แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เรียกร้องส่งสำเนาจดหมายถึงตัวแทนการทูตของประเทศจีนประจำอยู่ในประเทศไทย ภายในวันที่ 16 มีนาคม 2552 กรณีทางการจีนกักขังเกา ซิเซง โดยพลการและมีข้อกังวลในเรื่องการซ้อมทรมาน

ทั้งนี้ สำเนาจดหมายของ แอมเนสตี้ ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 มีเนื้อหาว่า เกา ซิเซง (Gao Zhisheng) เพศชาย อายุ 48 ปี เป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนในกรุงปักกิ่งถูกจับกุมในช่วงวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา และยังไม่สามารถติดต่อได้ว่าอยู่ ณ ที่ใด สืบเนื่องจากการปฏิบัติอย่างรุนแรงที่เขาเคยได้รับก่อนหน้านี้ทำให้อาจคาดการณ์ได้ว่าเขามีความเสี่ยงอย่างสูงต่อการทรมานหรือการปฏิบัติอย่างโหดร้าย

เกายังมีชื่อติดอันดับหนึ่งในสิบทนายความของประเทศในปี 2544 โดยกระทรวงยุติธรรมเนื่องจากการทำงานอาสาสมัครและเป็นตัวแทนนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและผู้ปฏิบัติลัทธิฟาหลุนกง รวมทั้งยังทำงานในคดีเกี่ยวกับโทษประหารชีวิต แต่ในปี 2548 เขาถูกเพิกถอนใบอนุญาตทนายความ และได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีหู จินเทา และนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเปา เรียกร้องให้ยุติการคุกคามผู้นับถือศาสนาและนักกิจกรรมด้านประชาธิปไตย

เดือนกุมภาพันธ์ 2549 เขาจัดการชุมนุมอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ยุติการคุกคามนักสันติวิธีในประเทศจีน ซึ่งทำให้เขาถูกตั้งข้อหาว่า "ก่อการโค่นล้มรัฐบาล" ในเดือนธันวาคม 2549 และถูกตัดสินลงโทษจำคุก 3 ปี โดยรอการลงโทษ 5 ปี เขาถูกกักบริเวณให้อยู่ในบ้านพักตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549

ในระหว่างการคุมขังในช่วงเวลาที่ผ่านมา เกาถูกทำให้อยู่ในลักษณะที่ทรมานหลายวัน ถูกทำร้ายจนหมดสติ ใช้ไฟฟ้าช็อตที่อวัยวะเพศ และจุดบุหรี่ใกล้ดวงตาของเขาหลายชั่วโมง เมื่อเขาถูกปล่อยตัวคนที่รู้จักเขาหลายคนเล่าว่าเขาคล้ายกับคนที่ถูกทำร้ายอย่างหนักทั้งร่างกายและจิตใจ

แอมเนสตี้ ยังให้ข้อมูลว่านักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศจีนที่พยายามรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนและท้าทายต่อนโยบายทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน หรือพยายามระดมพลในเรื่องต่างๆมักจะเผชิญกับความเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิ หลายคนถูกจองจำเป็นนักโทษทางความคิดหลังจากพบว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองในการกระทำ หรือบางครั้งถูกกักบริเวณในบ้านโดยมีตำรวจรบกวนความเป็นอยู่โดยปกติและยืนคุ้มกันนอกบ้าน สมาชิกในครอบครัวของนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนรวมถึงเด็กๆ ก็ต้องอยู่ภายใต้การละเมิดรวมทั้งการกักกันในบ้านพักเป็นระยะเวลานาน

แอมเนสตี้ได้เรียกร้องการส่งจดหมายไม่ว่าภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยให้ทางการจีนปล่อยตัวเกาโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยมีแนวทางในการเขียนจดหมายเรียกร้องว่าหากเขายังคงอยู่ในคุกให้ทางการเปิดเผยสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวและข้อหาที่ถูกจับกุมนอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทางการประกันว่า เขาจะไม่ถูกทรมานหรือปฏิบัติอย่างโหดร้ายในระหว่างการคุมขัง และให้ทางการประกันว่าเกาได้รับอนุญาตให้เข้าถึงทนายความและการรักษาพยาบาลตามที่ต้องการ รวมไปถึงการเรียกร้องให้ทางการออกมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อประกันว่านักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนทุกคนสามารถทำกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนอย่างสันติวิธีได้โดยปราศจากความกลัวต่อการถูกคุมขังโดยพลการ การจำคุก อุปสรรคและการข่มขู่คุกคาม ภายใต้คำประกาศของปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยนักสิทธิมนุษยชน