นางกรคสรรกล่าวว่า โรงงานดังกล่าวมีการมีการติดตั้งเตาหลอมโลหะ ถึง 4 เตา 8 หัวเผา จากที่อนุญาตไว้เพียงแค่เตาเดียว ทั้งนี้ สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเคยมีหนังสือแจ้งให้มีการดำเนินการสำนักงานอตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรีตรวจสอบ มาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2550 ต่อมาหัวหน้าฝ่ายโรงงานสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี ได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีการทำผิดจริงเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2551จึงเปรียบเทียบปรับไปแล้ว 90,000 บาท (เก้าหมื่นบาทถ้วน) และเสนอกรมอุตสาหกรรมให้ตีตราห้ามใช้เครื่องจักร

อีกทั้งชาวบ้านยังได้ไปร้องนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.อุตสาหกรรมในสมัยนั้นที่รัฐสภา กระทั่งนายสุวิทย์ได้สั่งการให้อธิบดีกรมโรงงานเร่งดำเนินการแก้ไขตามที่ชาวบ้านร้อง และตีตราห้ามใช้เครื่องจักรเมื่อ 20 มีค.2551  ซึ่งตลอดมา กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับปากกับทางจังหวัดและชาวบ้านมาโดยตลอดว่า จะดำเนินการผูกมัดประทับตราเครื่องจักรให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับไม่มีการดำเนินการผูกมัดประทับตราเครื่องจักร ตามที่ชาวบ้านและทางจังหวัดเพชรบุรี ร้องขอ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2552 ชาวบ้านพบว่าทางโรงงานมีการเตรียมการทดลองเดินเครื่องจักรอีก ซึ่งผิดข้อตกลงที่จะให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านและผูกมัดประทับตราเครื่องจักรก่อน จนทำให้มีการชุมนุมประท้วงและปิดถนนเพชรเกษมตลอดทั้งวันกระทั่ง รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้เดินทางลงมาเจรจา และทำข้อตกลงกับชาวบ้านไม่ให้มีการทดลองเดินเครื่องจักรจนกว่าจะรับฟังความคิดเห็นแล้วเสร็จ และจะทำการผูกมัดประทับตราเครื่องจักรภายใน 15 วัน กระทั่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ

" ชาวบ้านเชื่อว่าปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกับพวกอาจมีส่วนรู้เห็นกับโรงงานที่มีการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ และอาจมีพันธะทางสัญญากับสถาบันการเงินเรื่องการจ่ายเงินค่าเครื่องจักรที่นำเข้าทั้ง 4 เตา ในงวดสุดท้ายว่า จะต้องมีการทดลองเดินเครื่องจักรจนถูกต้องตามระเบียบกรมโรงงาน จึงจะอนุมัติการจ่ายเงินงวดสุดท้ายก้อนโต จึงทำให้ทางผู้มีอำนาจลงนามในการผูกมัดประทับตราเครื่องจักรร่วมกันกับทางโรงงาน ดึงเวลาไม่ยอมลงนาม เพราะหากลงนามเมื่อใด เครื่องจักรหรือเตาหลอมส่วนที่เกิน จะไม่สามารถทดลองได้ อันเป็นเหตุให้โรงงานไม่สามารถเบิกเงินได้ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ และหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทางโรงงาน มาจนเป็นเวลาเกิน 1 ปี"นางกรคสรรกล่าว

เบื้องต้นพ.ต.อ.ชูสง่า ภู่อาวรณ์ ผกก.สภ.เขาย้อย ได้รับแจ้งความตามรายละเอียดและหลักฐาน รวมทั้งเตรียมยื่นคำร้องต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อไปแล้ว

ที่มา: http://www.siamrath.co.th