Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 21 มี.. 52 เวลา 10.30 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนเข้าลงมติว่า ฝ่ายค้านไม่ได้มีความคาดหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมาโหวตสวนรัฐบาลแต่ว่าการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านคือการสื่อสารข้อเท็จจริงไปยังพี่น้องประชาชนมากกว่าการพูดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลได้ฟัง ซึ่งชัดเจนที่สุดว่ารัฐบาลตอบไม่ได้ในหลายประเด็น เช่น กรณีเรื่องการโอนเงินของทีพีไอโพลีนผ่านบริษัทเมสไซอะ ส่งไปยังพรรคประชาธิปัตย์ รวมกระทั่งเงินของกองทุนพัฒนาการเมือง ที่กกต.มอบให้พรรคประชาธิปัตย์แล้วมีการส่งไปเมสไซอะและส่งกลับออกมาก็เป็นปมที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถตอบได้เลย ส่วนประเด็นการหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ แม้มีการพยายามกล่าวอ้างว่าไม่ได้ใช้เอกสาร สด.9 ต้นฉบับ แล้วไปขอใบใหม่ แต่ปรากฎว่ากลายเป็นเอกสารเท็จ ที่ไม่ได้ลงวันที่ 4 ก.ค. 2549 แต่ลงวันที่ 8 เม.ย. 2531 ซึ่งเป็นเอกสารเท็จ และอ้างว่าใช้เอกสารการผ่อนผันแนบประกอบกันซึ่งพอไปดูแล้วนายอภิสิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์ จะผ่อนผัน เพราะเงื่อนไขในการผ่อนผัน ให้เฉพาะผู้ที่จะต้องเลี้ยงดูบิดามารดาที่ทุพลภาพ หรือต้องเลี้ยงดูบุตรที่มารดาตายและอีกเหตุผลคือเพื่อการศึกษา แต่นายอภิสิทธิ์ จบปริญญาตรี ไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องการศึกษาในเวลานั้น และถ้าจะได้รับการผ่อนผันต้องไปแสดงตัวในวันเกณฑ์ทหารวันที่ 7 เม.ย.2530 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นก็เป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง


นายจตุพรกล่าวต่อไปว่า ประเด็นต่อมาคือเรื่องการเสียดินแดนซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก นายอภิสิทธิ์ ยอมรับเองเมื่อคืนนี้ว่า กัมพูชาได้ตัดถนนลุกล้ำเข้ามาแต่ยังไม่ถือว่าไทยเสียดินแดน มันเป็นการอภิปรายที่ไร้สติโดยสิ้นเชิง เพราะว่าการตัดถนนเส้นนี้ของกัมพูชา ทำให้การขึ้นปราสาทพระวิหารซึ่งเดิมต้องผ่านประเทศไทยกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ต้องผ่านประเทศไทยแล้ว ประเทศไทยและคนไทยที่อยู่จังหวัดศรีสะเกษเขาได้เสียโอกาส ไม่ว่าจะเป็นรายได้ของประเทศ รายได้ของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นรายได้จากค่าผ่านทางหรือซื้อสิ่งของสินค้าต่างๆ ปรากฎว่า วันนี้กัมพูชาสามารถใช้ถนนเส้นนี้ และที่สำคัญที่สุดคือว่าคนสำคัญของกัมพูชาเขาได้ใช้ถนนเส้นนี้แล้ว ในเขตพื้นที่ทับซ้อน ล้ำเข้ามา 250 เมตร ซึ่งสร้างถนนคอนกรีต กองกำลังสุรนารีเขารายงาน8ครั้งติดต่อกัน ก่อนหน้านี้เขาได้ส่งสัญญาณ แต่ปรากฎว่านายกษิต เพิ่งทำหนังสือประท้วงกัมพูชา หลังจากที่กองกำลังสุรนารีได้ทำหนังสือทักท้วงประมาณ 2 เดือนเศษ และประเทศไทยได้เสียดินแดนไปแล้ว คือวันนี้นี่เสียดินแดนร้อยเปอร์เซ็นต์ นายอภิสิทธิ์ เอาอะไรมาพูดว่าการที่กัมพูชาสร้างถนนเข้ามา ลุกล้ำเข้ามานั้น เรายังไม่เสียดินแดน ความผิดอันนี้คนไทยรับไม่ได้ นี่ยิ่งกว่าการขายชาติ เสียดินแดน เพราะว่าใครจะเป็นนายกฯ ให้เสียดินแดนแม้แต่เพียงตารางนิ้วเดียวก็อยู่ไม่ได้ แต่วันนี้เสียไป 250 เมตรแล้ว


นายจตุพร กล่าวถึงผลโพลล์ที่ยังเชื่อมั่นรัฐบาลว่า ต้องถามคนที่ทำโพลล์ เพราะ โพลล์วันแรก นายอภิสิทธิ์ ตอบเรื่องเมสไซอะไม่ได้เลย ระหว่างการอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิม กับนายอภิสิทธิ์ แต่ปรากฎโพลล์ ไปออกว่า ความน่าเชื่อถือของนายอภิสิทธิ์ มากกว่า ร.ต.อ.เฉลิม ทั้งที่วันนั้นตอบไม่ได้สักข้อและตัวเองก็พูดในทางว่าตัวเองไม่รู้ เพราะฉะนั้น โพลล์ใครทำ ในวงการเมืองเขาก็รู้กันอยู่ จะตกต่างพันธุกรรมยังไง เขาก็รู้กันอยู่ ประชาชนที่เขาฟังก็ไม่ได้เห็นด้วยกับโพลล์นั้น ตนเชื่อว่าโพลล์มีเพื่อรับใช้และกำหนดทิศทางทางการเมือง


"เอามากางดูสิครับว่าไปสำรวจกับใครตรงไหนบ้าง ถ้าทำโพลล์เพื่อรับใช้รัฐบาลหรือรับใช้นักการเมือง สถาบันนั้นก็จะเสื่อมเอง เพราะข้อเท็จจริงเป็นคนละอย่างกัน ไม่ใช่ไม่ยอมรับ แต่มันประหลาดไง เพราะคุณอภิสิทธิ์ ตอบไม่ได้สักข้อแต่ปรากฎโพลล์บอกว่าคนเชื่อถือ เขาน่าเชื่อถือตรงไหน"นายจตุพรกล่าว


นายจตุพร กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ชี้ทางออกให้รัฐบาลแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เมื่อรัฐบาลไม่ดำเนินการ แล้วมิหนำซ้ำยังไปปูนบำเหน็จให้กับคนที่ทำผิดกฎหมายโดยหากว่าตามกระบวนการต้องมีโทษประหารชีวิต อย่างนายกษิต แต่รัฐบาลก็ไม่ทำอะไร เพราะฉะนั้นวันนี้มันไกลเกินกว่าที่รัฐบาลชุดนี้จะทำอะไร ถ้ารัฐบาลจะอยู่ได้ก็อยู่กันไป ส่วนหน้าที่ของพวกเราก็จะไล่ไป


"ขบวนการต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นขบวนการใน กกต. ขบวนการใน ป.ป.ช. ก็จะต้องมีการเดินหน้ากันไป คือความผิดชัดเจนขนาดนี้ คราวนายสมัคร สุนทรเวช แค่ทำกับข้าวยังเอาเขาออกจากนายกรัฐมนตรี แต่ความผิดฟอกเงินในบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ถ้า กกต. ไม่ทำอะไร ก็ไม่ต้องพึ่งกันแล้วบ้านเมือง ทีพรรคอื่นแค่มีเหตุอันควรอันเชื่อว่า แต่นี่พรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ กกต.จะวินิจฉัยยังไง ถ้าอยากจะช่วยกันเหมือนเดิมก็ช่วยกันไปเราไม่มีปัญหาอะไร ถ้าบ้านเมืองจะอยู่อย่างนี้ก็ว่าไป"


นายจตุพร กล่าวว่า ตนจะอยู่ใน 2 สถานะ เป็นคนเสื้อแดงซึ่งได้นัดชุมนุมกันวันที่ 26 มี.ค.ที่สนามหลวง ส่วนวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินไปที่ จ.เชียงราย พรุ่งนี้จะเป็นวีดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปที่สนามกีฬา 700 ปี จ.เชียงใหม่ และจะมาชุมนุมอย่างยืดเยื้อยาวนานตั้งแต่ 26 มี.ค. เป็นต้นไป ซึ่งนัดกัน 9.00น. โดยขอใช้พื้นที่ 2 ฟากฝั่งถนนราชดำเนินในการเคลื่อนประชาชนมายังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นคนละพื้นที่กับการจัดงานกาชาด พวกตนจะไม่มีปัญหาเหมือนพันธมิตร เหตุที่ไป วันที่ 30 มี.ค. เพราะจะมีการจัดงานกาชาดที่ถนนราชดำเนินกลางและบริเวณพระบรมรูปทรงม้า เพราะฉะนั้นเป็นคนละพื้นที่ โดยคนเสื้อแดงจะอยู่เส้นถนนพิษณุโลก ส่วน มท.3 ไปทำเรื่ออื่นเถอะ


เมื่อถามว่าจะไปยื่นเรื่องต่อ กกต. ยุบพรรคประชาธิปัตย์วันไหน นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะทำหน้าที่ในเรื่องนี้ เพราะ กกต. ก็ได้รับเรื่อง ไม่ว่าจากหน่วยงานรัฐด้วยกันอยู่แล้ว และประเด็นที่ ร.ต.อ.เฉลิม สรุปเมื่อคืน ก็มีความผิดชัดเจนว่ามีความผิด ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีการอภิปรายตามเอกสาร ทุกชิ้นที่มีการทำธุรกรรมอย่างฉ้อฉลและไซฟอนเงินในตลาดหลักทรัพย์และก็ไซฟอนเงินจากเงินภาษีอากรของประชาชนผ่านกกต. มายังพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทาง กกต. บอกว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม ร.ต.อ.เฉลิม ก็จะดำเนินการไป ส่วนของ ป.ป.ช.นั้น ฝ่ายค้านก็คงจะเพิ่มหลักฐานเข้าไป เพราะมีการยื่นถอดถอนก่อนหน้านี้แล้วผ่านประธานวุฒิสภา


"ฉะนั้น วันนี้ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเสียงในสภา เพราะฝ่ายค้านจะกี่เสียงก็ตามมีค่าเท่ากับศูนย์อยู่แล้ว มีค่าเหมือนศูนย์ ไม่มีความหมาย แต่เนื้อหานั้นคือเสียงสวรรค์ที่ส่งไปยังพี่น้องประชาชน" นายจตุพรกล่าว


ถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขู่จะยุบพรรคเพื่อไทย นายจตุพร กล่าวว่า เป็นการตีปลาหน้าไซ นายสุเทพ จนมุมจึงออกมาเบี่ยงประเด็นบอกว่า ถ้าร.ต.อ.เฉลิม ใช้ความเท็จในการอภิปราย พรรคเพื่อไทยก็จะต้องถูกยุบด้วย


"ข้อเท็จจริงก็คือ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม พูดตามเอกสารทุกชิ้น นายสุเทพจึงตีปลาหน้าไซ ในประเทศนี้มีคนตกใจกับนายสุเทพไม่กี่คนหรอก แต่สำหรับพวกเราเนี่ยนะครับ ไม่มีใครตกใจกับนายสุเทพเลย นายสุเทพใช้กลของคนจนตรอกและแสดงท่าทีว่าตัวเองนี้แน่ ซึ่งความจริงนั้นนะ ที่เดินไปไหนไม่ได้ เพราะขาตายติดอยู่กับที่ คนก็คิดว่าเป็นนักสู้ แต่ความจริงตกใจจนขาตาย ก็ลุกขึ้นมาพูดเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นว่าได้มีการท้าทาย  พวกผมไม่ได้ให้ความสนใจอะไร คือคุณสุเทพพูดไปเลย แต่ว่าเรื่องนี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ รอดจากการถูกยุบ ก็โมทะนาสาธุ กันด้วยแล้วกัน เพราะพรรคอื่นก็รอถูกยุบ อย่างเพื่อแผ่นดิน ก็มีนายนพดล พลซื่อแค่คนเดียว แต่กรณีพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งพรรคร่วมกันเกี่ยวข้องหมด ถ้าไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้รู้ว่าบ้านเมืองนี้อยู่กันยังไง"นายจตุพรกล่าว           


อภิสิทธิ์ เตรียมสู้ตามขั้นตอน -ระบุเป็นสิทธิของเพื่อไทย ยื่น กกต.ยุป ปชป.


เวลา 10.10 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าลงมติ ว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นายเกียรติกร ภาคพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี จะงดออกเสียงและยังไม่เจอใคร ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะยื่น กกต.ยุบพรรคประชาธิปัตย์ในสัปดาห์หน้านั้น ก็เป็นสิทธิที่ ร.ต.อ.เฉลิม สามารถทำได้ ถ้ายื่นแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะเป็นผู้พิจารณา ส่วนเราก็ต้องไปต่อสู้ซึ่งขั้นตอนก็อยู่ที่ กกต. ในฐานะนายทะเบียนเป็นผู้พิจารณาก่อน


เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับใครเลย เพราะหลังจากสรุปเสร็จเมื่อคืนนี้ก็กลับบ้าน ซึ่งเดี๋ยวจะไปคุยกัน ส่วนการชี้แจงก็คิดว่ารัฐบาลได้พยายามชี้แจงอย่างดีที่สุดในเวลาที่จำกัด ส่วนภาพรวมทั้ง 2 วันที่ผ่านมาตนคิดว่าเรียบร้อยดี แม้มีช่วงที่อาจจะมีปัญหาในหมู่สมาชิกด้วยกันเองบ้าง แต่ก็ถือว่าก็ผ่านพ้นไปค่อนข้างจะเรียบร้อยและทุกคนที่เป็นรัฐมนตรีก็ได้พยายามชี้แจงอย่างเต็มที่


เมื่อถามว่าจะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ ไม่มีประเด็นอะไร มีแต่บางเรื่องที่ฝ่ายค้านช่วยชี้เข้ามาให้ช่วยติดตามตรวจสอบ เราก็จะรวบรวมและไปติดตามให้


เมื่อถามถึงการชี้แจงของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ ตอบสั้นๆ ว่า "อ๋อดีครับ ดี"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net