รูปโดย : โอ ไม้จัตวา
15 มี.ค.52 รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงเย็นวันนี้ "รงค์ วงษ์สวรรค์" นักเขียนชื่อดังของเมืองไทย และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ปี 2538 เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลเทพปัญญา จ.เชียงใหม่ หลังหมดสติ ขณะพักอยู่ที่บ้านสวนทูนอิน ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และญาติส่งตัวเข้ารับการรักษาเมื่อค่ำวันที่ 13 มี.ค. โดยแพทย์พบว่ามีเลือดออกในแกนสมอง ทำให้ต้องอยู่ในห้องไอซียูโดยใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด
ทั้งนี้ ภรรยาและบุตรแจ้งว่า จะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร โดยจะมีพิธีรดน้ำศพเวลา 16.00 น. วันที่ 16 มี.ค. สวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 7 วัน และเก็บไว้ 100 วัน โดยยังไม่ตัดสินใจว่าจะเผาหรือฝังไว้ที่บ้านสวนทูนอิน ส่วนการขอพระราชทานเพลิงศพคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติคงเป็นผู้ดำเนินการให้ฐานะเป็นศิลปินแห่งชาติ นอกจากนี้ภายในงานบำเพ็ญกุศลของดรับพวงหรีด แต่ขอรับเป็นการสนับสนุนกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตแก่ผู้ยากไร้ หรือเป็นกล้าไม้ร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ
ทั้งนี้ "รงค์ วงษ์สวรรค์" เป็นนามปากกาของ ณรงค์ วงษ์สวรรค์ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ที่จังหวัดชัยนาท สมรสกับ สุมาลี ตระการไทย มีบุตรสองคนคือ วงศ์ดำเริง กับ สเริงรงค์
ในวัยเด็ก เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนโพธารามวัฒนาเสนี ก่อนเข้ามาเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ รุ่นลมหวน ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่น อาทิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, พล.อ.วันชัย เรืองตระกูล และนายทวี ชูทรัพย์ เป็นต้น ต่อมาเข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแต่ถูกให้ออกเพราะทะเลาะกับครู ผ่านชีวิตมามากพอจึงมีวัตถุดิบสำหรับงานประพันธ์มากมาย เริ่มเขียนหนังสือลงจุลสารของโรงเรียนเตรียมอุดม
เมื่อออกจากโรงเรียนเขาเคยเป็นนายท้ายเรือโยงจาก อ.บางบัวทอง นนทบุรี ไปสุพรรณบุรี เคยขึ้นไป อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นคนคุมปางไม้ เมื่อกลับกรุงเทพฯ ได้แสดงภาพยนตร์ในบทพระรองในเรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย จากบทประพันธ์ของ เรียมเอง และเป็นนายแบบของนิตยสารจึงรู้จัก ม.ล.ต้อย ชุมสาย ศิลปินทางการถ่ายภาพ ได้เรียนการถ่ายภาพจาก ม.ล.ต้อยซึ่งได้พาไปรู้จักคนในวงหนังสือพิมพ์ กระทั่งได้เข้าทำงานที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ในปี พ.ศ.2497 จากนั้นเริ่มเขียนคอลัมน์ "รำพึง-รำพัน" ด้วยนามปากกา "ลำพู" ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ทำให้ชื่อเสียงเริ่มรู้จัก
ผลงานเขียนของ รงค์ ที่จัดพิมพ์รวมเล่มมีประมาณ 100 เล่ม โดยเป็นเจ้าของผลงานเรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี บทภาพยนตร์ โดยเอกลักษณ์ของงานเขียน คือ การใช้ภาษา "เพรียวลม" คือใช้คำยุคเก่าแต่สื่อถึงเรื่องราวที่ทันสมัย จนได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2538" และเขายังเป็นคอลัมนิสต์ในนิตยสารและหนังสือพิมพ์อีกด้วย
ผลงานรวมเล่ม ที่มีชื่อเสียงนอกจาก เสเพลบอยชาวไร่ แล้ว ยังมีอีกหลายเล่ม อาทิ สารคดีไฉไลคลาสสิค เถ้าอารมณ์ สนิมสร้อย สนิมกรุงเทพฯ ปีนตลิ่ง คืนรัก ผู้ดีน้ำครำ ใต้ถุนป่าคอนกรีต เป็นต้น ซึ่งล้วนได้รับความชื่นชมเป็นที่กล่าวขวัญ โดยนวนิยายเรื่อง นาฑีสุดท้ายทับทิมดง สำนักพิมพ์มติชนรวมเล่มพิมพ์ครั้งแรกในปี 2546 หลังจากตีพิมพ์เป็นตอนรายสัปดาห์ในนิตยสารจักรวาลรายสัปดาห์ พ.ศ. 2515 -2516
เรียบเรียงจาก เว็บไซต์มติชน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)