจนนอนไม่หลับ
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. กลุ่มคนรักป๋าสุราษฎร์ธานีกว่า 200 คน นำโดยนายสำราญ วิโรจน์ และ พ.ต.ท.ผาด พรมจันทร์ เดินทางไปชุมนุมที่หน้าบ้านเลขที่ 25/1 ม.2 ต.พรุพี อ.บ้านนาสาร ซึ่งเป็นบ้านนางน่วม บัวแก้ว อายุ 90 ปี มารดานายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมปราศรัยโจมตีพฤติกรรมนายจตุพร ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียชาวสุราษฎร์ธานีและภาคใต้ โดยเรียกร้องผ่านญาติพี่น้องนายจตุพรให้ช่วยยุติพฤติกรรมจาบจ้วงองคมนตรี และสถาบันมหากษัตริย์



นางน่วม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการกระทำของลูกชายและเป็นห่วงมาก เพราะเป็นลูกคนสุดท้อง ได้พยายามโทรศัพท์ไปหาให้ยุติ แต่เขาไม่เคยรับโทรศัพท์ จึงอยากฝากบอกผ่านสื่อมวลชนให้ลูกชายยุติบทบาท เพราะทุกวันนี้ เมื่อรู้ข่าวต้องนอนร้องไห้ทุกคืนจนนอนไม่หลับ และไม่คิดว่าลูกจะทำอย่างนี้ จึงขอให้เลิกทำผิดแล้วแม่ให้อภัย



นางอารีย์ ปานแดง อายุ 60 ปี พี่สาวต่างบิดานายจตุพร และผู้ดูแลนางน่วม กล่าวว่า นายจตุพรออกจากบ้านไปอยู่กับพ่อที่ จ.นครศรีธรรมราชตั้งแต่อายุ 8 ขวบ หลังจากนั้นห่างเหินไป จนกระทั่งกลับมาล่าสุดเมื่อ 5 ปีก่อนมาร่วมงานศพนายคะนึง บัวแก้ว พี่ชายต่างบิดาและไม่มาอีกเลย ซึ่งมารดาสุขภาพไม่ดีเดินไม่ได้ หลงๆลืมๆได้แต่บ่นหานายจตุพรทุกวัน โดยการกระทำทางการเมืองที่เกิดขึ้นญาติพี่น้องไม่เคยได้มีส่วนร่วมเลย


 


"เยาวภา" เยี่ยมม็อบ ชมเปาะ เสื้อแดงเข้าใจอะไรง่าย


เว็บไซต์แนวหน้า - นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พร้อมด้วย น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาว และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องของพ.ต.ท.ทักษิณ มาให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมท่ามกลางเสียงปรบมือตอนรับ


 



นางเยาวภา ให้สัมภาษณ์ว่า มาในวันนี้เพื่อให้กำลังใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม และมาด้วยหัวใจเป็นประชาธิปไตย ส่วนสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ตนเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย รักความสงบ ยุติธรรม ดูจากการชุมนุมหลายวันที่ผ่านมาไม่มีความรุนแรงใดๆ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะไปต่างประเทศเพื่อไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ก็ไม่ได้ไปเพราะวันนี้ตนอยู่ที่นี่ มาดูกลุ่มผู้ชุมนุม มาเพื่อรักษาสิทธิเสรีภาพของระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องการทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่จอมปลอม


 


เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายเนวินออกมาพูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภากล่าวว่า เป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ขอพูดถึง เขาคิดอย่างก็พูดอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะมาวิพากษ์วิจารณ์


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนนี้ในการวีดีโอลิงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จะติดตั้งระบบหลักของการถ่ายทอดที่หน้าบ้าน พล.อ.เปรม มายังเวทีใหญ่ และเวทีย่อยตามจุดต่างๆ แทนที่จะใช้เวทีใหญ่หน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นจุดแพร่สัญญาณเหมือนเช่นที่ผ่าน ๆ มา


 


"ชัยสิทธิ์-โอ๊ค"ดอด บินไปนอกแล้ว


เว็บไซต์คมชัดลึก - รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า คนตระกูลชินวัตร ได้เดินทางไปต่างประเทศเพิ่มอีก 2 คน คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร พี่ชายงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จองตั๋วเที่ยว B R 212 ปลายทางที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ส่วนนายพานทองแท้ บุตรชายได้เดินทางไปประเทศดูไบ ในเวลา 03.00 น.ของวันพุธที่ 8 เม.ย. ด้วยเที่ยวบิน EK 419 ของสายการบินเอมิเรต


 


หลังจากที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภริยาพ.ต.ท.ทักษิณ และบุตรสาว ได้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าขณะนี้ทั้งบุตรชาย บุตรสาว และอดีตภริยาของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว


 


สภาล่ม! รัฐบาลไม่เปิดให้ "ฝ่ายค้าน" ถกญัตติด่วนม็อบเสื้อแดง


เว็บไซต์แนวหน้า - ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร(ฉบับที่..) พ.ศ. .... โดยประเด็นสำคัญที่วุฒิสภาแก้ไขคือ การหักลดหย่อนภาษีการอุปการะบิดามารดา สามี ภรรยา บุตร ที่พิการ ให้รวมถึงพี่น้องร่วมบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา และให้รวมถึงกรณีการทุพลภาพด้วย และให้หักได้ 60,000 บาท ขณะที่ร่างเดิมกำหนดที่ 30,000 บาท


 



หลังจากที่ประชุม อภิปรายนาน 30 นาที นายสามารถ จึงสั่งให้ปิดการอภิปราย เพื่อลงมติ แต่เมื่อตรวจสอบองค์ประชุมมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียง 137 คน นายสามารถ จึงสั่งเลื่อนการลงมติ และปิดประชุมเวลา 17.10 น.


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสาเหตุที่องค์ประชุมไม่ครบ เป็นเพราะความตั้งใจของฝ่ายรัฐบาล ก่อนหน้านี้ระหว่างการประชุม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย จะขอหารือเรื่องการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม รับว่า จะให้หารือภายหลังการพิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร จนเมื่อมีการเตรียมลงมติร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จึงไม่แสดงตน ส่งผลให้สภาล่ม ทั้งๆที่การพิจารณาร่างกฎหมายก่อนหน้านี้มีสมาชิกอยู่ในห้องกว่า 260 คน


 


ตร.ออกหมายจับเพิ่ม 2 รายร่วมฆ่าองคมนตรีชาญชัย


เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.เปิดเผยความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ล่าสุด ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ประกอบด้วย 2 ราย คือ นาวาเอกจักรกฤษณ์ เสขะนันท์ และนายแจ็ค ไม่ทราบนามสกุล ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งล่าตัวนายแจ็ค ส่วนนาวาเอกจักรกฤษณ์ อยู่ระหว่างการประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้ส่งตัวมาสอบสวนดำเนินคดี


 


 


เศรษฐกิจ


 


"ศุภชัย" คาดศก.โลกกระเตื้องปีหน้า


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการองค์การที่ประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (อังค์ถัด) กล่าวเมื่อวันอังคาร (7 เม.ย.) ว่า การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจสำคัญ 20 ชาติ (จี 20) ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ในสัปดาห์ที่แล้ว ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจ และอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยกินเวลาสั้นลง


 



นายศุภชัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการพูดถึง "ต้นอ่อน" ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ สิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อความน่าเชื่อถือของผู้นำจี 20 คือการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ การที่เหล่าผู้นำให้สัญญาครอบคลุมในวงกว้าง รวมถึงข้อเท็จจริงว่าผู้นำจากหลายประเทศมารวมตัวกันเพื่อแก้ไขปัญหา ถือเป็นสัญญาณในทางบวก


 



เลขาธิการอังค์ถัด กล่าวว่า ผลสำคัญที่เกิดขึ้นทันทีจากการประชุมสุดยอด จี 20 คือ การเพิ่มความเชื่อมั่น ในขณะที่มาตรการที่ตกลงกันไว้ จะต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเห็นผล


 



"มีโอกาสสูงที่ในปี 2553 จะมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่เศรษฐกิจโลกจะกระเตื้องขึ้น" นายศุภชัยกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งนี้มีลักษณะเหมือนอักษรรูปตัว แอล ฐานของตัว แอล อาจสั้นกว่าที่หลายคนเคยกังวล และมีความเป็นไปได้ที่ประเทศในเอเชียอาจเริ่มต้นหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


 



นอกจากนี้ นายศุภชัยกล่าวว่า ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของสหรัฐเป็นสิ่งที่ยากต่อการแก้ไข มากกว่าปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบธนาคาร โดยหนี้สินภาคครัวเรือนในสหรัฐขณะนี้อยู่ที่ระดับประมาณ 130-150% ของรายได้ส่วนบุคคล เทียบกับ 90% ในช่วงเวลาปกติ และ 60% ในเอเชีย


 



ภาคครัวเรือนสหรัฐได้รับแรงกดดันเป็นอย่างมากให้ออมเงินเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะกระตุ้นให้ใช้จ่ายเพื่อยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนประเทศในเอเชียมีความโน้มเอียงทางวัฒนธรรมที่จะออมเงินอยู่แล้ว จึงควรมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่โครงข่ายความคุ้มครองทางสังคม เช่น เงินบำนาญ เพื่อลดความจำเป็นในการออมเงินไว้ใช้ยามคับขัน


 


รัฐรับปากเอกชนลดอุปสรรคธุรกิจขอรอเวลาเหมาะ


เว็บไซต์สยามรัฐ - นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ได้พิจารณาข้อเสนอของภาคเอกชนหลายเรื่อง เช่น ผลกระทบจาก พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2551 มาตรา 11/1 ซึ่งกระทรวงแรงงานรับไปพิจารณาประเด็นที่เป็นผลกระทบทุกด้านเพื่อจะได้แก้ไขต่อไป


 



การพิจารณาข้อเสนอเรื่องไม้เศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับไปพิจารณาว่าจะสามารถแยกไม้เศรษฐกิจออกจากการควบคุมของ พ.ร.บ.นี้หรือไม่ โดยจะมีมาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาว ซึ่งจะได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ หากทำได้จะลดปัญหาการนำไม้ไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ


 



พร้อมกันนี้ ยังทบทวนการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ทำไว้กับหลายประเทศ ขณะเดียวกันกรอ.มีมติให้ตั้ง กรอ.จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ส่วนการที่เอกชนขอชะลอการปรับขึ้นค่าเอฟที เรื่องนี้กระทรวงพลังงานเป็นผู้ดูแล ขณะที่การขอนำค่าไฟฟ้าที่จ่ายในปี 2552 ไปหักลดหย่อนภาษี 5 เท่าในปี 2553 ทางกระทรวงการคลังขอชะลอไปก่อน เนื่องจากห่วงปัญหาการจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้า


 


กฟผ.เร่งผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าเพื่อนบ้าน เสนอโครงการป้องกันยกเลิกสัญญา


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในกลางเดือนเม.ย.นี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะส่งหนังสือไปยังผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้านกว่า 10 โครงการ ทั้งในประเทศลาว กัมพูชา และพม่า เพื่อให้นำเสนอโครงการกับ กฟผ. โดยต้องยื่นข้อเสนอเรื่องเทคนิค และราคา รวมถึงนำเสนอระยะเวลาที่จะจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ โดย กฟผ.จะเน้นการพิจารณาราคาเป็นหลัก เพื่อมาช่วยเฉลี่ยต้นทุนค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) ในระยะยาวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


 



จากนั้นจะให้เวลา 3 เดือนเพื่อให้แต่ละรายเจรจากับ กฟผ. หากตกลงได้ก็จะทำบันทึกความเข้าใจเรื่องค่าไฟฟ้า และลงนามซื้อขายไฟฟ้าต่อไป และเพื่อลดปัญหาการยกเลิกข้อตกลงโดยไม่มีเหตุสมควร กฟผ.จะวางระบบการเก็บเงินประกันโครงการ


 



"การเจรจาซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน จะเก็บเงินประกัน เพื่อให้โครงการเกิดได้จริง ก่อนหน้านี้ทำเป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้นหรือเอ็มโอยู จะทำให้การยกเลิกโครงการทำได้ง่าย ส่งผลต่อการกำหนดแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของไทย"


 


แหล่งข่าว กล่าวว่า แผนการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศครั้งนี้ จะอยู่ในแผนพีดีพี 2009 (ปี 2553 -2567) ที่กระทรวงพลังงานจะเริ่มดำเนินการในปลายปี 2552 โดยแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศจะทยอยเข้าระบบหลังปี 2558 ส่วนจะรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศทั้งหมดหรือไม่ ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจภายใต้แผนพีดีพี 2009 แต่ระยะแรกอาจรับซื้อแค่ 2,000 เมกะวัตต์ก่อน


 



ทั้งนี้มองว่า การซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งประเทศผู้ซื้อและขายไฟฟ้า ในส่วนของไทยในฐานะประเทศผู้รับซื้อ ช่วยให้เกิดความมั่นคงของระบบไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น ถ่านหิน หรือนิวเคลียร์ ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดขึ้นได้ตามกำหนดหรือไม่ ส่วนโครงการที่ กฟผ.จะทำหนังสือให้มานำเสนอโครงการ อาทิ น้ำงึม 3 น้ำเทิน 1 หงสาลิกไนต์ น้ำอู และน้ำเงี๊ยบ เซเปียน เซน้ำน้อย สตรึงนัม ฮัดจี เกาะกง ดอนสะหง


 


แบงก์เริ่มแล้ว เติม ATM แสนล. กด "สงกรานต์"


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มทยอยนำเงินสดสำรองในสาขาและตู้ ATM เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 11-15 เม.ย.2552 ล่าสุดมี 8 ธนาคาร เป็นเงิน 106,750 ล้านบาท


 



โดยธนาคารนครลวงไทยได้สำรองเงินสดรวม 5,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ ได้สำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าประมาณ 22,000 ล้านบาท ผ่านช่องทางบริการ ATM ที่มีกว่า 5,600 จุด และผ่านสาขาทั่วประเทศ


 



ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้สำรองเงินไว้ 20,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 2,000 ล้านบาท โดยสำรองผ่านสาขาทั่วประเทศ 5,000 ล้านบาท และใส่เครื่องกรุงศรี ATM ทั่วประเทศ 2,604 เครื่อง เป็นเงิน 15,000 ล้านบาท


 



ธนาคารกสิกรไทยจัดเตรียมเงินสดเป็นมูลค่า 19,750 ล้านบาท แบ่งเป็นเขตกรุงเทพมหานคร 10,600 ล้านบาท และต่างจังหวัด 9,150 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารทหารไทย 8,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 3,000 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย 19,000 ล้านบาท และธนาคารไทยพาณิชย์ 12,500 ล้านบาท



ก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ได้สำรองเงินสดไว้ 300,000 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์เบิกจ่ายนำไปสำรองเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าสงกรานต์ปีนี้จะมีเงินสะพัด 98,275.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.18% เทียบปีก่อน


 


 


คุณภาพชีวิต


 


บางจาก ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิด 60 สต./ล.-อี 85 อีก 4.60 บ./ล.มีผลพรุ่งนี้


เว็บไซต์แนวหน้า - มีรายงานข่าวว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จะปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดอีก 60 สตางค์/ลิตร ยกเว้น อี 85 เพิ่มขึ้น 4.60 บาท มีผลพรุ่งนี้ (9 เม.ย.)


 


วธ.คงเรต 7 หนังต้องห้าม คาดประกาศใช้ทัน 2 มิ.ย.
มติชนออนไลน์ - นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวข้อเรียกร้องให้ตัดเรต 7 ในร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดประเภทภาพยนตร์ ห้ามเผยแพร่ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำลายความมั่นคงของประเทศ ก่อให้เกิดแตกความสามัคคี เหยียดหยามศาสนา ขัดต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมในราชอาณาจักร ว่า ไม่จำเป็นต้องตัดออก หรือแก้ไขประเภทเรตติ้ง เพราะเหมาะสมแล้ว แม้ในต่างประเทศจะแบ่งเรตเพียง 5 ประเภทก็ตาม หากกฎหมายประกาศใช้เป็นทางการ และมีผู้ประกอบการ ผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ยื่นคัดค้านต่อคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ หรือขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองได้ คาดว่าจะประกาศใช้ภายในวันที่ 2 มิถุนายนนี้แน่นอน


 


สภาฯ เห็นชอบวาระสาม ปลดล็อค วาระการดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น


เว็บไซต์แนวหน้า - สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประการประชุม โดยนายชัย แจ้งว่า ขณะนี้มีสมาชิกมาเซ็นชื่อ 234 คน ถือว่า ครบองค์ประชุม พร้อมขอให้งดการหารือในวันนี้อ้างว่ามีร่างกฎหมายค้างอยู่ในระเบียบวาระหลายสิบฉบับต้องเร่งพิจารณาเพื่อให้สภามีผลงานโดยเฉพาะร่างกฎหมายเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น


 



จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เทศบาล ร่างพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ร่างพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด และร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณารายมาตรา แต่ให้อภิปรายไปในคราวเดียว เพราะร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ มีสาระสำคัญเหมือนกันคือ การปลดล็อกวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ จากเดิมที่กำหนดว่า ให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 สมัย โดยทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างอภิปรายสนับสนุนร่าง


 



ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมอภิปรายใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง ที่ประชุมลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ ในวาระ 3 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป


 


 


ต่างประเทศ


 


อาฟเตอร์ช็อกถล่มซ้ำอิตาลี ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 250 ราย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (8 เม.ย.) ว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายระลอกในเมืองลาควีลา ของอิตาลี รวมถึง ครั้งรุนแรงสุด ในช่วงก่อนรุ่งสางวานนี้ ที่วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.5 และ 5.7 ริกเตอร์


 



เหตุอาฟเตอร์ช็อกดังกล่าว ทำให้มีอาคารพังทลายมากขึ้น ทำให้การกู้ภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (6 เม.ย.) เป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น


 



แม้เจ้าหน้าที่จะมีความหวังพบผู้รอดชีวิตน้อยลง แต่ก็สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในซากปรักหักพังเพิ่มมากขึ้น รวมถึง หญิงชราวัย 98 ปี ผู้บอกว่าถักโครเชต์รอความช่วยเหลือมา 30 ชั่วโมง กับเด็กหญิงในชุดนอนคนหนึ่งที่ติดอยู่ในซากอาคารมานานถึง 48 ชั่วโมงแล้ว


 



ขณะเจ้าหน้าที่เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่อย่างน้อย 250 คนแล้ว ขณะผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนจากกว่า 1,500 คน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้นในเมือง


 



ทางด้านนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ ระบุว่า มีตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน และอาสาสมัครมากกว่า 7,000 คน เข้าช่วยในการค้นหาที่จะดำเนินต่อไปอีก 48 ชั่วโมง โดยรัฐบาลเร่งจัดหาที่หลบภัยเพิ่มเติมให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 17,000 คน ท่ามกลางอุณหภูมิใกล้จุดเยือกแข็งเป็นคืนที่สอง พร้อมจัดตำรวจ 200 นายออกลาดตระเวน เพื่อป้องกันการปล้นอพาร์ตเมนต์ และร้านค้าที่ถูกทิ้งร้าง


 



อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า บรรดาผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ยังขาดแคลนเตียงนอน และห้องน้ำจำนวนมาก โดยผู้เคราะห์ร้ายหลายรายยังต้องอาศัยนอนอยู่ตามรถยนต์


 


แฉตร.ผลักผู้ตายม็อบจี 20


เว็บไซต์สยามรัฐ - ลอนดอน - ผลการสอบสวนคดีนายเอียน ทอมลินสัน คนขายหนังสือพิมพ์วัย 47 ปี ซึ่งเสียชีวิต ในเหตุการณ์ประท้วงการประชุมประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ 20 ประเทศ หรือจี20 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากภาพวิดีโอที่ บันทึกได้พบว่า นายทอมลิสันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผลักอย่างแรงจนล้มลง ขณะกำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกงาน โดยเหตุเกิดขึ้นที่ด้านหน้าธนาคารกลางอังกฤษ ก่อนจะเกิดอาการโรคหัวใจกำเริบ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


 


ฝ่ายค้านมาเลเซียคว้าชัยเลือกตั้งซ่อม


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวานนี้ (8 เม.ย.) ว่า กลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายค้านของมาเลเซีย พากันเฉลิมฉลอง หลังได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 เม.ย.) ด้วยการคว้าชัย ใน 2 พื้นที่ จากทั้งหมด 3 พื้นที่


 



การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ แบ่งเป็นการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาประจำรัฐใน 2 พื้นที่ คือ รัฐซาราวัก และเกดะห์ ผลปรากฏว่า พรรครัฐบาลกวาดชัยชนะในรัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว และพรรคฝ่ายค้านชนะในรัฐเกดะห์ ส่วนอีกพื้นที่คือ รัฐเประ เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคฝ่ายค้านสามารถกวาดชัยชนะมาได้อย่างถล่มทลาย จึงทำให้มีเก้าอี้ ส.ส. เพิ่มมาอีก 1 ที่ ในรัฐสภา


 



นายอันวาร์ อิบราฮิม แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชน ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของพรรคฝ่ายค้าน ระบุว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจน ถึงการไม่ยอมรับในตัวนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และยังเป็นเหมือนการลงประชามติต่อกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของพรรครัฐบาล ต่อความไร้เสถียรภาพในการรักษาสัญญาว่าจะปฏิรูป


 



อย่างไรก็ดี กลุ่มพรรครัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจกับผลการเลือกตั้งครั้งนี้มากนัก โดยชี้ว่า นายนาจิบต้องการเวลามากกว่านี้ ในการสร้างความประทับใจให้กับประชาชน


 



ทางด้านนักวิเคราะห์ มองการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ว่าเป็นเหมือนบททดสอบบทแรกของนายนาจิบ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ และเป้าหมายของนายนาจิบ ที่ต้องการเห็นความสำเร็จในการปฏิรูปพรรครัฐบาลอัมโน และปรับปรุงความสัมพันธ์กับชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีน และอินเดีย


 



หลายฝ่ายจับตามองการเลือกตั้งที่ซ่อมที่รัฐเประเป็นพิเศษ เพราะเป็น 1 ใน 5 รัฐ ที่พรรคฝ่ายค้านเคยกวาดชัยชนะมาได้ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว เหตุการณ์ที่สร้างความอับอายให้แก่พรรครัฐบาลเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่พรรครัฐบาลมาเลเซีย ไม่สามารถครองที่นั่งในสภาได้เกิน 2 ใน 3 นับจากได้รับเอกราชจากอังกฤษ เมื่อปี 2500 ทำให้ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมที่รัฐเประครั้งล่าสุด จึงยิ่งสร้างความอับอายให้พรรครัฐบาลมากขึ้น


 



วันเดียวกันนี้ หนังสือพิมพ์นิว สเตรตส์ ไทมส์ และแหล่งข่าวในรัฐบาลมาเลเซีย เปิดเผยว่า นายนาจิบ กำลังตัดสินใจขั้นสุดท้ายเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีการลดขนาดคณะรัฐบาลที่ปัจจุบันมี 27 กระทรวง 32 รัฐมนตรีให้เล็กลง


 



ขณะนี้ ผู้นำมาเลเซีย แจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบแล้วว่า อาจได้ตำแหน่งคณะรัฐมนตรีน้อยลง โดยเขาอาจเก็บตำแหน่งรัฐมนตรีคลังไว้ ส่วนนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน รองหัวหน้าพรรคอัมโน คาดว่า จะได้นั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม


 


"โอบามา" แอบแวะเยือนอิรัก


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐดอดเยือนกรุงแบกแดดของอิรักเมื่อวันอังคาร หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ตุรกี เรียกร้องทุกฝ่ายในอิรักปรองดองกัน พร้อมย้ำถึงเวลาแล้วที่ชาวอิรักต้องดูแลตัวเอง


 



ระหว่างการเยือนโดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าครั้งนี้ โอบามาได้พบหารือกับประธานาธิบดีจาลาล ทาลาบานี และนายกรัฐมนตรีนูรี อัลมาลิกี นอกจากนี้ยังได้พบกับพลเอกเรย์มอนด์ โอดิเอร์โน ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในอิรัก และทหารอีกราว 1,500 นาย ที่แคมป์วิกตอรี ฐานทัพสหรัฐนอกกรุงแบกแดด


 



เพียง 1 วันก่อนหน้าที่เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันจะร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาติในกรุงแบกแดด ได้เกิดเหตุระเบิดหลายระลอกทั่วอิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 37 ราย รวมถึงเหตุคาร์บอมบ์ที่ถิ่นที่อยู่ของชาวชีอะห์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดด คร่าชีวิตผู้คนไป 9 ราย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าที่โอบามาจะเดินทางถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมง


 



แต่อย่างไรก็ดี ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในอิรักแจ้งแก่โอบามาว่า แม้จะเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว แต่หากดูจากภาพรวมจะพบว่าปัจจุบันเหตุรุนแรงลดลงอยู่ที่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อปี 2546


 



"ถึงเวลาแล้วที่ชาวอิรักจะดูแลประเทศนี้ด้วยตนเอง แต่กว่าจะถึงจุดนั้นอิรักจำเป็นต้องมีความมั่นคงทางการเมืองด้วย" โอบามากล่าวแสดงความเป็นห่วงการเลือกตั้งทั่วไปของอิรักที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า


 



ประธานาธิบดีทาลาบานี และนายกฯ อัลมาลิกีเห็นด้วยกับโอบามาว่า แม้สถานการณ์ในอิรักขณะนี้จะดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันจำเป็นต้องมีความคืบหน้าทางด้านการเมืองด้วย


 



ด้านผู้เชี่ยวชาญอิรักกังวลว่าสถานการณ์ในอิรักจะร้อนระอุขึ้นมาอีกหากกลุ่มชีอะห์ สุหนี่ และเคิร์ด ไม่อาจตกลงปรองดองกันทางการเมืองได้


 



การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นของอิรักเมื่อเดือน ม.ค.ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแม้แต่เหตุการณ์เดียว แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐและอิรักคาดว่าความไม่ลงรอยระหว่างนิกายต่างๆ จะกลับมาตึงเครียดอีกครั้งก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป


 



เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โอบามาประกาศจะถอนทหาร 35,000-50,000 นาย จากทั้งหมดที่มีอยู่ราว 140,000 นายออกจากอิรักภายในสิ้นเดือน ส.ค.ปีหน้า และที่เหลือจะทำหน้าที่ช่วยฝึกกองกำลังอิรักไปจนถึงปี 2554 ทั้งนี้ เนื่องจากเขาต้องการหันไปเพิ่มความสำคัญกับสงครามในอัฟกานิสถานมากขึ้น ซึ่งเขาเพิ่งประกาศจะส่งกำลังพลไปเพิ่มอีก 21,000 นาย


 


กลุ่มสิทธิมนุษยชนขานรับศาลเปรูจำคุก "ฟูจิโมริ" 25ปี


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - กลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ พากันแสดงความดีใจต่อคำตัดสินของศาลพิเศษเปรู ที่พิพากษาจำคุกนายอัลเบอร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดี เป็นเวลา 25 ปี ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ระหว่างการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศตั้งแต่ปี 2533 ถึง 2543


 



ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากล แถลงว่า คำพิพากษาอดีตผู้นำเปรูเป็นก้าวสำคัญของโลก ที่พยายามต่อต้านความไม่เป็นธรรม โดยนายฟูจิโมริ ถูกกล่าวหาว่า อนุมัติให้หน่วยล่าสังหารของกองทัพบกสังหารประชาชนในปี 2534 และ 2535


 



อดีตประธานาธิบดีเปรูวัย 70 ปี กล่าวว่า เขาจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ส่วนนางเคโกะ ฟูจิโมริ บุตรสาวคนโตของนายฟูจิโมริ ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาและกำลังพิจารณาจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2554 เรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรม ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงของผู้สนับสนุนนายฟูจิโมริกว่า 2,000 คนที่กำลังโกรธแค้น หลังทราบคำตัดสินดังกล่าว


 



ทางด้านนายไมเคิล รีด เฮอร์ทาโด สมาชิกศูนย์นานาชาติเพื่อความยุติธรรม ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ ซึ่งประกอบด้วยผู้พิพากษาหลายคน ที่นายฟูจิโมริเป็นผู้แต่งตั้ง จะแสดงความเป็นอิสระ และพิพากษายืนคำตัดสินของศาลพิเศษที่ประกอบด้วยผู้พิพากษา 3 คน


 



นายฟูจิโมริ ซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่น ยืนยันว่า ตนเองบริสุทธิ์มาตลอดการพิจารณาคดีนาน 15 เดือน ซึ่งยาวนาน และเสียค่าใช้จ่ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเปรู โดยระบุว่า เขาไม่ทราบถึงการกระทำของทหารหน่วยดังกล่าวที่สังหารประชาชน 15 คนในงานเลี้ยงที่กรุงลิมาเมื่อปี 2534 รวมถึงการลักพาตัวนักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัย 10 คนเมื่อปี 2535


 



อย่างไรก็ตาม ศาลพิเศษพบว่า นายฟูจิโมริมีอำนาจ และพยายามปกป้องทหารหน่วยนี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "ลา โคลินา" และยังพบด้วยว่า อดีตผู้นำรายนี้สั่งการให้ลักพาตัวนักธุรกิจและผู้สื่อข่าวในปี 2535


 



ทั้งนี้ นายฟูจิโมริลาออกจากตำแหน่งในปี 2543 หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวในคดีคอร์รัปชัน และหลบหนีไปญี่ปุ่น ซึ่งปฏิเสธที่จะส่งตัวนายฟูจิโมริกลับเปรู แต่นายฟูจิโมริถูกทางการชิลีจับกุมในปี 2548 หลังเดินทางไปชิลีเพื่อต้องการเริ่มต้นอาชีพการเมืองในเปรูอีกครั้ง


 



นายฟูจิโมริถูกศาลตัดสินจำคุกก่อนหน้านี้แล้ว 6 ปี ในข้อหาลุแก่อำนาจ และเขายังต้องเผชิญการพิจารณาข้อหาคอร์รัปชันอีก 2 คดีในอนาคต

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net