วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทซ์) นำโดยนายจักรชัย โฉมทองดี ได้เดินทางมายังอาคารรัฐสภาเพื่อเข้ายื่นรายชื่อประชาชนจำนวน 10,120 คน เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.การจัดทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ พ.ศ. ... (ฉบับประชาชน) ต่อประธานรัฐสภา โดยมีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายจักรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายที่มีลักษณะเดียวกัน คือ ร่าง พ.ร.บ.ขั้นตอน และวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา ที่นำเสนอโดยรัฐบาล แต่มีเนื้อหาที่มีปัญหาอยู่ 3 ข้อ คือ กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กระทำผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น การจัดการรับฟังผลกระทบจัดโดยหน่วยงานของราชการ ไม่ใช้หน่วยงานที่มีความเป็นกลาง และไม่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ถือว่า ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง จึงขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อนำร่างฉบับประชาชนมาพิจารณาร่วมกัน จะได้มีสัดส่วนของฝ่ายประชาชนเป็นกรรมาธิการด้วย แต่หากไม่สามารถชะลอได้ ก็ขอให้ที่ประชุมเพิ่มสัดส่วนกรรมาธิการที่มาจากภาคประชาชนด้วย
ด้านนายสามารถ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 5 ที่บัญญัติให้ต้องมีพ.ร.บ.ขั้นตอน และวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา ซึ่งขณะนี้ร่างดังกล่าวได้อยู่ในระเบียบวาระแล้วส่วนจะชะลอออกไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม โดยกฎหมายที่ประชาชนเสนอนั้นจะใช้เวลาตรวจสอบความถูกต้องประมาณ 3-4 เดือน ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบความถูกต้องตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ทั้งนี้ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณากฎหมายในวันพุธ ประธานรัฐสภา ได้ขยับวาระ ร่าง พ.ร.บ.การจัดทำความตกลงหรือหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ พ.ศ. ... ขึ้นมาเพื่อพิจารณาเป็นวาระแรก อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเสนอกฎหมายจากภาคประชาชนเข้าประกบ ผู้เสนอกฎหมายจากภาคประชาชนจะได้ที่นั่งสัดส่วน 1 ใน 3 ของคณะกรรมาธิการพิจารณากฎหมายดังกล่าว
คลิกอ่านรายละเอียด
ร่าง พ.ร.บ.การจัดทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ พ.ศ. ... ฉบับภาคประชาชน
ที่มา: เรียบเรียงบางส่วนจากมติชนออนไลน์
ที่มาภาพ: http://twitpic.com/27hde
หมายเหตุ: แก้ไขข้อมูลตัวเลขจาก 11,020 คน เป็น 10,120 คน เมื่อเวลา 21.45 น.