Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


"เพื่อนเนวิน" นั่งบอร์ด กฟน.


ไทยโพสต์ - รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารนี้ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย ในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้านครหลวง จะนำรายชื่อคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง (บอร์ด กฟน.) ชุดใหม่ เข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยมีรายงานว่ารายชื่อที่นายบุญจงนำเสนอให้ ครม.พิจารณามีดังนี้ ประธานบอร์ดการไฟฟ้านครหลวง ได้แก่ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง


 


โดยมีกรรมการอีก 14 ตำแหน่ง อาทิ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี, นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, นายอุดม พัวสกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, นายธีรภัทร สันติเมทนีดล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี, นายบุญมี จันทรวงศ์ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์, นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง, นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด, พล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม


 


ทั้งนี้ การเสนอชื่อบอร์ดการไฟฟ้านครหลวงของนายบุญจง แสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่านายเนวินได้เข้ามามีบทบาทในการจัดทำโผรายชื่อทั้งหมด และผลักดันคนคุ้นเคยที่มีความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองให้เข้าไปเป็นบอร์ดการไฟฟ้านครหลวง เหมือนกับบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่คนของภูมิใจไทยรับผิดชอบและทำไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการทางพิเศษแห่งประเทศไทย บริษัทท่าอากาศยานไทย การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านจะนำไปอภิปรายนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล


 


ที่น่าสนใจคือ กรณีของนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะถูกฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เด้งพ้นเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง แต่ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะแกนนำพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยเห็นตรงกันว่ายังไม่ควรโยกย้ายนายวงศ์ศักดิ์ในช่วงนี้ เพราะนายวงศ์ศักดิ์เพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่กี่เดือน หากย้ายออกจะถูกมองว่าการเมืองไปกลั่นแกล้งข้าราชการประจำ และพบว่านายวงศ์ศักดิ์เองก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนักการเมืองในพรรคภูมิใจไทยหลายคน การที่นายบุญจงเสนอให้นายวงศ์ศักดิ์มาเป็นประธานบอร์ดการไฟฟ้านครหลวง จึงทำให้เป็นที่คาดหมายว่านายวงศ์ศักดิ์ไม่น่าจะถูกเด้งจากอธิบดีกรมการปกครองในช่วงนี้


 


เช่นเดียวกับนายอุดม พัวสกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง สิงห์ขาวรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีชื่อเป็นบอร์ดการไฟฟ้าฯ เช่นเดียวกับนายวงศ์ศักดิ์ อธิบดีกรมการปกครอง โดยก่อนหน้านี้นายอุดมก็มีข่าวว่าจะถูกเด้งจากตำแหน่งอธิบดีกรมโยธาธิการเช่นกัน เพราะฝ่ายการเมืองเห็นว่านายอุดมมีความคุ้นเคยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นอดีตรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ อดีตปลัดจังหวัดเชียงใหม่หลายปี


 


อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าล่าสุดนายเนวินและนายชวรัตน์อาจตัดสินใจไม่ย้ายนายอุดมจากตำแหน่ง เพราะนายอุดมกับนายเนวินมีความคุ้นเคยกันระดับหนึ่งในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2548 ที่นายเนวินไปช่วยนางเยาวภาหาเสียงที่ภาคเหนือ และตอนนั้นนายอุดมเป็นรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ทำให้นายเนวินกับนายอุดมมีความคุ้นเคยกันจนมีกระแสข่าวว่านายอุดมอาจไม่หลุดจากเก้าอี้ในช่วงนี้


 


มีรายงานว่า หลังจากมีการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงมหาดไทยคือ นายวิชัย ศรีขวัญ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากนั้นจึงจะค่อยมีการโยกย้ายกลางปีในเดือนเมษายน ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำแหน่งที่คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนพบว่ามีไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้น แต่ชื่อของนายสุกิจ เจริญรัตนกุล จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ยังคงได้รับการพูดถึงอยู่ในแวดวงข้าราชการกระทรวงมหาดไทย โดยเวลานี้มีตัวเก็งสองคนคือ นายสุธี มากบุญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าฯ ขอนแก่น


 


ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี หรือบิ๊กช้าง เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นนายตำรวจคนสนิทของนายเนวิน ชิดชอบ ตั้งแต่เป็นรองผู้บังคับการกองปราบปราม โดยมีข่าวว่า พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ส่งนายตำรวจกองปราบปรามในสังกัดมาอารักขาความปลอดภัยให้กับนายเนวิน ชิดชอบ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงรัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทยด้วย และปัจจุบันทั้ง พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ก็ยังเป็นนายตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยหลายคน โดยก่อนหน้านี้นายเนวินเคยผลักดันให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล สมัยเป็น รมช.สาธารณสุข และนายไชยา สะสมทรัพย์ สมัยเป็น รมว.สาธารณสุข ซึ่งการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นจะย้ายมาภูมิใจไทยให้ตั้ง พล.ต.ต.ชัยวัฒน์เป็นบอร์ดองค์การเภสัชกรรม ชุดที่ถูก นพ.วิชัย โชควิวัฒน ยื่นฟ้องศาลปกครองและต่อมาศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองและยกเลิกบอร์ดชุดดังกล่าว


 


ส่วนกรณีนายบุญมี จันทรวงศ์ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พบว่า มีความคุ้นเคยกับนายเนวินสมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลไทยรักไทย เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง ส่วน พล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม พบว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 10 กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผคท.พิเศษ บก.สส. ที่ก่อนหน้านี้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีต รมช.คมนาคม เคยผลักดันให้เป็นบอร์ดองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมาแล้ว โดย พล.อ.รังสาทย์ พบว่ามีความคุ้นเคยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ซึ่งมีข่าวว่าจะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างดี


 


นายกรัฐมนตรีระบุการติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณฯเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย


สำนักโฆษก - วานนี้ (12 มี.ค.) เวลา 12.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวระบุประเทศอังกฤษจะคืนวีซ่าให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้เลย ต่อข้อถามว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ส่วนกระบวนการที่จะติดตามนำตัว พ.ต.ท. ทักษิณฯ มานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจ อัยการและกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องประสานงานกัน รวมทั้งต้องดูความชัดเจนในเชิงข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท. ทักษิณฯ อยู่ที่ไหน อย่างไร


 


ต่อข้อถามว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณฯ ใช้วิธีการโฟนอินแทนการปรากฏตัวจะติดตามตัวยากหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ตัวไม่ได้อยู่ที่นั่นถ้าโฟนอิน ต่อข้อถามว่า ที่จะมีการประสานกับประเทศจีนตอนนี้ได้ติดต่อหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในชั้นนี้เป็นการทำเรื่องไป เพื่อให้อัยการดำเนินการ ทั้งนี้เชื่อว่าทุกประเทศที่มีสนธิสัญญาก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้ว ซึ่งปัญหาขณะนี้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงมากกว่าว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ อยู่ที่ไหน


 


ต่อข้อถามว่า กงสุลที่ฮ่องกงได้มีการรายงานมาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนั้นได้มีการรายงานมาว่ามีกำหนดการ แต่ขณะนี้ยกเลิกไปแล้ว ต่อข้อถามว่า เราไปขอร้องได้หรือไม่ห้าม พ.ต.ท. ทักษิณฯ โฟนอินที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในฮ่องกง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการโฟนอินไปจำกัดอะไร คงยาก เพราะขนาดประเทศไทย พ.ต.ท. ทักษิณฯ ยังโฟนอินเข้ามา


 


ต่อข้อถามว่า มีความวิตกกังวลหรือไม่ที่มีการแย่งพื้นที่สื่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่มีความวิตกแต่อย่างใด เพียงแต่คิดว่าตนมีหน้าที่ต้องรักษากฎหมาย เมื่อมีการกระทำซึ่งมีบุคคลตั้งคำถามได้ว่าทำไมรัฐบาลไม่บังคับใช้กฎหมาย ก็ต้องแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้ติดใจเรื่องพื้นที่ข่าว เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพการทำงานของสื่อ และแม้พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะมีพื้นที่ข่าวก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นพื้นที่ที่บวก


 


ต่อข้อถามว่า เป็นเพราะตำรวจของไทยทำงานไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การขอให้ส่งตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว นอกจากกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณฯ แล้วก็ยังมีอีกหลายกรณี ต่อข้อถามว่ายังมีกรณีที่นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ และนายวัฒนา อัศวเหม ที่หนีคดีออกนอกประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินการกับทุกกรณีเท่าที่ทำได้ แต่ก็เป็นปัญหาที่กระทรวงยุติธรรมกำลังดูอยู่ว่าจะแก้ไขอย่างไร


 


ต่อข้อถามว่า คนมีสตางค์ทำได้ แต่คนไม่มีสตางค์ทำไม่ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลต้องเอาจริง ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดค่านิยมใหม่ว่าคนมีสตางค์แล้วหนีไปต่างประเทศก็เลยไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ต่อข้อถามว่า ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ก็จะอยู่ไม่กี่ประเทศ เช่น ฮ่องกง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนหนึ่งก็เป็นความเชื่อว่าประเทศเหล่านั้น มีช่องทางกฎหมายอยู่ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณฯ มีความมั่นใจว่าดำเนินการได้ยาก


 


ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายเดวิด แมคมิลแลน ที่อ้างว่าเป็นอดีตนักโทษชาวออสเตรเลีย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมเมื่อปี 2538 ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ได้เขียนหนังสือบรรยายชีวิตในคุกไทยและการหลบหนีออกมาจากเรือนจำกลางคลองเปรมไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2539 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นี่แสดงให้เห็นว่าปัญหาการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นปัญหาใหญ่ จึงย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายทิ่เป็นหลักสำคัญกว่า


 


ตร.จ่อออกหมายจับการ์ด นปช.รุมทำร้ายทหาร 1 ราย


ไทยรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 มี.ค.) ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ ทหารสังกัดกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ที่แผงตัวเข้าไปในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ชุมนุมอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ. แล้วถูกการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงรุมทำร้ายร่างกาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้ตัวผู้ที่รุมทำร้าย


 


ต่อมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เปิด เผยว่า ตำรวจได้นำเทปบันทึกภาพการชุมนุมไปให้ผู้เสียหายชี้ตัวผู้ที่รุมทำร้ายแล้ว โดยผู้เสียหายยืนยันว่าจดจำใบหน้าจากเทปบันทึกภาพได้ 1 คน ซึ่งตำรวจจะเร่งตามตัวมาสอบปากคำ และขยายผลดำเนินคดีต่อไป


 


พล.ต.ต.วิชัย กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.) พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดมา ดำเนินคดี


 


 


 






เศรษฐกิจ


 


หุ้นมะกันรูดลงหลุด 7,000 จุดครั้งแรกในรอบ 11 ปี


วันนี้ (3 มี.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐวันแรกของสัปดาห์ ดัชนีลดลงอย่างต่อเนื่อง จนหลุดระดับ 7,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ภายหลังนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ เอไอจี สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เตรียมได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาลอีก 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ธนาคารประกาศตัวเลขขาดทุนมโหฬารในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วถึง 61,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ดิ่งลง 157.46 จุด ไปอยู่ที่ระดับ 6,905.47 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2540 เป็นต้นมา แนสแดค อยู่ที่ระดับ 1,352.58 จุด ลดลง 25.26 จุด และ เอสแอนด์พี อยู่ที่ 717.09 จุด ลดลง 18 จุด


 


ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปก็ได้รับผลกระทบจากทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและย่านเอเชีย จนดิ่งลงหนักเช่นกัน โดย เอฟที-100 ของอังกฤษ ปิดที่ 3,625.83 จุด ดิ่งลง 204.26 จุด แด็กซ์ของเยอรมนี ปิดที่ 3,710.07 จุด ลดลง 133.67 จุด และ ซีเอซี-40 ของฝรั่งเศส ปิดที่ 2,581.46 จุด ลดลง 121.02 จุด ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ดิ่งลง 4.11 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 9% ไปอยู่ที่ระดับ 40.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้


 


เล็งยืดเวลารับเช็คอีก 90 วันหวั่นไม่ทัน 8 เม.ย.


ไทยรัฐ - เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่ลูกจ้างร้องเรียนผ่านสื่อว่ามีบริษัทบางแห่งจ่ายเงินช่วย เหลือค่าครองชีพจำนวน 2,000 บาท ให้กับลูกจ้างที่ต้องการเงินล่วงหน้าโดยหักเงินไว้ 500 บาททำให้ลูกจ้างได้รับเงิน 1,500 บาท ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียนถึงกรณีดังกล่าวและขอยืนยันกับผู้ประกันตนทุกคนว่าจะได้รับเช็คเงินช่วย เหลือจำนวน 2,000 บาทครบทุกบาทอย่างแน่นอน ซึ่งจะเริ่มจ่ายเช็คให้ในวันที่ 26 มี. ค. นี้ ทั้งนี้ ได้สั่งการณ์ให้นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้ประกันตนทราบ เพื่อป้องกันไม่ให้นายจ้างแสวงหาผลประโยชน์ได้ ซึ่งหากพบว่านายจ้างมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงขอให้แจ้งเบาะแสไปที่สปส.ทั่ว ประเทศ เพื่อทำการตรวจสอบและพร้อมที่จะดำเนินคดีกับนายจ้างทันที


 


นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ใช้แรงานใจเย็น ๆ รออีกไม่นานก็จะได้รับเช็คเงินสด 2,000 บาท โดยกระทรวงแรงงานจะของบประมาณ 39 ล้านบาท จาก ครม.ในวันที่ 3 มี. ค. เพื่อนำมาใช้จ่ายในการส่งเช็คให้ถึงมือผู้ประกันตน เนื่องจากกระทรวงแรงงานต้องระดมเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ นำเช็คไปส่งให้ถึงมือผู้ใช้แรงงาน โดยไม่ผ่านนายจ้าง นอกจากนี้ จะมีการเสนอขยายระยะเวลาในการขอรับเงินจำนวน 2,000 บาท เนื่องจากตามระเบียบของกระทรวงการคลัง เช็คจะมีอายุ 15 วัน ซึ่งหากหลังวันที่ 8 เม.ย. ผู้ประกันตนคนใดยังไม่ได้รับเช็ค ก็ไม่สามารถรับได้ ดังนั้น จะขอยืดระยะเวลาการรับเช็คออกไป 90 วัน


 


นาย ไพฑูรย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นได้เสนอตัวเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยผู้ประกันตนสามารถนำเช็คช่วยเหลือ 2,000 บาทไปซื้อสินค้าได้โดยจะมีส่วนลดตามความเหมาะสม ทั้งนี้หากซื้อสินค้าไม่ครบวงเงิน 2,000 บาท ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวก็จะทำการทอนเงินให้ไม่เกิน 500 บาท แต่ถ้าเหลือมากว่านั้นก็จะออกเป็นคูปองเพื่อนำมาซื้อสินค้าหรือแลกเป็นเงิน ได้ภายหลัง เนื่องจากเซเว่นอีเลฟเว่นในแต่ละสาขาจะถือเงินสดไว้น้อย เพราะกลัวถูกปล้น


 


ปลาร้าราคาขยับ เหตุปลาหายาก- ข้าวคั่วพุ่ง


ไทยรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (27 ก.พ.) ว่า จากภาวะภัยแล้งและเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ซึ่งแหล่งน้ำหลายแห่งได้เริ่มแห้งขอดจนปลาชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตปลาร้าหายาก ประกอบกับตั้งแต่ปี 2551 ต่อเนื่องจนถึงปีนี้ วัตถุดิบผลิตปลาร้า เช่น น้ำตาลทราย เกลือและข้าวคั่วมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้ ราคาขายปลาร้าในตลาดหลายแห่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มขยับสูงขึ้น เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5-10 บาท โดยเฉพาะปลาร้าที่ขายและผลิตจากจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึงส่วนใหญ่ผู้ผลิตต้องซื้อปลาจากภาคกลางและประเทศเพื่อนบ้าน


 


นายสุคนธ์ ศรีสุกลาง เจ้าของแผงขายปลาร้าตลาดย่าโม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ราคาปลาร้าที่รับมาจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะรับมาจาก จ.ขอนแก่นและพระนครศรีอยุธยาในช่วงเดียวกันของปีนี้เปรียบเทียบกับเมื่อปี ที่ผ่านมา อยู่ที่ราคาปี๊บละ 180 บาท โดย 1 ปี๊บ บรรจุ 20 กิโลกรัม แต่มาในปีนี้ ราคาอยู่ที่ปี๊บละ 200 บาท


 


เจ้าของแผงขายปลาร้าในตลาดยาโม กล่าวต่อว่า แหล่งผลผลิตได้บอกล่วงหน้ามาแล้วว่าต่อจากนี้ราคาของปลาร้าจะขยับตัวสูงขึ้น อีกเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง อากาศร้อนจัด ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ แห้งขอดเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้ปลาหายากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ราคาของวัตถุดิบส่วนผสมต่างๆ มีราคาแพงขึ้นกว่าปีที่แล้ว จึงทำให้ปีนี้ราคาปลาร้าจำเป็นต้องปรับตัวสูงขึ้น


 


นางศิริพร ภวภูตานนท์ แม่ค้าขายส้มตำภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ราคาขายปลีกปลาร้าปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 5 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 20-30 บาท เป็นกิโลกรัมละ 25-40 บาท อีกทั้งเครื่องปรุงต่างๆ ก็มีราคาสูงส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น จึงทำให้ต้องขยับราคาส้มตำขึ้นจากเดิม ซึ่งขายราคาครกละ 20 บาท มาเป็นครกละ 25 บาท เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพต่อไป


 


 






คุณภาพชีวิต


 


อย.เผยคนไทยใช้ยาฟุ่มเฟือยสูงถึง 107,000 ล้านบาท


ไทยรัฐ - นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าววันนี้ (2 มี.ค.) ว่า ภาพรวมการใช้ยาของประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปี 2548 มีมูลค่า 74,000 ล้านบาท ปี 2549 มูลค่า 83,000 ล้านบาท และในปี 2550 สูงถึง 107,00 ล้านบาท โดยสาเหตุจาก 1. วิวัฒนาการเทคโนโลยีในการผลิตยาใหม่ๆ ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้การวิจัยและผลิตยารวดเร็ว มียาใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาดมากขึ้น 2.การเข้าถึงยาของประชาชนง่ายขึ้น ซึ่งมาจากโครงการรัฐสวัสดิการ ทำให้เข้าถึงการรักษาได้ทุกโรค จึงง่ายขึ้นกว่าเมื่อช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ที่การเข้าถึงยายังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะโรคที่มีภาวะรุนแรง แต่เมื่อมีระบบรักษาพยาบาล ทำให้ประชาชนเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องห่วงค่าใช้จ่าย จึงมีการใช้ยามากขึ้น และสาเหตุที่ 3. ซึ่งควรได้รับการแก้ไขมากที่สุด คือ การใช้ยาที่เป็นค่านิยมไม่ถูกต้อง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ยาของประชาชนและแพทย์ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ที่ใช้อย่างฟุมเฟือย ทั้งที่บางโรคไม่จำเป็นต้องใช้ ที่สามารถหายจากอาการป่วยเองได้ แต่กลับจ่ายยาให้ กลายเป็นการทิ้งเปล่า ทั้งที่ควรมีอาการบ่งชี้เกิดขึ้นก่อน เช่น น้ำมูกไหล เสหะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม แต่คนไทยส่วนใหญ่กลับกินยาป้องกันไว้ก่อน ทั้งที่ไม่มีอาการ


 


นพ.พิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาพฤติกรรมการใช้ยาที่ไม่ต่อเนื่องตามที่แพทย์จัดให้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่ออาการเริ่มดีขึ้นประชาชนส่วนใหญ่ก็จะหยุดการใช้ยา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้การสะสมยาแล้ว ยังส่งผลให้เกิดผลภาวะการดื้อยาได้ แม้ว่าไม่มีการศึกษาวิจัยที่ชัดเจน แต่ประมาณการณ์ว่า ใน 1,000-2,000 ราย จะมีผู้เกิดภาวะดื้อยา 1-2 ราย


 


เลขาฯอย. กล่าวด้วยว่า มาตรการแก้ไขปัญหาการใช้ยาฟุ่มเฟือย คือ 1.การควบคุมการใช้ยาโดยบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยคณะกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติได้คัดเลือกยาที่จำเป็น ที่ใช้กับทุกโรค มีประสิทธิภาพในการรักษา และมีราคาเหมาะสม เพื่อใช้กับผู้อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ เป็นการจำกัดกรอบการใช้ยา เพื่อไม่ให้ใช้ยาที่มีราคาแพงเกินไป 2.การจัดทำเอกสารกำกับยา ที่ต้องรายละเอียดชัดเจน เพื่อให้ประชาชนใช้ยาได้อย่างถูกต้อง และ 3.การรณรงค์การใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น เพราะไม่เพียงแต่ประเทศไทย ประเทศอื่นๆ ต่างก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน


 


กทม.เปิด "บ้านยิ้ม" ช่วยสวัสดิการที่อยู่อาศัยขรก.-ลูกจ้าง


มติชน - ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง "โครงการบ้านยิ้ม"เมื่อวันที่ 2 มีนาคม โดยมีสถาบันการเงินของรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง


 


ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เปิดเผยว่า กทม.ได้สำรวจความต้องการของข้าราชการและลูกจ้าง กทม.กว่า 100,000 คน พบว่ากว่า 4 หมื่นรายต้องการสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัย กทม.จึงจัดหาบ้านของโครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน 10,000 หน่วย ดำเนินโครงการ โดยจะให้ข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ที่มีรายได้ต่ำกว่า 13,500 บาทต่อเดือน จองบ้านและกู้ธนาคาร 100% ในอัตราคงที่ 30 ปี เฉลี่ยผ่อนต่ำสุด 1,850 บาทต่อเดือน


 


"สำหรับโครงการบ้านยิ้มนั้นจะตั้งอยู่ในพื้นที่รอบกรุงเทพฯและปริมณฑล เช่น อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมุทรปราการ และปทุมธานี เป็นต้น ซึ่งจะเปิดให้มีการจองบ้านในเร็วๆ นี้" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว และว่า บ้านในโครงการทุกหลังจะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบถ้วน เพื่อให้สามารถเข้าอยู่ได้ทันที รวมทั้งมีรถรับส่งถึง กทม.เสาชิงช้า และ กทม.2 ดินแดง


 


ด้านนายอิสสระ กล่าวว่า จะนำโครงการบ้านยิ้มของ กทม.นำเสนอรัฐบาล เพื่อให้กระทรวงต่างๆ นำรูปแบบโครงการไปใช้เป็นสวัสดิการให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดต่อไป


 


เหนือวิกฤติ ฝุ่นละอองพุ่งสูงถึง 249.5 ไมโครกรัม


ไทยรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงาน วานนี้ (2 มี.ค.) สถานการณ์หมอกควันปกคลุม จ.เชียงราย ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ท้องฟ้าและถนนหลายสายถูกหมอกควันปกคลุมหนาทึบ โดยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งสูงถึง 249.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมอกควันที่ปกคลุม จ.เชียงราย นานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ แสบตาและจมูก เพิ่มมากขึ้น


 


ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ร่วมกับตำรวจจราจร ตั้งด่านตรวจจับควันดำ บริเวณถนนสายโชตนา ขาเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อลดมลพิษจากท่อไอเสีย หลังมีหมอกควันปกคลุมทั่วตัวเมืองเชียงใหม่มานานกว่า 1 สัปดาห์ และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงกว่าค่ามาตรฐาน


 


 






ต่างประเทศ


 


ญี่ปุ่นชี้มนตรีความมั่นคงยูเอ็นเตรียมคว่ำบาตรโสมแดง


ไทยรัฐ - วันที่ 2 มีนาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายทาโร่ อาโซะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า การส่งจรวดเพื่อนำดาวเทียมของเกาหลีเหนือขึ้นสู่อวกาศจะทำให้คณะมนตรีความ มั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออีกครั้งหนึ่งได้ หากเกาหลีเหนือยังคงดึงดันที่จะส่งจรวดออกไปไม่ว่ากรณีใดๆ โดยจะมีการหารือเรื่องนี้ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทันที นายอาโซะกล่าวถึงเรื่องนี้หลังจากที่นายฮิโรฟูมิ นากาโซเน่ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวที่กรุงปักกิ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การยิงจรวดของเกาหลีเหนือจะเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ


 


ขณะที่เกาหลีใต้ได้แต่งตั้งให้นายวี ซุง-ลัค วัย 54 ปีเป็นหัวหน้าคณะเจรจา 6 ฝ่ายว่าด้วยการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยนายวีซึ่งเป็นผู้ช่วยพิเศษของรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้จะปฏิบัติ หน้าที่ต่อจากนายคิม ซุก ที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนัก ข่าวกรองแห่งชาติ หลังจากที่ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้เจรจาทางนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้มาเป็น เวลานาน 10 เดือน


 


ทหารกินีบิสเซาก่อเหตุสังหาร ปธน.-ผู้บัญชาการทหาร


ไทยรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า ประธานาธิบดีเจา เบอร์นาร์โด วิเอรา วัย 69 ปี แห่งประเทศกินีบิสเซา ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ถูกสังหารโดยทหาร หลังจากผู้บัญชาการกองทัพเพิ่งถูกลอบสังหารก่อนหน้านี้ได้ไม่กี่ชั่วโมง


 


กองทัพกินีบิสเซา กล่าวหาประธานาธิบดีวิเอรา ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของ พล.อ.แทกเม นา ไว ผู้บัญชาการกองทัพ ซึ่งถูกสังหารด้วยระเบิดที่กองบัญชาการในกรุงบิสเซา เมื่อค่ำวานนี้ (1 มี.ค.)


 


โฆษกกองทัพกินีบิสเซา เผยว่า กองทัพเป็นผู้สังหารประธานาธิบดีวิเอราเมื่อเช้านี้ ในขณะที่เขาพยายามหลบหนีออกจากบ้านพักซึ่งกำลังถูกกลุ่มทหารที่ใกล้ชิดกับ พล.อ.แทกเม่นา ไว บุกโจมตี


 


มีรายงานกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีวิเอรา ได้ปะทะกับกองทัพในกรุงบิสเซาเมื่อวานนี้ และจนถึงเช้าวันนี้ก็ยังคงได้ยินเสียงจรวดและอาวุธปืนอัตโนมัติในนครหลวง


 


ประธานาธิบดีวิเอรา เป็นผู้นำคนหนึ่งในการต่อสู้ของกินีบิสเซาปลดแอกการปกครองของโปรตุเกส เขาเป็นผู้นำของประเทศนี้ในช่วงปี 2523-2532 และกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2548 จนกระทั่งเสียชีวิต มีรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกองทัพตึงเครียดมานานหลายเดือนแล้ว


 


กินี บิสเซาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา และเป็นจุดขนส่งโคเคนแห่งสำคัญจากทวีปแอฟริกาเข้าไปในยุโรป โฆษกกองทัพ กล่าวว่า การสังหารประธานาธิบดีจะเป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม มีรายงานของนักวิชาการจากสถาบันอินเทอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป ระบุว่า ทหารบางคนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและคัดค้านการปฏิรูปที่จะส่งผลให้พวก เขาต้องเกษียณอายุราชการ ซึ่งมีผลต่อรายได้ที่งดงามจากการค้ายาเสพติด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net