Skip to main content
sharethis

 







การเมือง


ครม.แต่งตั้ง11ผช.รมต. มีชื่อ"นวลพรรณ ล่ำซำ" แต่ไร้"สำราญ รอดเพชร"


ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง11อรหันต์เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี มีชื่อ"นวลพรรณ"ทายาทรุ่นที่ 5ของตระกูล"ล่ำซำ" ติดโผด้วย ไร้ชื่อ"สำราญ รอดเพชร"แกนนำพันธมิตรฯรุ่น2 หลังถูกวิจารณ์หนัก


นายศุภลักษณ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า ครม.อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี 11 คน ดังนี้ 1.นายฉัตรชัย ปิยะสมบัตกุล 2.นายณัฐวุฒ จิตะสมบัติ 3.นางนวลพรรณ ล่ำซำ 4.นายนิพนธ์ บุญญภัทโร 5.ร้อยตรีประพาส ลิมปะพันธุ์ 6.นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ 7.นายยุพ นานา 8.นายศักดา หาญบุญตรง 9.นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล 10.นางสาวสุภาลักษณ์ ตั้งจิตต์ศีล และ 11. นายอภิชัย เตชะอุบล ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.เป็นต้นไป


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติ แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี 11 ตำแหน่ง โดยไม่มีชื่อนายสำราญ รอดเพ็ชร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่น 2 และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนายสำราญ นั้นไม่ได้ถูกเสนอชื่อเข้ามาหรือตัดออกชื่อออกขณะพิจารณา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้มีการเสนอชื่อเข้ามา โดย ครม.อนุมัติตามที่มีการเสนอมา ส่วนสาเหตุที่ที่ไม่มีการแต่งตั้งนายยุทธพงศ์ นั้นไม่เกี่ยวกับที่เคยเปิดโปงเรื่องการจัดซื้อรถดับเพลิง ของ กทม.


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่ได้เสนอชื่อนายสำราญ รอดเพชร และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีสามารถตั้งได้ไม่เกิน 30 คน หากเห็นว่าต้องการบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยงานก็อาจมีการแต่งตั้งเพิ่ม"


ที่มา: www.matichon.co.th


ครม.โละบอร์ดมรดกโลกชุด"ปองพล" ดัน "อดุล วิเชียรเจริญ"คืนเก้าอี้ ค้านพื้นที่รอบพระวิหารเป็นมรดกโลก


ครม.โละบอร์ดมรดกโลกชุด "ปองพล อดิเรกสาร" ทั้งหมด พร้อมรื้อโครงสร้างกรรมการใหม่ มีระดับรมต. มีตั้งแต่ "บัวแก้ว-กลาโหม-มหาดไทย-วัฒนธรรม-ศึกษาฯ-ผู้ทรงคุณวุฒิฯสิ่งแวดล้อม" ส่วนปธ.เป็นรองนายกฯ "อดุลย์" ตอบรับเป็นกก. ยันไม่เห็นด้วย ให้พื้นที่รอบพระวิหารเป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวแห่ชม "ผามออีแดง" วันแรกคึกคัก


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ มีมติอนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกชุดใหม่จำนวน 26 คน แทนคณะกรรมการชุดที่มี นายปองพล อดิเรกสาร เป็นประธาน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและสถานการณ์ชุดปัจจุบัน


นายศุภรักษ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะกรรมการชุดใหม่จะมี นายอดุล วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลก เป็นกรรมการและที่ปรึกษา มีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน ส่วนรองประธานมี 2 คนคือ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ


ดึง"กห.-สวล."ร่วมทีมกรรมการ


ส่วนกรรมการประกอบด้วย


1. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม


2. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


3. นายธีระ สลักเพ็ชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม


4. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


5. เลขาธิการสำนักพระราชวัง หรือผู้แทน


6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผู้แทน


7. เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือผู้แทน


8. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ หรือผู้แทน


9. ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน


10. เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือผู้แทน


11. นายวทัญญู ณ ถลาง ผู้ทรงคุณวุติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม


12. นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ


13. นายพยุง นพสุวรรณ


14. นายอุทิศ กุฏอินทร์


15. นายมานิต ศิริวรรณ อดีตรองเลขาธิการสำนักสิ่งแวดล้อม


16 - 17. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการต่างประเทศ โดยความเห็นชอบของประธานบอร์ด 2 คน


18. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


19. นายวีรชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย


20. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


21. นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร


22. นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


"อดุล" รับเป็นกก.-ที่ปรึกษา


นายอดุล วิเชียรเจริญ กรรมการและที่ปรึกษาคณะกรรมการมรดกโลก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทั้งนายสุวิทย์ และเจ้าหน้าที่ ทส.เคยติดต่อให้เป็นกรรมการและที่ปรึกษาในคณะกรรมการชุดนี้ ก็แจ้งกลับไปว่า ปีนี้อายุ 82 ปีเพิ่งจะผ่าตัดกระดูกต้นคอใส่เหล็ก 2 ชิ้นเอี้ยวคอไม่สะดวก และระบบควบคุมอัตโนมัติบริเวณต้นคอ จะต้องจัดระบบใหม่ และยังเดินไม่สะดวก การไปประชุมแต่ละครั้งอาจจะไม่สะดวกบ้าง แต่หากต้องการให้เข้าไปทำงาน ก็ยินดี และจะรับผิดชอบจนถึงที่สุด


ค้านพท.รอบพระวิหารมรดกโลก


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่สุดในประเทศไทยเรื่องคณะกรรมการมรดกโลก ประเทศไทยจะต้องเดินหน้าทำงานกรณีเขาพระวิหารอย่างไร นายอดุล กล่าวว่า จะต้องยึดหลักการที่คณะกรรมการมรดกโลกกำหนดอย่างเคร่งครัด ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการมรดกโลกของประเทศไทยทำงานอย่างมีอิสระ คณะกรรมการมีมติอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่พอถึงยุคที่นายนพดล ปัทมะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็เกิดกรณีออกแถลงการร่วมขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก มาถึงสมัย นายปองพล ก่อนเดินทางไปประชุมที่ประเทศนิวซีแลนด์ ก็มาหารือว่าควรมีท่าทีอย่างไรกรณีที่กัมพูชาจะขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ก็แนะนำไป แต่นายปองพลบอกว่า พยายามทำแล้วแต่ประเทศอื่นๆไม่คล้อยตามประเทศไทย สุดท้าย มีข่าวออกมาว่าจะเสนอให้ส่วนที่เหลือนอกจากตัวปราสาทเป็นมรดกโลกอีก ซึ่งตามหลักการแล้วไม่ได้


"ต้องยืนยันในหลักการให้ชัดเจนเรื่องพื้นที่อนุรักษ์เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของคณะกรรมการมรดกโลกสากล เช่น การพัฒนา และอนุรักษ์พื้นที่เพื่อให้ประชาชนเข้าไปชื่นชมความงามของตัวปราสาท ไม่ใช่ทำไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แอบแฝง" นายอดุล กล่าว


แห่ชมผามออีแดงวันแรกคึกคัก


สำหรับบรรยากาศที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียม อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นวันแรกที่เปิดให้ขึ้นชมผามออีแดงได้นั้น ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวเข้าชมจำนวนมาก ขณะที่กำลังทหารพรานและเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารรักษาความปลอดภัยและคอยอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มธรรมยาตราประมาณ 10 คน นำโดยนายสมาน ศรีงาม และพระสงฆ์ 2 รูป เดินทางโดยรถกระบะ 2 คัน มายังบริเวณผามออีแดง เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจแก่ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณเขาพระวิหาร


ชวนบ่าวสาวเที่ยววาเลนไทน์


นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การให้นักท่องเที่ยวเข้าชมผามออีแดงเป็นเพียงการทดลองเปิดเท่านั้น หลังจากนั้นช่วงต้นเดือนเมษายน จะจัดพิธีเปิดเป็นทางการ ส่วนปราสาทพระวิหารยังไม่ได้เปิด


นายวิศวะ ศะศิสมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์จ.ศรีสะเกษ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวหรือหนุ่มสาวและครอบครัวต่างๆ ขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารบริเวณผามออีแดง จะมีประกาศนียบัตรให้กับทุกคน รวมทั้งรับจดทะเบียนของคู่สมรส รวมทั้งมีจุดให้นักเที่ยวถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอีกด้วยในบรรยากาศทะเลป่าภูผาหมอก สวยงามมาก


ยังปิดพระวิหาร-รอถกพท.ซ้อน


ที่จ.นครราชสีมา พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จะเปิดให้เข้าเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเฉพาะพื้นที่เขามออีแดง ส่วนตัวปราสาทเขาพระวิหารยังไม่สามารถเปิดให้ชมได้จนกว่าจะตกลงถอนกำลังและพื้นที่ทับซ้อนที่มีปัญหากับกัมพูชา และขณะนี้ยังไม่ปรับกำลังพลหรือถอนกำลังของทั้งสองฝ่าย


พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวถึงข่าวที่ฝ่ายกัมพูชาก่อสร้างถนนเข้าปราสาทพระวิหารว่า ฝ่ายกัมพูชาสามารถทำได้ในเขตกัมพูชา แต่หากอยู่ในเขตแผนที่ที่ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ กัมพูชาไม่สามารถทำได้ และทราบว่าฝ่ายกัมพูชากำลังจะทำ แต่ฝ่ายไทยเจรจาขอร้องให้ยุติการก่อสร้างจนกว่าคณะกรรมการปักปันเขตแดนจะมีข้อสรุป


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เย็นวันเดียวกันนี้ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชาและคณะนายทหารระดับสูงจำนวน 6 นาย จะร่วมประชุมกับพล.ท.วิบุลย์ศักดิ์ ที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ เกี่ยวกับการเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว


ที่มา: มติชนออนไลน์


อภิสิทธิ์"ยันเช่ารถเอ็นจีวี 4 พันคัน


"อภิสิทธิ์" ยันเช่ารถเอ็นจีวี 4 พันคัน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการของขสมก. ชี้นโยบายรัฐ เน้นใช้รถประกอบในประเทศมากที่สุด "ประจักษ์" เตรียมหารือกลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมวันนี้ "ปิยะพันธ์" ชี้บอร์ด ขสมก.เตรียมพิจารณาร่างทีโออาร์ สัปดาห์หน้า


วานนี้ (10 ก.พ.) กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมบริการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กว่า 100 คน ได้ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยยื่นหนังสือต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนโครงการเช่าและซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวี 4 พันคัน และเรียกร้องให้ลดจำนวนเช่ารถ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถร่วมฯ ซึ่งเห็นว่าอัตราค่าเช่ารถสูงเกินไป และไม่ได้รับต่ออายุสัมปทานเดินรถจาก ขสมก.


นายอภิสิทธิ์ กล่าวหลังจากชี้แจงกลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมฯ ว่า โครงการเช่ารถโดยสารเอ็นจีวี 4 พันคัน อยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียด เพราะมีข้อทักท้วงเรื่องนำเข้ารถจากต่างประเทศ และอัตราค่าเช่าเพราะภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน หากสามารถประกอบรถในประเทศได้จะเป็นผลดี ซึ่งนโยบายรัฐบาลก็ต้องการให้ประกอบรถในประเทศ และยืนยันว่าเป้าหมายโครงการคือปรับปรุง ขสมก.ให้มีรถใหม่ใช้พลังงานทดแทนมาให้บริการ


นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ (11 ก.พ.) ตนจะประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมฯ เพื่อรับฟังปัญหา และสร้างความเข้าใจโครงการ ยืนยันว่าโครงการเช่ารถโดยสาร 4 พันคัน เหมาะสม และจะไม่กระทบต่อรถร่วมฯ ส่วนการเสนอให้ลดจำนวนเหลือ 3,500 คันนั้น ต้องคำนึงด้วยว่าจำนวนรถโดยสารเพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชนหรือไม่


ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ระบุว่า ขสมก.ไม่ต่อสัญญาให้ผู้ประกอบการบางราย เพื่อเตรียมให้รถโดยสารเอ็นจีวีมาให้บริการแทน ว่า เป็นคนละเรื่อง เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องจะได้ต่อสัญญา แต่บางรายยังไม่ได้ต่อสัญญานั้นเป็นเพราะยังค้างชำระค่าสัมปทานจำนวนมาก


ด้าน นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ ขสมก. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ลดจำนวนรถโดยสารเอ็นจีวีเหลือ 4 พันคัน จาก 6 พันคัน เพื่อให้เหมาะสม และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เปลี่ยนมาใช้รถโดยสารเอ็นจีวีเข้าร่วมโครงการได้ ส่วนการต่อสัญญาเดินรถนั้น หากผู้ประกอบการรถร่วมฯปฏิบัติตามขั้นตอน ก็พร้อมต่อสัญญาให้ทันที แต่ที่มีปัญหาเพราะบางรายค้างจ่ายค่าผลตอบแทน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท


ส่วนความคืบหน้าโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4 พันคันนั้น ขสมก. ได้เผยแพร่ร่างทีโออาร์ที่ผ่านการปรับปรุงหลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว 4 ครั้ง หลังจากนี้จะเสนอให้คณะกรรมการ ขสมก.พิจารณาเพื่ออนุมัติรายละเอียดร่างทีโออาร์ในสัปดาห์หน้า ก่อนจะเปิดประกวดราคา


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com


 






เศรษฐกิจ


ครม.จ่อคลอดแผนอุ้มSMEอัดงบใส่บสย.ค้ำสินเชื่อกรณ์โวเงินสะพัดแสนล.


"กรณ์"ชงมาตรการค้ำประกันสินเชื่อเข้า ครม.เศรษฐกิจเคาะ ฟุ้งช่วยให้ปล่อยสินเชื่อใหม่เข้าระบบได้กว่า 1 แสน ล. อุ้มเอสเอ็มอี คาดใช้งบกลางจากงบเพิ่มเติมราว 4 พัน ล. เพิ่มทุน บสย.อ้ำอึ้งเรื่องให้ซอฟต์โลน ครม.ปรับเกณฑ์ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีใหม่ ชี้ชัดต้องเฉพาะรายจ่ายลงทุน พร้อมบังคับก่อหนี้แล้วต้องใช้ปีแรกไม่ต่ำกว่า 20% ป้องกันงบโป่งปีหลังๆ


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจตนจะเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยใช้กลไกการค้ำประกันสินเชื่อของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งรัฐบาลจะใช้วงเงินจากรายการงบกลางกว่า 4,000 ล้านบาท ที่อยู่ในวงเงินงบประมาณกลางปีที่จัดทำเพิ่มเติม มาใช้เพิ่มศักยภาพ (เพิ่มทุน) ให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ จะทำให้สามารถค้ำประกันสินเชื่อได้ถึง 3 หมื่นล้านบาท และช่วยให้สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่เอสเอ็มอีทั้งระบบได้อีกกว่า 1 แสนล้านบาท


"หลักการคร่าวๆ ก็คือ เรายืนยันจะใช้ บสย.เป็นแกนหลักในการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอี โดยที่ผ่านมาได้ปรึกษากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ มาตลอด โดยยืนยันว่าโครงการนี้ดำเนินการได้จริง และคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อีกกว่า 1 แสนล้านบาทถือเป็นการต่ออายุให้ผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากปัญหาสภาพคล่อง" นายกรณ์กล่าว


ส่วนกรณีการค้ำประกันการส่งออกนั้น จะเป็นคนละส่วนกับการค้ำประกันสินเชื่อในส่วนนี้รวมถึงความร่วมมือในเรื่องการสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (ซอฟต์โลน) ที่จะเป็นคนละส่วนเช่นกัน อย่างไรก็ดี รมว.คลัง ปฏิเสธจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับความชัดเจนเรื่องซอฟต์โลน ที่เคยมีแนวทางว่ารัฐบาลและธนาคารพาณิชย์จะร่วมกันใส่เงินจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี


แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่าทางธปท.ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการให้ซอฟต์โลนแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเนื่องจากไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงมาก รวมทั้งมองว่าการให้ซอฟต์โลนของ ธปท.ที่เคยมีมาก่อนนั้น ไม่ใช่หน้าที่หลักของ ธปท. แม้ว่ากฎหมาย ธปท.ไม่ได้ระบุห้ามอย่างชัดเจนก็ตาม


ด้านนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการปรับปรุงแก้ไขมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2541 ที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีการระบุชัดเจนว่า การผูกพันงบประมาณใหม่ในแต่ละปีงบประมาณต้องเฉพาะรายจ่ายลงทุนเท่านั้น จากเดิมที่ไม่กำหนด ทำให้เกิดความสับสนในการชี้แจงงบประมาณ


นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้ชัดเจนเพิ่มขึ้นด้วยว่า รายจ่ายลงทุนที่จะขออนุมัติผูกพันข้ามปีงบประมาณทุกรายการ ต้องได้รับการจัดสรรไว้ในปีแรกเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 20% ของวงเงินรายจ่าย ส่วนที่เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้นของรายจ่ายลงทุนนั้นๆ โดยไม่รวมวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด


"ทุกหน่วยงานที่ขอผูกพันงบลงทุนใหม่ข้ามปี ปีแรกจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 20% เพื่อให้เห็นภาระงบประมาณที่ชัดเจนเพราะที่ผ่านมาพบว่า มีการตั้งงบประมาณผูกพัน 5 ปี แต่ปีแรกมีการใช้วงเงินน้อยมาก แต่ไปใช้มากในช่วงปีหลังๆ ทำให้งบประมาณไปโป่งในช่วงหลัง ส่งผลกระทบกับการจัดทำงบประมาณ ดังนั้นจึงกำหนดเกณฑ์นี้เพื่อให้เห็นภาระที่ชัดเจน" นายพุฒิพงษ์กล่าว


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ จะมีการพิจารณาโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอีการท่องเที่ยว จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อมาดูแลผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจพิจารณาด้วย


ที่มา: http://www.thaipost.net






ต่างประเทศ


ตลาดหุ้นมะกัน-ยุโรปดิ่งเหว น้ำมันดิบต่ำกว่า40เหรียญ


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (11 ก.พ.) ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ดิ่งลงอย่างหนักจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน ทั้งที่รัฐบาลเตรียมเผยรายละเอียดแผนยกเครื่องช่วยเหลือสถาบันการเงิน โดยเฉพาะการอัดฉีดเงินมหาศาลกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้เกิดการไหลของสินเชื่อและเงินทุนในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยกอบกู้วิกฤติสถาบันการเงินได้จริงหรือไม่


รายงานระบุต่อว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 37 เซนต์ ไปอยู่ที่ระดับ 39.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้ล่าสุด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ อยู่ที่ระดับ 8,062.91 จุด ดิ่งลง 207.96 จุด ดัชนีหุ้น แนสแดค อยู่ที่ระดับ 1,564.67 จุด ลดลง 26.89 จุด และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี อยู่ที่ระดับ 850.88 จุด ลดลง 19.01 จุด


รายงานระบุด้วยว่า ในส่วน ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรปดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน โดย ดัชนีหุ้นเอฟที-100 ของประเทศอังกฤษ ปิดที่ 4,213.08 จุด ลดลง 94.53 จุด แด็กซ์ของประเทศเยอรมนี ปิดที่ระดับ 4,505.54 จุด ดิ่งลง 161.28 จุด และดัชนีหุ้น ซีเอซี-40 ของประเทศฝรั่งเศส ลงไป 114.12 จุด ปิดที่ 3,020.75 จุด


ที่มา: www.thairath.co.th






คุณภาพชีวิต


รพ.ศิริราชเตรียมผลิตวัคซีนแก้ภูมิแพ้ไรฝุ่น


ศิริราชเจ๋งผลิตวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นแห่งแรกในอาเซียน คาดปีหน้าผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ชนิดนี้ได้ใช้วัคซีนสัญชาติไทย ราคาถูกกว่านำเข้าถึง 50%


ศ.พญ.ฉวีวรรณ บุนนาค อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้ ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ศึกษาวิจัยในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไรฝุ่นได้สำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการแล้ว เหลือเพียงการสร้างโรงงานในการผลิตวัคซีนและทำการผลิตจำนวน 3 ลอต ตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ใช้มาตรฐานเดียวกันกับองค์การอนามัยโลก ก่อนนำไปวิจัยทดลองกับมนุษย์และผลิตจำหน่ายต่อไป ซึ่งคาดว่าอย่างช้าประมาณต้นปี 2553 ผู้ป่วยไทยจะมีวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นสัญชาติไทยใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย


"แม้ว่าวัคซีนโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นมีมานานแล้ว แต่ไทยยังไม่สามารถผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้เอง อีกทั้งราคามิลลิลิตรละ1,000 บาท แต่หากดำเนินการได้เอง จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ลดเหลือประมาณ 500 บาทเท่านั้น และหากศิริราชผลิตวัคซีนดังกล่าวได้ นับว่าเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ รอจะซื้อจากไทยอยู่แล้ว"ศ.พญ.ฉวีวรรณกล่าว


ศ พญ.ฉวีวรรณกล่าวอีกว่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้เป็นคู่สัญญากับบริษัทเกรทเตอร์ฟาร์มา ในการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนดังกล่าวเพื่อให้ได้มาตรฐานและดำเนินการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป


ทั้งนี้ แผนการต่อไปหลังจากผลิตวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่นได้สำเร็จ จะพัฒนาให้วัคซีนดังกล่าวนำไปสู่การรักษาโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่นให้หายขาด อีกทั้งใช้เป็นน้ำยาทดสอบอาการแพ้ไรฝุ่นสำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่รู้ตัวว่าแพ้ไรฝุ่น รวมถึงการคิดค้นสูตรผสมสมุนไพรสำหรับฉีดเพื่อกำจัดไรฝุ่น การผลิตชุดทดสอบไรฝุ่นว่ามีไรฝุ่นหรือไม่และมีมากเท่าใด ซึ่งอยู่ระหว่างการวิจัยพัฒนาต่อยอด นอกจากนี้ จะศึกษาวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้จากแมลงสาบ ละอองเกสรดอกไม้ วัชพืชที่ล่องลอยในอากาศ ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศก็ไม่มีความจำเพาะเท่ากับที่ศึกษาวิจัยจากตัวกระตุ้นภูมิแพ้ที่เกิดกับคนไทย


ศ.พญ.ฉวีวรรณกล่าวด้วยว่า โรคภูมิแพ้ทำให้เกิดการแพ้อากาศมีผลต่อระบบทางเดินหายใจรุนแรงไปจนถึงโรคหืด ซึ่งโรคแพ้อากาศ จะทำให้มีอาการจมูกอักเสบ พบว่าในไทยเด็กประมาณ 40-50% ของเด็กทั้งหมด และผู้ใหญ่ 20% ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ส่วนโรคหืด เด็กไทยป่วยประมาณ 15% และผู้ใหญ่ 5% และส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ประมาณ 70-80% จะแพ้ไรฝุ่น แต่วัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นยังมีราคาแพงที่สุดในบรรดาวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ


ที่มา: http://www.komchadluek.com


ภาวนาปัดเป่าความปวด ทดลองทางวิทยาศาสตร์ แล้วได้ผล


นักวิจัยมหาวิทยาลัยมอนทรีลของแคนาดาศึกษาพบว่า การสวดภาวนาจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้ลดน้อยลงได้


เขาแจ้งว่า การสวดภาวนาตามแบบอย่างนิกายเซน ช่วยให้รักษาความสมดุลทั้งทางกาย ใจ และอารมณ์ และช่วยคลาย ความเจ็บปวดลงได้ ผู้ที่ฝึกฝนการสวดภาวนาได้แสดงให้เห็นว่า มีความรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดขณะที่สวดภาวนาอยู่น้อยกว่า กันมาก เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่เฉยๆ นักวิจัยบอกต่อไปว่า "การ ศึกษาซึ่งนับเป็นก้าวแรกในการค้นคว้าว่า การสวดภาวนามีอิทธิพลต่อการรับรู้ความเจ็บปวดอย่างไรและด้วยเหตุใด"


นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาการทดสอบความเจ็บปวด กับผู้ที่ผ่านการฝึกการสวดภาวนามาไม่ต่ำกว่า 1,000 ชม. เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฝึก ปรากฏมีผลต่างกันมาก ผู้ที่ฝึกฝนการสวดภาวนาจะทนกับความเจ็บปวดได้เหนือกว่าคนที่ไม่ได้ฝึก แม้แต่ตอนที่ไม่ได้สวดภาวนาอยู่


ที่มา: www.thairath.co.th


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net