ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2552

'ป๋าเปรม'ย้ำคนไทยยึดหลัก ศก.พอเพียง
เว็บไซต์เดลินิวส์ - 14 มี.ค. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ภายหลังเสร็จภารกิจป็นประธานทำพิธีเปิดสวนน้ำโคราช ทะเลอีสาน สวนสัตว์นครราชสีมา ว่า คนไทยทุกคนต้องมีความเข้าใจความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวทางมาให้อย่างชัดเจน ซึ่งตนเห็นว่าคนไทยเข้าใจเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และลึกซึ้ง ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามได้ ผิดแปลกจากเมื่อก่อน ครั้งที่คนไทยเราพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ชาวต่างชาติ ต่างพากันหัวเราะคิดว่าเป็นเรื่องตลก ทั้งนี้ ในสภาวะปัจจุบันคนไทยควรยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ทำสิ่งใดที่มากเกินตัว เดินไปข้างหน้าอย่างมีสติ และไม่ประมาท เป็นภูมิคุ้มกันกับทุกคนในภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้

โฆษก ปชป.วอน พท. ดูแลความเรียบร้อยคนเสื้อแดง
เว็บไซต์เดลินิวส์ - 14 มี.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงขว้างปาขวดน้ำและไข่ไก่ใส่ขบวนรถของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขณะลงพื้นที่ จ,ปทุมธานี ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยดูแลให้ดี พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย มีจุดประสงค์เดียวกัน เพื่อต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีอำนาจ

ปชป.เตรียมตั้งวอร์รูมรับมือฝ่ายค้านซักฟอก
เว็บไซต์คมชัดลึก - 14มี.ค. น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงความพร้อมในการเตรียมรับมือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า มีประชาชนในพื้นที่ฝากมาว่า ไม่สบายใจที่ฝ่ายค้านเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เพราะเอาแต่เรื่องเก่าเก็บมาพูด เป็นเรื่องที่ประชาชนรู้มานานแล้ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะเป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ต้องตอบว่า ทำไมเอาเรื่องเก่าเก็บมาพูด ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่เอาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในช่วง 2-3 เดือนมาอภิปราย แต่ยืนยันครั้งนี้ รัฐบาลก็จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้อย่างเต็มที่ โดยจำได้ว่าสมัยพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคพลังประชาชนก็เล่นเกมมาตลอด

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าพรรคประชาธิปัตย์จะตั้งคณะทำงานด้านวิชาการ เพื่อประสานกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อรองรับการอภิปรายฯ

อยากฝากเป็นข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นการทำทุกอย่างเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมามีอำนาจ ก่อกวนล้มล้างรัฐบาล จึงเห็นได้ว่าการยื่นอภิปรายฯครั้งนี้ เป็นเรื่องเก่าทั้งหมด และเป็นการยื่นอภิปรายฯเชิงสัญลักษณ์ มีการระดมมวลชนคนเสื้อแดงมากดดันรัฐบาล ในสภาก็ยื่นญัตติก่อกวนในสภา นอกสภาก็ใช้มวลชนคนเสื้อแดง ดังนั้น อยากเรียนไปยังทีมงานเพื่อไทยว่า ประชาชนรู้ทันว่าเป็นการร่วมมือกันเพื่อก่อกวน เพราะกลัวว่าประชาชนจะรักนายอภิสิทธิ์มากว่า พ.ต.ท.ทักษิณ

น.พ.วรงค์ กล่าวว่า ล่าสุดเช้าวันนี้ (14 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี ก็ถูกมวลชนคนเสื้อแดง เอาขวดน้ำขว้างใส่และปาไข่ใส่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยที่เป็นบริษัทแม่ให้ดูแลบริษัทลูกให้ดี เพราะจะทำให้ประเทศเกิดความปั่นป่วน เพราะมีบางคนพร้อมจะถวายชีวิต หลายคนจึงเสนอว่าให้เปลี่ยน พท.จากเพื่อไทยเป็นเพื่อทักษิณคนเดียว

"ชลิต" ยัน ตท.6ยังไม่คุยตั้งพรรค "ธรรมาภิบาล" เชื่อ"สนธิ" พร้อมกลับช่วยงานการเมืองเพื่อชาติ  ชี้ไทยอยู่ในช่วงปฏิรูปการเมือง
เว็บไซต์แนวหน้า - พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกระแสข่าวว่า เตรียมตั้งพรรคธรรมาภิบาลร่วมกับเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6)ว่า ตท.6 คนอื่นไม่ทราบว่าคิดอย่างไร แต่ตนไม่มี และทางกลุ่มไม่เคยพูดคุยเรื่องการเตรียมไปทำงานการเมือง กับใคร ขณะนี้เพียงแต่สดับตรับฟังในฐานะที่เคยทำงานอยู่ในภาครัฐบาล ซึ่งเรารู้สึกเป็นห่วงว่า บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนพล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช.นั้นไม่ค่อยได้เจอกัน และไม่คุยกันนานมากประมาณ 2 เดือนกว่า เพราะพล.อ.สนธิ มีภาระของท่านในเรื่องของศาสนาที่ท่านนับถือ

เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ จะกลับมาช่วยงานเพื่อชาติอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าพิจารณาพื้นฐานจากอดีตที่เราสัมผัสจากพล.อ.สนธินั้น ท่านเป็นคนที่พร้อมที่จะอุทิศตนเองให้กับประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะใดนั้น คิดว่าท่านพร้อมที่จะอุทิศตัว เพราะขณะนี้ท่านไม่มีภาระในทางราชการแล้ว เมื่อถามว่า หากอดีตคมช.ตั้งพรรคการเมืองอาจจะไม่ได้รับการยอมรับ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า จะมีทางกลุ่มคนที่พึงพอใจ และไม่พึงพอใจ ขึ้นอยู่กับว่า กลุ่มไหนจะมากกว่ากัน แต่แน่นอนว่า การปฏิวัติที่ผ่านมา ภาพต่างชาติไม่ค่อยชอบเพราะเป็นการบั่นทอนประชาธิปไตย และคนที่เสียโอกาสที่เขาจะได้ เขาก็ไม่พึงพอใจ ดังนั้นเขาจึงต้องนำจุดนี้มาโจมตี

 "ใครจะเข้าไปทำงานการเมืองขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและอีกหลายอย่าง ซึ่งดูยากว่า ใครจะเล่นการเมือง เพราะเมื่อก่อนพล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่มีวี่แวว แต่ต้องขึ้นอยู่กับจังหวะ และเวลาใด บางทีเขาต้องเข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติให้ราบรื่น ทั้งนี้คิดว่า คนไทยทุกคนต้องสนใจ เกี่ยวพันและต้องทำเกี่ยวกับการเมือง เพียงแต่ต้องไม่ทำให้อำนาจหน้าที่ของตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อเราหรือกลุ่มคนใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะการเมืองไม่ใช่สิทธิหรือของที่จะเป็นเพียงของแค่กลุ่มหรือส.ส.เท่านั้น มิเช่นนั้นก็จะเป็นกันอยู่จนแก่ตายกันไปข้างหนึ่ง"พล.อ.อ.ชลิต กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร กับพล.อ.สนธิ มีความขัดแย้งกัน พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นขัดแย้ง เป็นเพียงเพื่อนร่วมรุ่นที่คุยกันปกติ เพียงแต่จังหวะของแต่ละคนต่างกัน และภาระหน้าที่ของแต่ละคนต่างกัน  เมื่อถามว่า หากเพื่อนร่วมรุ่นตท.6 ชวนท่านทำงานด้านการเมือง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คงต้องขอศึกษาว่า ทิศทางเป็นอย่างไร คงไม่โดดเข้าไปเพื่อหวังเป็นแค่รัฐมนตรี ตนคิดว่า ประเทศไทยถึงแม้จะสร้างประชาธิปไตยมา 70-80 ปีนั้น แต่ยังเตาะแตะเมือเทียบกับชาติอื่นที่สร้างมาเกือบ 800 ปี ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงการปฏิรูปการเมือง และการพัฒนาประชาธิปไตยให้คนเข้าใจในทุกส่วน และทุกด้าน ถึงตอนนี้คงต้องเลือกตั้งกันอีกหลายครั้ง และให้ประชาชนได้รับรู้ว่า ถ้าเราเลือกคนที่ไม่ดี หรือคนที่แสวงประโยชน์ก็จะทำให้เราไม่สามารถมุ่งหวังอะไรมากได้ หากทุกคนไม่ใส่ใจการเลือกตั้ง กลุ่มคนที่จะซื้อได้ก็จะลงคะแนนและทำให้คนไม่ดีมาทำงานตรงนี้ได้

"มท.1" ไม่หนักใจศึกอภิปราย มั่นใจแจงโยกย้ายเคลียร์ เพราะทำมากับมือ
เว็บไซต์แนวหน้า - นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตนไม่รู้สึกหนักใจ เพราะฝ่ายค้านได้อภิปรายในประเด็นที่ตนได้ทำมาแล้ว  ตนคงทำหน้าที่ชี้แจงให้สภาผู้แทนราษฎรได้รับทราบอีกครั้ง

เมื่อถามว่า  รู้สึกอย่างไรที่เป็นรัฐนตรีที่ถูกเสนอชื่อชักเข้าชักออก นายชวรัตน์ กล่าวว่า  ตรงนี้ฝ่ายค้านอาจขาดเอกภาพในการวินิจฉัย  นอกจากนี้ ตนคงจะไม่มีการตั้งวอร์รูม เพื่อเตรียมข้อมูลในการอภิปราย เพราะตนทำการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ด้วยตัวเอง จึงรู้ขั้นตอนว่าเป็นอย่างไร  ทั้งนี้ตนคงไม่หนักใจข้อมูลของฝ่ายค้าน เพราะสามารถชี้แจงได้ ไม่มีอะไรแอบแฝง  ส่วนในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีม็อบเสื้อแดงมาชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภานั้น  ฝ่ายความมั่งคงทั้งทหาร และตำรวจ จะต้องไปทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยไม่ใช้ความรุนแรง

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีการโฟนอินในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง  ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น  รมว.มหาดไทย กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็โฟนอินเข้ามาหลายครั้งจนเป็นกิจวัตร ถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว  ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีอะไรเป็นที่น่ากังล ส่วผกระทบต่อารัฐบาล

"พีระพันธุ์" ระบุ หาก กบข. ทำผิดทางอาญา สามารถแจ้งความต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเรียกค่าเสียหายได้
เว็บไซต์แนวหน้า
- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ร้องเรียนให้ตรวจสอบผลการดำเนินงานของ กบข. ที่ขาดทุนจากการลงทุนในปี 2551 ว่า ในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. มีอำนาจสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ภาครัฐได้ทั้งระบบ แต่ถ้าเข้าสู่กระบวนการดำเนินการในอำนาจ ที่จะให้คณะกรรมการชี้ขาดว่ามีการทุจริตหรือไม่ ในส่วนของ ป.ป.ท. จะทำได้ไม่เกินข้าราชการระดับ 8 ซึ่งข้าราชการระดับสูงกว่านี้ จะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ทั้งนี้หากพบว่ามีความผิดทางอาญาเกิดขึ้น ในส่วนของข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข.ทุกคนถือว่าเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายได้

"สมคิด" แนะใช้ท่องเที่ยว-ใช้จ่ายภาครัฐกระตุ้น ศก.
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - อดีตรมว.คลัง เชื่อเศรษฐกิจปี 52  ติดลบแน่ แนะรัฐเร่งใช้การท่องเที่ยว-ใช้จ่ายภาครัฐกระตุ้น   นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  กล่าวว่าการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของภาครัฐ จะเป็นเครื่องยนต์ที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจปี 2552 ดีขึ้นและไม่ทรุดตัวมากเกินไป เชื่อเศรษฐกิจติดลบแน่ แต่จะลบมากน้อยเพียงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาล รัฐบาลควรปฏิรูปอย่างจริงจังทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และการศึกษา โดยเฉพาะการปฏิรูประบบการศึกษา การเมืองต้องเข้มแข็ง ส่วนการปฏิรูปการเมืองต้องให้มีความทันสมัย ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม

ไทย-อังกฤษเห็นชอบร่วมกันแก้ศก.
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้ต้อนรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย ซึ่งเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ ที่หมายเลข 10 ถนนดาวนิง นายกรัฐมนตรีบราวน์ ได้ย้ำคำเชิญให้นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เข้าร่วมการประชุม London Summit ในฐานะประธานของอาเซียน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน ศกนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสอง

ย้ำความสำคัญที่การประชุม London Summit จะเห็นพ้องกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคร่วมกัน ปฏิรูปองค์กรด้านการเงินระหว่างประเทศ และยืนหยัดที่จะต่อต้านการปกป้องตลาด เห็นความสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเศรษฐกิจโลก และบทบาทของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจโลก

เน้นความตกลงระหว่างอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีในการขยายความร่วมมือจัดตั้งกองทุนเงินสำรองระดับภูมิภาค ยินดีที่อาเซียนมีเป้าหมายชัดเจนที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และการรวมตัวในระดับภูมิภาค ภายในปี ค.ศ. 2015 เน้นความสนใจร่วมกันที่จะให้มีพัฒนาการทางการเมืองในพม่า และตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อการนี้ โดยย้ำความสำคัญเร่งด่วยในการที่ทางการพม่าจะต้องให้ความร่วมมือเต็มที่กับเลขาธิการสหประชาชาติ และบทบาทการดำเนินหน้าที่ของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อปล่อยนักโทษทางการเมืองและการเปลี่ยนผ่านที่นำไปสู่ประชาธิปไตยที่มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ประสงค์ที่จะเห็นการขยายการติดต่อระหว่างประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ ชาวอังกฤษจำนวน4 หมื่นคนพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวอังกฤษจำนวนเกือบ 1 ล้านคนเดินทางไปประเทศไทยในปี ค.ศ. 2007 และมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปสหราชอาณาจักรจำนวนเกือบ 3 หมื่นคน และมีนักเรียนนักศึกษาไทยในสหราชอาณาจักรจำนวน 7 พันคน

ส่งทหาร-ตร.ลงใต้ 6.6 หมื่นนาย
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - กอ.รมน.ส่งทหาร-ตำรวจ 6.6 หมื่นนายลง4 จังหวัดภาคใต้ ชี้ มีภารกิจมาก   พ.อ.ปริญญา ฉายดิลก โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) กล่าวกรณีที่ กอ.รมน. ส่งกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 6.6 หมื่นนาย ลงปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ความจริงกำลังพลไม่มากเมื่อเทียบภารกิจรับผิดชอบ ซึ่งกำลังพล 6.6 หมื่นคน แยกเป็น ทหาร 3 หมื่นนาย ตำรวจ 1.8 หมื่นนาย ที่เหลือเป็นฝ่ายพลเรือน ตามนโยบายของ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ใช่ให้เราไปปราบโจรอย่างเดียว สิ่งสำคัญเราต้องดูแลประชาชน 1.9 ล้านคนในพื้นที่ เพื่อดูแลพื้นที่ 4 จังหวัด ซึ่งในพื้นที่มีความหลากหลาย มีความซับซ้อนของปัญหา กำลังพลที่ส่งมาไม่มากอย่างที่คิด หากเราได้กำลังเพิ่มขึ้นจะทำให้การปฏิบัติงานดีขึ้น เพราะขณะนี้กำลังพลรับภารกิจมาก ทั้งลาดตระเวนและคุ้มครองครู

รมต.คลังญี่ปุ่น - รมต.คลังสหรัฐฯ  มีความเห็นที่จะต้องออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม
เว็บไซต์แนวหน้า - นายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น และ นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้หารือกันที่กรุงลอนดอน ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารของกลุ่มประเทศ จี 20 จะเริ่มขึ้น โดยทั้ง 2 เห็นพ้องกันว่า จะต้องออกมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเงินให้มากขึ้น เพื่อหยุดยั้งไม่ให้เศรษฐกิจโลกต้องทรุดหนัก ซึ่งรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดระเบียบวางระบบสถาบันการเงินให้เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้ทั้ง 2 ยังเห็นว่า เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลควรเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายให้มากขึ้น เพื่อช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจโลก

สื่อแห่ทำข่าวพิจารณาคดีพ่อออสซี่ข่มขืนลูก24 ปี
เว็บไซต์คมชัดลึก - 14 มี.ค. กองทัพผู้สื่อข่าว ต่างก็แห่กันมาที่เมือง เซ็นต์โปเอลเทน ในออสเตรีย เพื่อเตรียมรายงานข่าวกรณีการพิจารณาคดีที่พ่อใจโฉด กักขังลูกสาวไว้ที่ห้องใต้ดินนานหลายสิบปี เพื่อข่มขืน และตัวเขาก็เป็นพ่อของลูกของเธอถึง 7 คน ในช่วงที่การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์นี้

เจ้าหน้าที่สอบสวนเปิดเผยว่า นายโจเซฟ ฟริตเซิ่ล รับสารภาพว่ากักขังและข่มขืนเอลิซาเบ็ธ ลูกสาวของตนเองตั้งแต่ปี 2527 ตอนเธออายุได้ 18 ปี เป็นเวลานานถึง 24 ปี ในห้องใต้ดินที่ไม่มีหน้าต่าง ที่เมืองแอมสเตทเทน ห่างจากกรุงเวียนนา 170 กิโลเมตร และเมื่อเดือนพฤศจิกายน ฝ่ายอัยการได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตาย จากการที่เขาปฏิเสธที่จะจัดการด้านการแพทย์ในการรักษาบุตรคนที่ 7 ที่เกิดกับเอลิซาเบธ ให้เด็กตายตั้งแต่ยังเป็นทารก นอกจากนั้นแล้ว นายฟริตเซิ่ล วัย 73 ยังเจอข้อหาข่มขืน มีเพศสัมพันธ์กับคนในครอบครัว กักขังหน่วงเหนี่ยว และใช้คนเป็นทาส

คาดว่า ผู้สื่อข่าวหลายร้อยจะเดินทางมาทำข่าวการพิจารณาคดีนี้ที่เมืองเซ็นต์ โปเอล เทน ซึ่งทางนายกเทศมนตรีเมือง ก็หวังว่า นักข่าวเหล่านี้อาจจะมีบทบาทสำคัญในการพูดถึงเมืองนี้ในด้านที่ดี และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่ได้

ปัจจุบัน ห้องพักในโรงแรมต่างก็เต็มหมดแล้วเมื่อผู้สื่อข่าวจับจองเพื่อใช้ระหว่างการทำข่าว และผู้สื่อข่าวหลายคน ต้องหันไปเช่าแฟล็ต หรือพักในเมืองอื่นที่อยู่ใกล้เคียงขณะที่สำนักงานการท่องเที่ยวของเมือง ก็ได้แจกข้อมูลเรื่องร้านอาหารและบาร์ต่างๆในบริเวณใกล้กับศาลให้กับนักข่าว เพื่อความสะดวก ด้วยความที่เกรงว่า อาจจะเกิดผลกระทบในด้านลบกับเมืองที่เป็นเจ้าภาพในการพิจารณาคดีนี้ จึงมีความคิดกันว่าควรนำคดีมาพิจารณากันที่เมือง เซ็นต์โปเอลเทน ในฐานะที่มันเป็นเมืองหลวงของมณฑลออสเตรียตอนล่าง

ขณะที่ชาวเมืองต่างก็มีปฏิกิริยาแตกต่างกันไปสำหรับการแห่แหนกันมามากมายของนักข่าว โดยบางคนบอกว่าสื่อมวลชนตื่นตัวกันมากเกินไป ส่วนบางคนก็บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องดีสำหรับเมือง โดยอย่างน้อยๆ พวกเขาก็นำเงินมาใช้ที่นี่ การพิจารณาคดีจะใช้เวลาเพียง 5 วันเท่านั้น และคาดว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินได้ในวันที่ 20 เดือน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท