Skip to main content
sharethis

"พัลลภ" แถลงหมดเปลือก แผนโค่นระบอบทักษิณ


พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์เปิดใจเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ถึงเหตุการณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินพาดพิง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังร่วมวางแผนโค่นล้มระบอบทักษิณ 19 ก.ย.2549 ว่า เป็นเรื่องจริง แต่ว่าพล.อ.สุรยุทธ์ ไม่เคยเชิญตนเข้าร่วมประชุม แต่เจ้าของบ้านที่สุขุมวิท เชิญตน และประชุมร่วมกัน ซึ่งไม่ได้ประชุมแค่ครั้งเดียว แต่มีการประชุมกัน 3-4 ครั้ง ซึ่งมีการพูดคุยปัญหาของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณว่า จะให้รัฐบาลล้มไปอย่างไร โดยมี 2 แนวทาง คือ ทางด้านรัฐธรรมนูญ หรือทางด้านกฎหมาย ถ้าแนวทางแรกไม่สำเร็จก็จะทำรัฐประหาร


 


เมื่อถามว่า การทำรัฐประหารมีการพูดหรือไม่ว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ไม่ได้มีการพูดถึง เพียงแต่ พล.อ.สุรยุทธ์ เสนอขึ้นมาว่า การทำครั้งนี้ ทำเพื่อประเทศชาติ ทุกคนจะต้องไม่หวังตำแหน่งใด ๆ ซึ่งทุกคนศรัทธาในตัวท่าน ทั้งนี้ การหารือเป็นลักษณะโต๊ะกลม ซึ่งไม่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. นั่งอยู่ด้วย "


 


 


แฉ "สุรยุทธ์" เสียสัจจะ ที่บอกจะไม่เป็นนายกฯ


เมื่อถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ระบุว่า ไม่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ คมช.เชิญให้ไปเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "คงต้องไปถามท่าน ผมเดาใจไม่ถูก เพราะทุกคนงงหมด ผมก็งง" เมื่อถามว่า แสดงว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นตัวตั้งตัวตีในการวางแผนล้มรัฐบาล พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า จะ พูดว่าตัวตั้งตัวตีคงไม่ได้หรอก แต่ว่าการประชุม พล.อ.สุรยุทธ์ จะมาทุกครั้ง เมื่อถามว่า พอจะบอกได้หรือไม่ว่า คนที่เป็นแกนนำในการล้มรัฐบาลเป็นใคร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า อันนี้ตนบอกไม่ได้ เพราะว่าตนไม่อยากพาดพิงถึงคนอื่น แต่เมื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ มาพาดพิงถึงตน ตนก็จะพูดถึง พล.อ.สุรยุทธ์ เท่านั้น ซึ่ง การประชุม 3-4 ครั้ง ก็จะมีการพูดถึงแนวทางเรื่องการล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอด อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นคนเสนอในที่ประชุมเองว่า การทำงานครั้งนี้ เราทำเพื่อประเทศชาติ ทุกคนต้องไม่หวังตำแหน่งลาภยศใด ๆ


 


"หลังจากที่ปฏิวัติรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ ก็ไปเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้พูดง่าย ๆ พวกเราผิดหวังมาก และผมก็ผิดหวัง ตอนแรกก็ชื่นชม พล.อ.สุรยุทธ์ มากเกี่ยวกับแนวความคิดดังกล่าว พูด ง่าย ๆ พล.อ.สุรยุทธ์ เสียสัจจะกลายเป็นคนไม่มีสัจจะและผิดมติในที่ประชุม แต่ท่านอ้างว่า ได้ประชุม ได้คุยกัน ซึ่งถือว่าเป็นการผิดมติในที่ประชุม ซึ่งในการพูดคุยในวันนั้นมีประมาณ 7 คน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งนั้น ซึ่งหลังจากนั้น ผมไม่ได้พูดจากับพล.อ.สุรยุทธ์อีกเลย เจอหน้ากันก็ทำเหมือนคนไม่รู้จัก ทั้งๆ ที่เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตน และเป็นนายทหารรุ่นน้อง สมัยที่ตนเป็นผบ.ค่ายสฤษดิ์เสนา ส่วนพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผู้บังคับหมวด" พล.อ.พัลลภ กล่าว


 


เมื่อถามว่า ในการพูดคุยมีการวางแผนอย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "อย่างแรก คือการวางแผนทางด้านกฎหมาย และการทำรัฐประหารว่าจะทำอย่างไร ซึ่งการที่ผมไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ท่านทราบหมดแล้ว แต่ท่านถามตนในลักษณะใช่หรือไม่ใช่ ยกตัวอย่างเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เล่าให้ผมฟังคือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับ พล.อ.สุรยุทธ์ มีครั้งหนึ่งที่เชิญ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ อดีต กกต. ไป พบที่บ้าน พล.ต.จำลอง แถวราชวัตร และล็อบบี้ให้ พล.อ.จารุภัทร ถอนตัวออกจาก กกต. เพื่อล้มการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2549 ซึ่งพล.อจารุภัทร รายงานให้พ.ต.ท.ทักษิณได้รับทราบ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณไปหา พล.อ.สุรยุทธ์ที่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่พล.อ.สุรยุทธ์ปฏิเสธ"


 


"เรื่องแบบนี้พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานกกต.เคยได้รับเชิญไปที่บ้านสุขุมวิท เพื่อไปพบ พล.อ.สุรุยุทธ์ และล็อบบี้ให้ลาออกออกจากตำแหน่ง และล้มการเลือกตั้ง ดังนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความลับ พ.ต.ท.ทักษิณรู้ดีตั้งแต่ต้นว่า จะมีการล้มรัฐบาล เพราะ มีแหล่งข่าวที่ติดตามพวกที่เคลื่อนไหวทั้งหมดเพียงแต่มาสอบถามผม ว่า เรื่องที่รู้มาจริง หรือไม่ เมื่อตอนที่ผมเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่จีน" พล.อ.พัลลภกล่าว



เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นอย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ไม่เคยมีปัญหาอะไร ท่านเป็นลูกน้องผมถึง 6 รุ่น" เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พุ่งเป้าไปที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เพื่อพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงใช่หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ไม่ทราบ" เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณรู้ตลอดเวลาว่า จะถูกปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ท่านรู้มาตลอดทุก เรื่อง แม้แต่แผนการปฏิวัติ ซึ่งไม่รู้ว่า ปฏิวัติเมื่อไร แต่ท่านประมาท เพราะไว้ใจคนใกล้ตัว และเพื่อนตท.10 ที่คุมกำลังอยู่ในกองทัพ"



"ส่วนการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มี ซึ่งการรัฐประหารโดยปกติจะต้องล็อกตัวนายกฯ ซึ่งคนละเรื่องกับการลอบสังหาร ขอยืนยันว่า ไม่มีการลอบสังหาร แต่อาจเป็นการเข้าชาร์จหรือ ล็อกตัวนายกฯ" เมื่อถามว่า เหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมาพูดในช่วงนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้แผนการปฏิวัติมานานแล้ว พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ท่านรู้มานานแล้ว แต่คงหาคนอ้างอิงไม่ได้ เผอิญผมเดินทางไปหาท่านพอดี จึงหาพยานเสียเลย"


 


 


อ้างเข้าหา "ทักษิณ" ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากัน
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ประเทศชาติจะมีทางออกอย่างไร เมื่อมีกลุ่มเสื้อแดงออกมาชุมนุม พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ที่ ตนตัดสินใจไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ คือเรื่องความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งตนไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากัน เกิดสงครามการเมือง ซึ่งมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้สัมภาษณ์ว่า คนที่จะแก้ไขปัญหาได้คือพ.ต.ท.ทักษิณ จึงทำให้ตนอยากพบพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวันนี้เงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนไป คือ รัฐบาลตั้งขึ้นมาโดยไม่มีความชอบธรรม เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย เพราะต้องให้เสียงข้างมากเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่นี่เป็นการล็อบบี้กันแบบงูเห่า ซึ่งมองว่า ไม่ถูกต้อง เพราะควรให้เสียงข้างมากตั้งก่อน หากเขาตั้งไม่ได้ ตัวเองจึงจะค่อยตั้ง แต่เป็นการชิงตั้งก่อน



เมื่อถามว่า เหตุการณ์จะยุติอย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนก็มองไม่ออกว่าเหตุการณ์จะยุติอย่างไร เมื่อถามว่า มีทางหรือไม่ที่รัฐบาลจะยอมลาออก เพื่อให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะไม่ได้คุยกับใครเลย เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์จะมีความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า อยู่ที่จุดมุ่งหมายว่าเขาต้องการทำอะไร พูดง่าย ๆแบบพฤษภาทมิฬ เมื่อ พล.ต.จำลอง โดนจับ และตนเป็นคนนำ และเกิดเหตุการณ์นักศึกษาตีตำรวจบาดเจ็บเราจึงเข้าไปช่วยนักศึกษา ตีตำรวจ จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น ต้องดูว่าวันนี้จะเกิดแบบนี้หรือไม่ ถ้ารัฐบาลใช้ความรุนแรงก็จะต้องเกิดขึ้นแน่ ซึ่งตนไม่อยากเห็นคนไทยฆ่าคนไทย เพราะในชีวิตตนผ่านเรื่องนี้มาเยอะ


 



ขอให้ "สุรยุทธ์" ลาออกจากองคมนตรี เพื่อรักษาสถาบัน
เมื่อถามว่า หากมีการเผาสถานที่ราชการมีการยั่วยุให้เกิดการปะทะกันหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ตนไม่รู้ เพราะตนไม่เคยยุ่งกับเขา และเขาจะเดินขนาดไหน เมื่อถามว่า ในฐานะอดีตทหารเก่ามองภาพผู้นำกองทัพตอนนี้อย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนเป็นทหารรุ่นพี่ของเขา ตนไม่อยากวิจารณ์ เพราะคนที่เป็นผู้นำเหล่าทัพส่วนใหญ่ก็เป็นลูกศิษย์ตนทั้งนั้น ตนเหมือนกับ "บิ๊กจ๊อด" พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ที่ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ตนยึดถือตรงนี้เพราะตนเคารพท่านมาก ทั้งนี้ตนคิดว่าทหารจะต้องยืนอยู่เคียงข้างประชาชน คือยึดถือความมั่นคงของประเทศชาติ และความสันติของประชาชนเป็นหลัก



"ผมอยากฝากไปถึง พล.อ.สุรยุทธ์ ว่าเพื่อรักษาสถาบันอันมีเกียรติแห่งนี้ ท่านควรจะลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี เพราะองคมนตรีต้องไม่ยุ่งกับการเมือง แต่ท่านเป็นคนที่เข้ามายุ่งกับการเมือง ดังนั้น เพื่อรักษาสถาบันอันสำคัญยิ่งไว้ ผมคิดว่าท่านควรจะต้องลาออกในฐานะที่ผมเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา และรุ่นพี่ ผมไม่มีอะไรกับท่านเลย" พล.อ.พัลลภ กล่าว


 


เมื่อถามว่า มองอย่างไร ที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นองคมนตรี และไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเสร็จภารกิจก็ยังกลับมาเป็นองคมนตรีได้ ซึ่งคนมองว่าเป็นการมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า คนเขาพูดกันอยู่แล้ว ตนไม่ต้องพูด เมื่อถามว่า การกลับไปกลับครั้งนี้เป็นเพราะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ คอยเป็นแบล็กหนุนใช่หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดเลยไปถึงนั้น วันนั้นตนพูดเฉพาะ พล.อ.สุรยุทธ์ คนเดียวที่มีการพาดพิงมาถึงตน คนอื่นตนไม่อยากพูด



เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีการพูดพาดพิงองคมนตรี เพราะจะทำให้ภาพพจน์ของสถาบันดังกล่าวเสื่อมลง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตอนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เดินหน้าล้มการเลือกตั้ง ซึ่งท่านบอกว่าไม่ได้ไปประชุมแต่ไปปรึกษาหารือ ซึ่งท่านเป็นองคมนตรีอยู่แล้วท่านเป็นคนดึงสถาบันนี้ลงมา ตนจึงขอฝากเรียนท่านวันนี้ว่า ให้ท่านลาออกเสียเถอะ เพื่อควบคุมสถาบันอันสำคัญยิ่งของประเทศไว้ด้วยความหวังดี ทั้งนี้ตนไม่เคยมีเรื่องอะไรกับท่าน เพียงแต่ผิดหวังที่ท่านเสียสัจจะ



เมื่อถามว่า ขณะนี้มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองติดต่อให้ท่านหยุดพูดเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่มี อย่างวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมมูลนิธิไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) เขาแจ้งมาว่าคณะกรรมการไม่ครบขอเลื่อนไปก่อน จึงไม่ได้ไปประชุม เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก จะทำเชิญท่านไปหารือเพื่อขอให้หยุดพูดเรื่องนี้นั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่มีจริง ๆ ไม่รู้เรื่อง มีแต่ข่าวเท่านั้น



เมื่อถามถึงจุดยืนของ พล.อ.พัลลภ ต่อสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า จุดยืนตนรับใช้ประเทศชาติ และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันมาโดยตลอด ตนยืนยันว่า การไปประเทศจีน เมื่อหลายคนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศชาติได้ ทำให้ตนผุดไอเดียวขึ้นมา พอดี นายพิเชษฐ์ สถิรชัชวาลย์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และเป็นก๊วนกอล์ฟกับตน ไปชวนไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองจีน จึงให้ นายพิเชษฐ์ โทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ตนเข้าพบ ท่านจึงโทรศัพท์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่ายินดีให้ตนมาหารือ จึงได้เดินทางไปหา ทั้งนี้สาเหตุที่ตนไปพบ เพราะไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากัน ซึ่งตนก็ถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร เหมือนเมื่อครั้ง 2540 ที่ตนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนั้นตนเป็นฝ่ายเสธฯของ ผบ.ทหารสูงสุด คือ พล.อ.วัฒนชัย วุฒิศิริ เราจึงมาคุยปรึกษาหารือกันว่าวันหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นพรรครัฐบาล แต่ทุกคนรู้ว่า พรรคประชาธิปัตย์กับทหารไม่ถูกกัน เพราะฉะนั้นคิดกันว่าเราจะเข้าไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ดีหรือไม่ อย่างน้อยก็จะไปเป็นตัวประสานให้ทหารกับพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วยกัน ตนจึงสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์



"บางคนกล่าวหาว่าผมไปรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ 3,000 - 4,000 ล้านบาท ผมยืนยันได้ว่าที่ผมไปครั้งนี้ได้รองเท้ากอล์ฟมาเพียงคู่เดียว ซึ่งผมจะไปซื้อรองเท้ามาเล่นกอล์ฟ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าไม่ต้องออกเงิน ท่านจะออกให้ รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้จ่ายเงินค่าแคตดี้ และค่าที่พักให้เท่านั้น ตกเป็นเงินไทยไม่ถึง 5,000 บาท ทั้งนี้ผมยืนยันว่าไม่ได้ไปรับเงิน เพราะผมไม่ได้ไปคนเดียว แต่ไปถึง 4 คน และเวลาคุยก็คุยด้วยกันทั้งหมด หากรับเงินจริงวันนี้ซื้อรถเบนซ์แล้ว" พล.อ.พัลลภ กล่าว



เมื่อถามว่า ในฐานะประชาชนจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ทุกคนอยากให้ประเทศชาติมีความมั่นคง ประชาชนอยู่อย่างสันติสุข มีความปรองดองในชาติ ทั้งนี้ถ้านิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่ไปเซ็นต์ให้ภรรยาซื้อที่ดิน และจำคุก 2 ปี จะทำให้ประเทศชาติสู่ความมั่นคงประชาชนอยู่สันติสุขได้ ตนคิดว่าควรจะเลือกทางนั้น สมัยปี 2524 สมัยที่ตนเป็นผู้การฯ และนำกำลังทหารเข้ามาปฏิวัติโทษของตนสูงสุดขั้นถึงประหารชีวิต ตนถูกข้อหากบฏ และขัดพระบรมราชโองการ ยังสามารถนิรโทษกรรมได้ ซึ่งแรงกว่ากันเยอะมาก



เมื่อถามว่า แสดงว่าควรจะนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวเพื่อให้ประเทศชาติกลับมาเกิดความมั่นคงอีกครั้ง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า กี่คนก็แล้วแต่ ถ้าทำแล้วทำให้ประเทศชาติกลับมาสมานฉันท์มีความมั่นคงประชาชนอยู่อย่างสันติ สุขตนคิดว่าควรทำ และต้องรีบทำด้วย เพราะวันนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาความมั่นคง แต่มันเป็นปัญหาของเศรษฐกิจด้วย ส่วนการที่ จปร. 7 ออกมาเคลื่อนไหว ทั้งตัวท่าน พล.ต.จำลอง และ พล.ต.มนูญกฤต มีนัยอะไรหรือไม่นั้น คงเป็นฟ้าลิขิต แต่ยืนยันว่าเพื่อนก็คือเพื่อน แต่ประเทศชาติต้องมาก่อน ทั้งนี้ที่ผ่านมา จปร.7 แตกออกเป็น 2 พวก คือ กลุ่มยังเติร์ก กับทหารประชาธิปไตย แต่ส่วนใหญ่เลิกกันไปหมดแล้วเหลือเพียง 3 คนเท่านั้น



เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า โทรคุยเมื่อสองวันที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่าตนสบายดีหรือไม่ ตนก็บอกว่าสบายดีตอนนี้กำลังเล่นกอล์ฟอยู่ ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอโทษที่อ้างชื่อตน เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ยืมมือ พล.อ.พัลลภ ฆ่าศัตรูอีกฝั่งหนึ่ง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก ตนบอกว่าไปขอพบท่าน แต่หากท่านขอพบตนอาจจะใช้ตนเป็นเครื่องมือ เงื่อนไขที่เกิดขึ้นคือรัฐบาลไม่ได้ขึ้นมาตามระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาแบบฉวยโอกาส วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคเก่าแก่ 63 ปี เป็นนายกฯ 4 สมัย ไม่ถึง 7 เป็นฝ่ายค้าน 57 ปี ซึ่งแต่ละครั้งที่ขึ้นมาเป็น


 


 


"แอ๊ด" เตรียมแถลงข่าว 16.00 น. ที่สุวรรณภูมิ


ขณะที่เช้าวันนี้ (28 มี.ค.) พล.อ.นินนาท เบี้ยวไข่มุก นายทหารคนสนิท พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี แจ้งสื่อมวลชนว่า พล.อ.สุรยุทธ์ นัดแถลงชี้แจงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ระบุว่า เกี่ยวข้องในการร่วมวางแผนล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 16.00 น. วันเดียวกันนี้


 


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เช้าวันเดียวกันนี้ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ ยังเงียบสงบ โดย


 


 


องคมนตรียัน "สุรยุทธ์" ไม่เคยถวายคำชี้แนะเรื่องทักษิณ


นายสวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรี เปิดเผยกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ออกมาโฟนอินกล่าวหา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีเคยถวายคำชี้แนะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ไม่จงรักภักดีตนขอยืนยัน ไม่เป็นความจริงแน่นอนขอเอาเกียรติยืนยัน สถาบันองคมนตรีไม่ได้มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะโอกาสเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลแต่ละครั้ง ต้องขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตามองคมนตรี คงไม่ดำเนินการฟ้องร้องพ.ต.ท.ทักษิณในข้อหาหมิ่นประมาท เพราะที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดเช่นนี้มาตลอด


 


นายสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวเมื่อครั้งอดีตทุกครั้งที่เจอกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังรู้สึกชื่นชมว่าเป็นคนเก่ง และฉลาดมากคนหนึ่ง การออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้เพราะคนรอบข้างอาจให้ข้อมูลอะไรผิดคงไม่มีอะไรที่จะต้องไปกล่าวเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงต้องปล่อยให้พูดไปเรื่อย ๆ และมั่นใจว่าประชาชนจะเข้าใจได้ดีว่า องคมนตรีทุกท่าน เป็นอย่างไร


 


 


พะจุณณ์ยันจุดยืนป๋าเพื่อชาติ ราชบัลลังก์ ไม่กินสินบาทคาดสินบน


ด้าน พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษบอกว่า ไม่ให้ความสนใจคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้จะโฟนอินเปิดชื่อผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คือ พล.อ.เปรมก็ตาม เพราะก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดบอกเป็นนัยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเวลาไปบรรยายต่างประเทศ ก็ได้เอ่ยชื่อ พล.อ.เปรม ถือเป็นเรื่องเก่าที่เอามาเล่าใหม่ ส่วนการออกมาแฉของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า มีองคมนตรี อีกคนเกี่ยวข้องกับการโค่นล้มอำนาจนั้น ตนไม่ทราบว่าหมายถึงใคร และไม่ห่วงว่าสังคมอาจมององคมนตรีในทางไม่ดี เพราะกลุ่มที่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่เคยมองในแง่ดีอยู่แล้ว ส่วน พล.อ.เปรมก็มีประชาชนจำนวนมาก ชื่นชมและศรัทธา


 


พล.ร.ท.พะจุณณ์ ยังบอกอีกว่า อยากให้สื่อมวลชนหันมาสนใจความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่เพียงเน้นการขายข่าว โดยเฉพาะการโฟนอิน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มิเช่นนั้นคนในสังคม จะเป็นอยู่อย่างไร


 


พล.ร.ท.พะจุณณ์ ยังกล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเมื่อคืนที่่ผ่านมา ไม่มีประเด็นใหม่ เป็นเรื่องเก่าที่จะเปลี่ยนความเชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ แต่คนที่ไม่เชื่อก็จะไม่เชื่ออย่างแน่นอน ยืนยันว่าจุดยืนของ พล.อ.เปรม คือ เพื่อชาติราชบัลลังก์ ไม่โกงกินสินบาทคาดสินบน


 


 


อดีตเลขาฯ คมช. แนะประชาชนใช้วิจารณญาณฟัง "ทักษิณ" โฟนอิน


พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เคยรับฟังการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมองว่าเป็นการสร้างพื้นที่ข่าวเพื่อต้องการให้เป็นประเด็น และให้ประชาชนได้สนใจรับฟังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. ซึ่งระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางแผนปฏิวัติก็ไม่ขอแสดงความเห็น รวมถึงไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้


 


ทั้งนี้เห็นว่า สาเหตุของการปฏิวัติก็เกิดมาจากตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ เองว่าในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ก็เคยเป็นเผด็จการรัฐสภาควบคุมเสียงข้างมากแต่เพียงคนเดียว ดังนั้น อยากจะให้ประชาชนที่รับฟังข้อมูลข่าวสารไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง รวมทั้งประชาชนทุกคนขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูล


 


พร้อมกันนี้ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทยทุกคนขอให้ทุก ๆ คนร่วมมือร่วมใจกันเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคไปพร้อม ๆ กัน เพราะคนไทยก็เปรียบเสมือนผู้โดยสารในเรือลำเดียวกัน ซึ่งต้องร่วมกันพายเรือ เพื่อฟันฝ่าพายุออกไป


 


 


นปช. ปรับสาธารณูปโภคเตรียมอยู่ยาว


ส่วนสถานการณ์การชุมนุมของ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงข่าวที่เวทีสะพานชมัยมรุเชษฐ์ว่า การชุมนุมต่อเนื่องครั้งนี้ล่าสุดมีการพัฒนาสาธารณูปโภค และความพร้อมอำนวยความสะดวกแกผู้ชุมนุม ไม่เกิน 5 วันนับจากชุมนุมวันแรก ระบบทั้งหมดจะเข้าที่ทั้งอาหาร สุขา การรักษาพยาบาล และระบบรักษาความปลอดภัย การชุมนุมอาจยืดเยื้อเป็นสัปดาห์และเป็นเดือน ส่วนการจรจรจะปิดเฉพาะที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และยินดีจะประสานความสะดวกให้กับบุคคลที่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ เข่นวันนี้ สมาคมศิษย์เก่าราชวินิตมัธยมมีงานเลี้ยงที่โรงเรียนทางกลุ่มเสื้อแดงก็มีการ ประสานอำนวยความสดวกให้


 


 


อัด "อนุพงษ์" ใจแคบส่งทหารแทรกซึม


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงได้แจ้งกับตำรวจและทหารว่า หากเข้ามาปฏิบัติการขอให้ประสานมา แต่ปรากฏว่าเมื่อคืนมีทหารยศนายสิบ 2 นาย พกแบตเตอรี่และหม้อแปลงไฟฟ้าเข้ามาในที่ชุมนุม เมื่อการ์ดซักไซ้จนถึงที่สุดถึงยอมรับว่าเป็นทหาร จากนั้นทางกลุ่มเสื้อแดงได้นำของไปแสดงบนเวที และไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายนายทหารทั้ง 2 แต่หลังจากออกจากพื้นที่ชุมนุม ทหารทั้ง 2 นายกลับไปแจ้งความว่าผู้ชุมนุมกักขังหน่วงเหนี่ยว อย่างนี้ไม่ใช่สัญญาณที่ดี ของการประสานความร่วมมือดูแลประชาชน การ ทำเช่นนี้ถือว่าจิตใจคับแคบกับการชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของ ประชาชน สะท้อนว่ากองทัพมองคนเสื้อแดง เป็นมิตรหรือไม่ กองทัพมีความจริงใจในการปฏิบัติงานแค่ไหน หรือมองว่าเสื้อแดงเป็นฝ่ายตรงข้ามต้องหาทางเล่นงานกัน ต้องถามใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ว่าแบบนี้หมายความว่าอย่างไร


 


โดยเมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิได้นำเรื่องดังกล่าว พร้อมสิ่งที่อ้างว่ายึดมาได้จากทหารยศนายสิบ ขึ้นไปแสดงบนเวทีด้วย (ดูคลิปที่นี่)


 


 


ย้ำ "ทักษิณ" พูดชัดเจน "สุรยุทธ์" ก่อกบฏ


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดผ่านวิดีโอลิงก์ชัดเจนว่า มีบางคนที่ดำรงสถานะองคมนตรีมีความเกี่ยวข้องอย่างสำคัญในการวางแผนโค่นล้ม รัฐบาล และยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ชัดเจนว่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งที่สถานะองคมนตรีไม่เกี่ยวข้องและไม่มีบทบาททางการเมือง ฉะนั้นจึงต้อตั้งคำถามทั้งสองท่านว่าจะชี้แจงอย่างไร การที่พล.อ.สุรยุทธ์ ไปประชุม ที่บ้าน นายปีย์ มาลากุล โดยวิธีที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยหมายความว่า พล.อ.สุรยุทธ์ กำลังก่อกบฏในราชอาณาจักร หรือไม่


 


"เรายืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับสถาบันองคมนตรี และเราเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เราไม่ยอมรับองคมนตรีบางคนที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งควรจะพิจารณาตัวเอง เราไม่ได้ดึงพล.อ.เปรมลงมา แต่ท่านลงมาเองไม่เคยมีบทบาทขององคมนตรีคนใดที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมากขนาดนี้ " นายณัฐวุฒิ กล่าว


 


 


รอฟัง "สุรยุทธ์" ชี้แจงก่อนวางแผนดาวกระจาย


นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า จะยังไม่ใช้ยุทธวิธีดาวกระจาย ตัองดูก่อนว่าพล.อ.สุรยุทธ์ ชี้แจงอย่างไร หากชี้แจงแล้วฟังไม่ขึ้นจะมีการเคลื่อนไหวแน่นอนแต่จะไม่บุกยึดทำเนียบและ บุกยึดสนามบิน แต่ตอนนี้มีเสื้อน้ำเงินไปยึดสนามบินแล้ว และจะชุมนุมยืดเยื้อแน่นอน คืนนี้จะมีการเปิดคลิปวิดีโด ยืนยันหนักแน่นอีกว่าเครือข่ายในการล้มพล.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับใครบ้าง พวกอ้างอิงสถาบันเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง


 


ส่วนบรรยากาศการชุมนุม ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุม และยังไม่หน้าแน่นมากในช่วงเข้า ขณะที่บนเวทีมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการเล่นดนตรีเพื่อคลายความตึงเครียดจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว


 


 


ที่มา: มติชน [1] [2] โพสต์ทูเดย์ และ ไทยรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net