ภาพหน้าแรกของเว็บไซต์ YouTube.com (ที่มา: AFP/File/Samantha Sin)
จีนบล็อก YouTube หลังมีคลิปทารุณทิเบตโผล่
มีรายงานว่า ในประเทศจีน มีการปิดกั้น (บล็อก) การเข้าถึงเว็บไซต์ที่แชร์วิดีโอขนาดใหญ่ "YouTube" ภายหลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ทหารจีนทุบตีพระสงฆ์และชาวทิเบต
โดยคลิปดังกล่าวโพสต์โดยกลุ่มผู้พลัดถิ่นชาวทิเบต โดยมีการระบุวันและสถานที่เกิดเหตุดังกล่าว แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นไปตามที่ระบุหรือไม่
ส่วนโฆษกของรัฐบาลจีนก็ไม่ยืนยันว่ามีการบล็อกเว็บไซต์ Youtube.com หรือไม่ อย่างไรก็ตาม พื้นที่เกือบทั้งหมดของจีนขณะนี้ ไม่สามารถเข้าเว็บ YouTube.com ได้
ทั้งนี้จีนมีประวัติปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ หากมีข้อความที่แสดงจุดยืนทางการเมืองที่รัฐบาลไม่สามารถยอมรับได้
โดยในเว็บไซต์ YouTube.com ได้มีกลุ่มชาวทิเบตพลัดถิ่นไปอัพโหลดวิดีโอ ที่บันทึกภาพทหารจีนในเครื่องแบบหลายร้อยเคลื่อนเข้าปิดล้อมวัดทิเบต และทหารกลุ่มหนึ่งได้เข้าทุบตีชายคนหนึ่งด้วยกระบอง
นอกจากนี้ในคลิปยังมีเหตุการณ์พระสงฆ์ถูกทหารจีนตี ถูกเตะ อุดจมูก ในขณะที่พระเหล่านั้นนอนอยู่กับพื้น ทหารบางรายร้อยพระสงฆ์ที่หมดสติด้วยเชือก โดยวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ไม่ถูกระบุไว้ในคลิป ส่วนทางปักกิ่งก็ยืนยันว่าดำเนินการตามหลักกฎหมายกับผู้ประท้วงในทิเบตเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อวันอังคาร (24 มี.ค.) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่าจีนนั้น "ไม่กลัวอินเตอร์เน็ต" อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถยืนยันได้ว่า YouTube ถูกบล็อกหรือไม่
โฆษก "YouTube" ยอมรับจีนบล็อกเว็บ
ล่าสุดโฆษกของ Youtube.com ยืนยันเมื่อ 24 มี.ค. นี้ว่าถ้าเว็บไซต์ถูกจีนบล็อกตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (23 มี.ค.) อย่างไรก็ตามทาง YouTube ไม่มีความเห็นใดๆ ต่อรัฐบาลจีนในเรื่องนี้
"YouTube ถูกบล็อกในจีนตั้งแต่เมื่อวานนี้" Scott Rubin โฆษกของ YouTube กล่าว "เราไม่ทราบเหตุผลของการบล็อก และเรากำลังดำเนินการอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ผู้ใช้ในจีนสามารถใช้ YouTube ได้"
เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนช่วงที่มีการประท้วงและการปราบปรามในกรุงลาซา เขตปกครองตนเองทิเบตของจีน ก็มีการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ในประเทศจีน
และช่วงต้นเดือนมีนาคมปีนี้ จีนได้เสริมกำลังเพื่อรักษาความมั่นคงในทิเบตและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์จลาจลในทิเบตเมื่อ 14 มี.ค. ปี 2551 โดยเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ของปีนี้ถือเป็นปีครบรอบ 50 ปี การต่อต้านจีนในทิเบต เมื่อปี 1959 ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ผู้นำทางจิตวิญญาณอย่างดาไล ลามะ ต้องลี้ภัยจากทิเบตไปยังอินเดีย
บังกลาเทศบล็อกด้วย เหตุแพร่คลิปเสียงทหารโต้เถียงนายกรัฐมนตรีช่วงปราบกบฎ
ในรอบเดือนนี้ เมื่อ 8 มี.ค. รัฐบาลบังกลาเทศก็ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ YouTube และอีกหลายเว็บไซต์ ที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงของนายทหารที่ตอบโต้นางชี้ค ฮาซินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ อย่างเผ็ดร้อน
ซึ่งช่วงการโต้เถียงเป็นช่วงระหว่างเหตุกองกำลังทหารตระเวนชายแดนบังกลาเทศ (บีดีอาร์) ก่อกบฏเรียกร้องขอขึ้นเงินเดือนและปรับสวัสดิการ เมื่อ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่รัฐบาลปราบปรามจนเกิดการปะทะกับทหารรัฐบาลทั่วประเทศที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 74 ราย ในจำนวนนี้ผู้เสียชีวิตเป็นทหาร 56 ราย
การปิดกั้นดังกล่าวดำเนินในบังกลาเทศเป็นเวลาระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. ก่อนที่จะมีการยกเลิกการบล็อก
สำหรับประเทศไทย เมื่อ 4 เม.ย. 2550 เจ้าหน้าที่กระทรวงการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีทีออกมายอมรับอย่างเป็นทางการว่าได้ บล็อกเว็บ YouTube.com เช่นกัน ด้วยสาเหตุที่มีผู้โพสต์คลิปหมิ่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอเอฟพีระบุว่า คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับที่ศาลชั้นต้นของไทยตัดสินจำคุกนายโอลิเวอร์ จูเฟอร์ ชาวสวิสเป็นเวลา 10 ปี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อ 28 มี.ค. 2550 หลังจากที่นายโอลิเวอร์ จูเฟอร์เมาหัวราน้ำ แล้วออกตระเวนทำลายพระบรมฉายาลักษณ์หลายภาพใน จ.เชียงใหม่ และไม่กี่วันหลังจากถูกศาลตัดสิน ในวันที่ 11 เม.ย. 2550 เขาก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษและถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย
แต่ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ไอซีทีจะออกมายอมรับการบล็อกนั้น ก็เกิดการสกัดกั้นการเข้าถึงเว็บดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. 2550
สำหรับการบล็อกเว็บ YouTube.com ในประเทศไทย ดำเนินอย่างเป็นทางการจากวันที่ 4 เม.ย. มาจนถึงวันที่ 30 ส.ค. 2550 จึงเลิกบล็อก โดยนาย สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกการปิดกั้นเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. หลังจากที่เว็บไซต์ดังกล่าวติดตั้งตัวกรอง (filters) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ที่เข้าจาก IP ของประเทศไทยดูคลิปที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ได้
ที่มาของข่าว: แปลและเรียบเรียงจาก
YouTube confirms website blocked in
http://tech.yahoo.com/news/afp/20090312/tc_afp/bangladeshunrestinternet_20090312155925
Mutiny aftermath:
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)