Skip to main content
sharethis

สำนักโฆษกรายงานข่าว่า วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการตอบกระทู้สดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ ที่ ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามกรณีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะกลับมาเป็นประธานาธิบดีว่า ได้ตอบโต้ในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ กล่าวหาว่ารัฐบาลนี้เป็นเสือหิวเสือโหย ดังนั้น จึงมุ่งที่จะตอบโต้เพื่อปกป้องส่วนได้ส่วนเสียของรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า และคิดว่าเรื่องควรจะจบแค่นั้น แต่เมื่อมีการตั้งกระทู้ถามในสภาฯ ก็ต้องชี้แจง ซึ่งการชี้แจงในสภาฯ ต้องนำเอกสารหลักฐานที่มากกว่าการพูดข้างนอกไปนำเสนอ ทั้งนี้ จะไม่พูดลงในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เพราะเรื่องได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว โดยมีการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อไปจะต้องมีการดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีอยู่แล้ว และไม่ได้รู้สึกหนักใจ ทุกอย่างพูดไปตามพยานหลักฐาน


ต่อคำถามถึงการยืนยันด้วยความเชื่อโดยสุจริตจะมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักในการต่อสู้คดีหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันในสิ่งที่พูดในสภาฯ ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีก็ว่ากันไป ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ต่อกระบวนการยุติธรรมได้ และไม่หนักใจ เพราะเคยต่อสู้มามากแล้ว ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งด้วยนั้น ก็ไม่มีปัญหา อย่างครั้งก่อนตนอภิปรายในสภาฯ กรณีของนายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องการลดค่าเงินบาท ตอนนั้นก็มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายตนเองหลายพันล้าน ก็สู้คดีกันมา 3 ศาล ในที่สุดศาลก็พิพากษาให้ตนชนะ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในหลักฐานที่มี ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่พูดไว้ในสภาฯ


เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณฯ กลับมาดำเนินคดีได้อย่างไร เพราะ ส.ส.พรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนว่าจะเดินทางไปพบ.พ.ต.ท.ทักษิณฯ ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา หรือที่เกาะฮ่องกง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าเราจะมีขีดความสามารถที่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปจับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ในต่างประเทศได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ไม่ใช่คนหนีคำพิพากษาธรรมดา แต่เป็นมหาเศรษฐี ตำรวจจะซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อไปไล่จับคงไม่ได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณฯ เดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ


ต่อข้อถามว่า ในทางการข่าวจะไม่สามารถติดตามได้เลยหรือ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราคงไม่ทุ่มเทงบประมาณไปไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ ในต่างประเทศ ส่วนการประสานความร่วมมือกับต่างประเทศนั้น ก็เป็นดุลพินิจของรัฐบาลประเทศนั้นๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหานี้จะทำอย่างไร เพราะปล่อยให้มีการเขย่ารัฐบาลอยู่ตลอดเวลา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็แก้ไปเรื่อยๆ โดยชี้แจงกับพี่น้องประชาชน เชื่อว่าในระยะยาวประชาชนจะเข้าใจและเห็นความตั้งใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติ เมื่อมีปัญหาอะไรเป็นอุปสรรคก็จะนำมากราบเรียนกับประชาชนเป็นระยะๆ


ต่อข้อถามว่า ในเมื่อมีข้อมูลว่าต่างประเทศขึ้นบัญชีดำ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ ทำไมฝ่ายความมั่นคงไม่พยายามประสานติดตามตัว รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ละประเทศมีกฎหมายของตัวเองอยู่ การประสานงานคงไม่ง่ายนัก แต่หน่วยงานด้านการข่าวของเราก็ไม่ได้รายงานข้อมูลเรื่องนี้และก็ทราบข่าวจากสื่อ


ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ทางนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมายืนยันข้อมูล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องไปถามนายเทพไทฯ แต่เราก็อย่าไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่ และที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้วิเคราะห์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เพราะมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีกมาก ซึ่งการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ที่พยายามเขย่ารัฐบาลก็ไม่เป็นปัญหาอะไร


ส่วนในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะโฟนอินมายังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีทีวีอีก จะมีการจับตาดูเป็นพิเศษหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การโทรศัพท์ติดต่อกันระหว่างประชาชนในโลกนี้ถือว่าเป็นเสรีภาพ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net