Skip to main content
sharethis


"ทักษิณ"โฟนอินปลุกเสื้อแดงสู้ ลั่นกลับไทยถ้ามีความยุติธรรม

เว็บไซต์คมชัดลึก -   "ทักษิณ"โฟนอินปลุกเสื้อแดงลุกขึ้นเรียกร้องประชาธิปไตย ชี้วิกฤติเศรษฐกิจโลกลามถึงไทย เย้ยรัฐบาลอ่อนหัดเอาคนอ่อนด้อยเรื่องเศรษฐกิจ แถมเอาคนยึดสนามบินมาเป็นรมต.ทำให้ภาพพจน์ประเทศเสียหาย กร้าวพร้อมกลับไทยแต่ต่อรองรัฐบาลจะให้ความยุติธรรมได้จริงหรือไม่



ที่วัดเวฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) เขตดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.30 น. นายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำคนเสื้อแดง แจ้งต่อผู้ชุมนุมว่าขณะนี้ พ.ท.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่ในสายพร้อมโฟนอินเพื่อพูดคุยกับพี่น้องเสื้อแดงแล้ว จากนั้นนายวีระ ได้กล่าวว่า พวกเราทุกคนยังถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นนายกฯอยู่ เพราะวันที่ 19 ก.ย.49 นั้น เราถือว่าเป็นการปล้นอำนาจจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่เลวร้ายไม่มีอะไรเลวร้ายเท่ากับเอาอำนาจของประชาชน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้อนาคตของประเทศชาติต้องหมดไป ทหารในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ที่เข้ามาบริหารประเทศก็เหมือนยาม ที่เห็นผู้บริหารที่ทำงานกัน ก็อยากเข้ามาทำงานแทน แต่เราจะให้ยามเข้ามาบริหารประเทศได้อย่างไร และยังไม่พอยังมีการทำลายรรัฐธรรมนูญ และมีการร่างฉบับเผด็จการ รวมทั้งให้ศาลเข้าวุ่นวาย ทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหาย วันนี้ตนไม่กังวลเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองแล้ว เพราะตนอยู่ต่างประเทศก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว



ระหว่างนั้นนายวีระ ได้พูดแทรกขึ้นว่า ประชาชนอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาในประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตอบว่า เคยบอกว่า จะยอมไปตายที่แผ่นดินอีสาน หมายความว่า ตนพร้อมจะเข้ามาในประเทศไทย แม้ว่าจะถูกฆ่าตายก็ตาม วันนี้ขอชื่นชมประชาชนที่มีความรักต่อประชาธิปไตย แม้ปกติวันวาเลนไทน์คนให้ความสำคัญความรักในรูปแบบต่างๆ แต่คนเสื้อแดงให้ความรักในแบบประชาธิปไตย เพราะวันนี้เราต้องยอมรับว่าสังคม และประเทศกำลังป่วย ใครอยากจะย้ายข้างย้ายพวกก็ทำได้ โดยไม่ได้อยู่ในกรอบกติกา ไม่ต้องแข่งขันกัน ถึงเวลาก็มีคนมาช่วยปล้นให้เข้ามาบริหารประเทศ วันนี้ระบบประชาธิปไตยถูกกลืนโดยทหาร และเอาศาลรัฐธรรมนูญใช้ ความจริงแล้วตนไม่อยากจะพูดมาก แต่ที่ผ่านมาที่ตนเดินทางไปต่างประเทศรอบโลก ก็จะเห็นปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ



โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป ถึงขั้นบริษัทใหญ่ๆ ต้องล้มกิจการไป ขณะที่หันมาดูประเทศไทย ก็มีแนวโน้มสูงที่ปัญหาวิกฤติโลกจะลามถึงประเทศไทย ระบบเศรษฐกิจในประเทศยังยึดจีดีพี และการส่งออก แต่ต่างประเทศผู้ซื้อมีกำลังซื้อลดลง ซึ่งกระทบการส่งออก แน่นอน อีกทั้งการท่องเที่ยวในประเทศก็ได้ผลบกระทบจากต่างชาติ ขาดความเชื่อถือในรัฐบาล และปัญหาทางการเมือง โดยเอาคนที่ยึดสนามบินมาเป็นรมต. และยังไม่นับความสามารถในการบริหารด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ยังทำได้น้อย



พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การที่รัฐบาลนี้คิดว่าทำนโยบายประชานิยมเพียงพอนั้น ความจริงแล้วไม่พอ ตนประเมินว่าเศรษฐกิจปี 2009 จะแย่ และตัวเลขการเจริญเติบโตของประเทศยังเจริญไม่เท่าที่ควร และปัญหาเด็กจบใหม่จะเกิดปัญหาทางสังคมตามมา ประกอบกับการเมืองอ่อนแอลงไม่ยึดกติกา และระบบยุติธรรมใช้สองมาตราฐาน รวมทั้งไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ตนคิดทางแก้ก็คือประชาชนต้องรีบช่วยกันหาความยุติธรรมให้กับสังคม



สาเหตุหลักของปัญหาเศรษฐกิจตนมองว่าเราขาดกระบวนการคิดทางเศรษฐกิจ เพราะทั่วโลกผลิตสินค้าที่คล้ายคลึงกันหมด ทำให้ทุกประเทศแข่งขันกันด้วยราคา ต่อไปอเมริกาจะแก้ไขปัญหาโดยเอาแนวทางของประเทศโลกที่สามไปใช้ คือ ให้แรงจูงใจด้วยการลดภาษี ให้คนไปผลิตสินค้าในอเมิรกามากขึ้น ต่อไปไอเดียและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่สำคัญในการแข่งขันเศรษฐกิจโลก ถ้าประเทศไม่มีประชาธิปไตยก็เกิดการสร้างสรรค์ยาก



พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนต้องขอขอบคุณประชาชน โดยเฉพาะคนเสื้อแดง ที่ไม่อยากเห็นตนถูกรังแก เมื่อประชาชนพร้อมจะเอาผมกลับประเทศ อยากให้กลับมาบริหารประเทศ ตนพร้อม แม้ว่ากลับมาแล้วจะถูกฆ่าตายก็ยอม แต่ต้องมีความยุติธรรมด้วย วันนี้ที่รัฐบาลเรียกร้องให้ตนกลับมา ก็ต้องถามว่าจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้หรือไม่ เพราะดูอย่างคตส.ก็ตั้งคนเป็นปรปักษ์กับตนมาตรวจสอบ ตนจบถึงปริญญาเอกด้านกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ได้รับความยุติธรรมากที่สุด เพราะทะลึ่งทำงานรับใช้ปชช.จนประชาชนพอใจมากสุด เขาจึงต้องการขจัดตนให้พ้นจากการเมือง ตนเป็นคนที่พูดดีๆ ก็รู้เรื่อง แต่มากลั่นแกล้งกันตายเป็นตายก็ไม่ยอม และวันนี้ก็ไม่ยอมแล้ว เขากล่าวหาว่าตนคอรัปชั่น ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี คำว่าคอรัปชขั่น คือการเอาเงินหลวงมาเป็นของตัวเอง แต่นี้เป็นเรื่องการซื้อขายที่ดิน คนซื้อไม่ผิด คนขายก็ไม่ผิด แต่ผิดแค่ตนเป็นผัวคนซื้อ แล้วเซ็นยินยอมเท่านั้น ทีคนอื่นไปเอาที่หลวงมาเป็นของตัวเองกลับเป็นคนที่มีความดีความชอบ เอาส่วนไหนคิดก็รู้แล้วว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย



อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า หากปชป.ระบุว่ามาจากการเลือกตั้ง ถ้าแน่จริงก็ทำตามกติกา ไม่ใช้เอากรรมการมาเข้าข้าง อีกไม่กี่วันอาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตนเป็นผู้ถูกกระทำ ตนไม่ยอม และจะขอสู้เคียงข้างคนเสื้อเดง ทีไอ้พวกพันธมิตรฯไปไหนมีตำรวจ ทหารคอยดูแล แต่เวลาพวกเสื้อแดงไปไหนก็ถูกขัดขวาง ชาวบ้านเขากินข้าวเขาเข้าใจ การรกระทำอย่างนี้ เป็นการเติมเชื้อในหัวใจชาวบ้าน คนสั่งต้องรู้ตัว หากปล่อยไปอย่างนี้จะมีปัญหามากกว่านี้เยอะ ตนไม่ใช่คนต้องการหาเรื่อง แต่ต้องการหาความเป็นธรรม



พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงการตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ศาลตัดสินด้วยมติ 5 ต่อ 4 โดยเสียงข้างน้อย ได้เขียนเหตุผลไว้ชัดเจน แต่พอมาวันตัดสินใจ ก็เหลือเพียง 4 ต่อ 4 เพราะผู้พิพากษาคนหนึ่งนั่งบัลลังก์ไม่ได้ นี่เป็นเรื่องเสียของระบบยุติธรรมของไทย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจบการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณผู้ชุมุนุม นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และคนเสื้อแดงทุกคน


 


รมว.กลาโหม ปัดส่งทหารดูม็อบเหลือง-แดง


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - รมว.กลาโหม ออกรอบตีกอล์ฟ ก๊วนเตรียมทหารรุ่น 6 ปัดตอบการเมือง ยันไม่ส่งทหารดูแลม็อบเหลือง-แดง   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยเพื่อนนักเรียนทหารรุ่นที่ 6 (ตท.6) อาทิ พล.อ.นพดล อินทรปัญญา เลขานุการรัฐมตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ อดีต ผอ.ททบ.5 ออกรอบตีกอล์ฟในช่วงวันสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ไม่อยากให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง เนื่องจากเป็นวันหยุดจึงได้ออกมาร่วมตีกอล์ฟกับก๊วนเพื่อน ตท.6 ที่สนิทกันเท่านั้น



เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้มีการขอกำลังทหารให้ไปดูแลดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จ.อุดรธานี ที่มีการเปิดเวทีประชันกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้มีการส่งทหารเข้าไปดูแล เพราะเชื่อว่าตำรวจจะดูแลความสงบได้ เมื่อถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามย้ำว่าในวันวาเลนไทน์อยากฝากอะไรไปถึงประชาชน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องฝากอะไร เพราะเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศมีความรักกันดีอยู่แล้ว


 



'ชวรัตน์' ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย


เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2552 ครั้งที่ 1 ของพรรคภูมิใจไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 12 คน ซึ่งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 และนางพรทิวา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค นายเรืองศักดิ์ งามสมภาค เป็นรองเลขาธิการพรรคคนที่ 1 นายสนอง เทพอักษรณรงค์ เป็นรองเลขาธิการพรรคคนที่ 2 นายพิพัฒน์ พรหมวราภรณ์ อดีตหัวหน้าพรรค เป็นนายทะเบียนพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโฆษกพรรค และนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ เป็นเหรัญญิกพรรค



นอกจากนี้ ยังมีกรรมการบริหารพรรคอีก 3 คน คือ นายรังสิกร ทิมาตฤกะ นายพันธพัฒน์ พัฒนะพัฒนา และนางนำพร วานิชชัง.


 


"ประดิษฐ์"จี้ถกวิธีแจก2พันให้ผู้ประกันตน


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -  "ประดิษฐ์" แนะรีบหารือวิธีการจ่ายเงิน 2 พัน ให้ผู้ประกันตน ชี้ประชาชนรออยู่ ระบุทำรวดเร็วช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านประชาธิปัตย์ปัด "กอร์ปศักดิ์-กรณ์-ไพฑูรย์" เกาเหลา ยันผู้พิจารณาท้ายสุดคือนายกฯ ลั่นจัดการเสร็จทันเดือนมี.ค.



นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้ากรณีรัฐบาลแจกเงิน 2,000 บาทให้กับผู้ประกันตนสังคม ว่า เป็นเรื่องดีแต่จะทำอย่างไรให้เงินดังกล่าวถึงมือประชาชนที่ได้รับประโยชน์ให้เร็วสุด และไม่ให้เกิดการรั่วไหลไปในทางทุจริต ส่วนประชาชนที่ได้รับประโยชน์ตรงนี้จะนำเงินดังกล่าวไปใช้อะไรก็เป็นเรื่องส่วนตัว ทางรัฐบาลคงไปบังคับอะไรไม่ได้



ทั้งนี้ มั่นใจว่าการที่รัฐบาลใช้เงินก้อนนี้ เพื่อที่จะกระจายงบประมาณนี้ไปสู่ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่จะได้ประโยชน์ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วที่สุด และมองว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เงินเหล่านี้กระจายไปสู่ประชาชนเร็วที่สุด และมีการสูญเสียน้อยที่สุดคงไม่ต้องใช้แบบสอบถามอะไร ซึ่งจะทำให้ล่าช้าเพราะงบประมาณนั้นผ่านสภาแล้วสำคัญที่สุดจะต้องรีบกระจายเงิน



นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่จะโอนเป็นเช็คหรือโอนผ่านบัตรประชาชนไปรับเงินสดที่ธนาคาร จะต้องมาคุยกันและผู้คุมนโยบายต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ประชาชนรออยู่



น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน คนละ 2,000 บาท ว่า ขณะนี้ดูเหมือนว่ามีการนำเสนอข่าวในลักษณะของความแตกต่าง แนวทางระหว่างนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ทางพรรคขอฝากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลได้มีการหารือถึงแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือจากโครงการนี้ได้ประโยชน์มากที่สุด โดยไม่มีอุปสรรคติดขัดและผู้ที่จะพิจารณาเรื่องนี้ท้ายที่สุดคือนายกรัฐมนตรี



ดังนั้นเรื่องความแตกต่างเป็นความเห็น ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความที่ต้องการให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันโครงการที่จะช่วยเหลือ ผู้ที่ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 10 ล้านครอบครัวที่ได้รับประโยชน์จากการเรียนฟรี 15 ปี  ผู้สูงอายุที่จะได้เบี้ยยังชีพ หรือเงินที่เตรียมไว้เพื่ออุดหนุนราคาสินค้าเกษตรและการรับจำนำพืชผลอีก 1.4 แสนล้านบาท ก็เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลควรจะผลักดันต่อเนื่อง



ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้รับผิดชอบทั้งสามคนไม่มีการหารือรอบนอก ก่อนที่จะกำหนดแนวทางในการจ่ายเงินให้เป็นเอกภาพหรือไม่ น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ที่จริงแล้วทั้งสามท่านก็ทำตามนโยบายของรัฐบาล โดยต้องเร่งสร้างกำลังซื้อของประชาชนโดยการกระตุ้นเศรษฐกิจเอาเงินใส่มือประชาชนกลุ่มต่างๆ เพียงแต่ขั้นตอนการดำเนินการรัฐบาลต้องพิจารณา



เมื่อถามย้ำว่า ทั้งสามคนเกาเหลากันหรือไม่ ที่ไม่หารือกัน และเรื่องนี้จะทันเดือนมี.ค. นี้หรือไม่ เพราะประชาชนเริ่มไม่มั่นใจ น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ไม่มีเกาเหลา เพราะ ครม.เศรษฐกิจให้ความสำคัญมากเช่นเดียวกับการจ้างงาน และจะมีความชัดเจนในขั้นตอนวิธีการในวันสองวันนี้ว่าจะดำเนินการต่อด้วยวิธีใดและนโยบายนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาของประชาชนทั้งเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ รายได้ที่ลดลง ซึ่งพรรคได้ฝากไปยังรัฐบาลและพรรคร่วมแล้ว


  


กม.กระตุ้นศก.สหรัฐผ่านความเห็นชอบสองสภาแล้ว


เว็บไซต์คมชัดลึก -  ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 2 หมื่น 7 พันล้านบาท ที่รัฐบาลสหรัฐหวังว่าจะใช้กอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศได้ ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภาแล้ว



วุฒิสภาสหรัฐมีมติ 60 ต่อ 38 เสียง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 787,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่กี่ชั่วโมงหลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติอนุมัติกฏหมายฉบับนี้ด้วยเสียง 246 ต่อ 183 เสียง ซึ่งคาดว่าจะส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัก โอบามาลงนามรับรองได้ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้



การผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งร่างขึ้นมาเพื่อกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบหลายสิบปี จะรวมถึงการตัดลดภาษี และการใช้จ่ายเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจที่กำลังเผชิญวิกฤติ ของสหรัฐ และนับเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในทางการเมืองของโอบามา ตั้งแต่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มกราคม



แต่ชัยชนะครั้งนี้ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากสองพรรคอย่างที่รัฐบาลของโอบามาคาดหวัง เพราะยังต้องอาศัยเสียงข้างมากจากพรรคเดโมแครตเข็นให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านทั้งสองสภา โดยในการลงมติผ่านร่างในสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีส.ส.จากพรรครีพับลิกันโหวตให้แม้แต่คนเดียว และยังมีส.ส.เดโมแครตอีก 7 คนโหวตสวนทางพรรคด้วย



ขณะที่การลงมติในวุฒิสภาก็ได้เสียงสนับสนุนจากส.ว.รีพับลิกันเพียง 3 คน ทำให้ผ่านความเห็นชอบในสภาสูงที่ต้องได้ถึง 60 เสียงไปอย่างหวุดหวิด ซึ่งงานนี้ทำให้พรรคเดโมแครตต้องรอให้วุฒิสมาชิก เชอร์ร็อด บราวน์ ของพรรคเดโมแครต เดินทางกลับจากงานศพของมารดาที่บ้านเกิดของเขาในรัฐโอไฮโอเสียก่อน เพื่อให้ได้เสียงครบ จึงเริ่มทำการโหวตกันได้เมื่อเวลา 4 ทุ่ม 46 นาทีตามเวลาท้องถิ่น


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net