หลังจากมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ "ทักษิณ" ที่ผิดพลาด ของเดอะเนชั่นออกไปเมื่อไม่กี่วันและถูกถ่ายทอดต่อโดยผู้จัดการและมติชน ล่าสุด เดอะเนชั่นตีพิมพ์บทแปลที่หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุน แปลให้ (เป็นภาษาอังกฤษ) อย่างเป็นทางการแล้ว
ที่มา : http://www.siamintelligence.com/asahi-version-of-thaksins-interview/
หลังจากมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ผิดพลาด ของเดอะเนชั่นออกไปเมื่อวาน (และถูกถ่ายทอดต่อโดยผู้จัดการ และมติชน) ซึ่งเดอะเนชั่นอ้างว่า ถูกแปลโดยชาวญี่ปุ่นที่ติดตามเว็บไซต์อยู่ และยอมรับว่าไม่ถูกต้องและมีความผิดพลาด
ล่าสุดเดอะเนชั่นตีพิมพ์บทแปลที่หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุน แปลให้ (เป็นภาษาอังกฤษ) อย่างเป็นทางการ
..
ถาม : อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ยุ่งยาก? เป็นเพราะการขายหุ้นชินคอร์ป? หรือเป็นเพราะคุณไม่ได้ชำระภาษีกับธุรกรรมนั้น?
ตอบ : ผมไม่คิดเช่นนั้น ภาษีถูกยกเว้นให้โดยกฎหมายหากได้กำไรส่วนต่างด้านราคา มีใครบ้างที่จ่ายภาษีจากกำไรส่วนต่างราคาในประเทศไทย? แต่ว่านั่น (การขายหุ้น) ก็เป็นการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการขึ้น ผมถูกกล่าวหาว่าผมไม่จงรักภักดี แม้ว่าผมจะจงรักภักดีก็ตาม พวกเขาเข้าใจผิดว่าผมไม่จงรักภักดีต่อพระราชวงศ์
ถาม : สำหรับรัฐบาลใหม่ ทำอย่างไรจึงจะปรองดองกันได้?
ตอบ : พรรคประชาธิปัตย์หาวิธีจัดการให้เปลี่ยนจากเสียงส่วนน้อย เป็นเสียงส่วนใหญ่ โดยความช่วยเหลือจากเงื้อมมือของผู้ทรงอิทธิพล รวมถึงระบอบตุลาการ, รวมไปถึงกองทัพ และองคมนตรี ผมอยากเตือนให้พวกเขายุติพฤติกรรมเก่าๆ ปล่อยให้กองทัพทำงานของพวกเขาไป อย่ามายุ่งกับการเมืองเลย พวกเขามีสิ่งที่ต้องทำมากมายแต่ก็ไม่ยอมทำ พวกเขาพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง รวมทั้งองคมนตรีก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองด้วย แม้แต่การอยู่เบื้องหลัง (They try to get involve in politic and also privy councilors do not get involve in politic as well even in behind.)
ถาม : คุณจะยังสู้ต่ออีกไหม?
ตอบ : ผมจะอายุครบ 60 ในเดือนกันยายนปีนี้ ผมอยากใช้ชีวิตอย่างสงบ ผมอยากเห็นเมืองไทยกลับไปมีความสามัคคีและปรองดองกัน ความขัดแย้งสามารถยุติลงได้ด้วยการเจรจา แต่ไม่ใช่กระทำจากเพียงฝ่ายเดียว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องอยู่บนโต๊ะ (เจรจา) ไม่เช่นนั้น ผมไม่มีทางอื่นให้เลือกนอกจากจะต้องต่อสู้กลับไปเพื่อรักษาชื่อเสียงและเกียรติยศของผม และแม้ว่าผมจะประกาศถอนตัว แต่คนก็ยังต่อสู้ต่อไปเพราะพวกเขาคิดว่ามันไม่แฟร์ ไม่ยุติธรรม แม้ว่าผมจะไม่มีชีวิตอีกแล้วพวกเขาก็ยังต่อสู้ต่อไป
ถาม : บุคคลหลักๆที่เป็นกลุ่มต้านทักษิณ?
ตอบ : คุณสนธิ กลุ่มผู้จัดการเป็นแค่หุ่นเชิดคนหนึ่ง ผมไม่เคยคิดว่าเขาเป็นศัตรูตัวจริงเลย เขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของคนที่ต้องการโค่นผม คนที่คิดว่าผมเป็นอุปสรรค เขา (สนธิ) แค่อยากได้สถานีทีวีของเขา แต่กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น ผมพยายามหาทางตกลงกับเขาแต่กฎหมายบอกว่าไม่ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเริ่มโจมตีผม
(การแต่งตั้งพล.อ. สนธิเป็น ผบ.ทบ.) บางทีอาจจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของผม ส่วนพล.อ. อนุพงษ์? เขาก็เป็นแค่หุ่นเชิดอีกคนหนึ่ง
ถาม : คุณรู้สึกเสียใจไหมที่เข้ามาเล่นการเมือง?
ตอบ : ครับ ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ตอนนี้ผมกำลังชดใช้กรรมในชาติที่แล้ว ผมสูญเงินทั้งหมดที่ผมมี มันไม่แฟร์เลย ถ้าผมมีโดราเอมอนอยู่กับผม ผมคงเป็นคนที่ถูกเรียกว่าโนบิตะได้ ผมไม่อยากเป็นนักการเมือง
ที่มา - เนชั่น
ความเห็น SIU :
เราตรวจสอบพบว่า บทสัมภาษณ์นี้ถูกเผยแพร่เฉพาะหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบถามมิตรสหายชาวญี่ปุ่นของเรา ให้ช่วยถอดความจากเว็บไซต์แห่งนี้ ช่วงไฮไลท์ที่สุดยังคงสับสน เพราะมีการถอดความ (ที่แตกต่างไปจากฉบับแปลของอาซาฮี) ได้ว่า
ถ้าผมเป็นโนบิตะ ผมจะขอให้โดราเอมอนช่วยเล่นการเมืองแทน
(เรื่องโนบิตะ ไม่ว่าจะมีการแปลแบบไหนก็ตีความได้ว่า ทักษิณกำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก)
หวังว่าหนังสือพิมพ์ ฉบับที่ลงตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เป็นการเอิกเกริกไปแล้วคงจะช่วยกันแก้ข่าวตามที่อาซาฮีชิมบุนส่งข้อมูลมา จะยิ่งดีมากๆ ถ้าทั้งมติชน และผู้จัดการ ช่วยกันหา "อาซาฮีชิมบุน" ฉบับวันที่ 17 มกราคม 2552 มาถอดความเปรียบเทียบทั้งบทอีกครั้ง
การตีความตอนนี้ของ SIU มองอย่างที่มันเป็นคือ ทักษิณมีปัญหาเรื่องเงินทุน และส่งสัญญาณยุติสงคราม เรียกร้องการเจรจา เต็มรูปแบบ แน่นอนไม่ใช่จากเพียงแค่ (1) สนธิ ลิ้มทองกุล (ASTV-ผู้จัดการ และพันธมิตรฯ) , (2) พล.อ. สนธิ บุญรัตนกลิน (คมช.) แม้กระทั่ง (3) พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา (คมช. และ ผบ.ทบ.) ซึ่งเขามองว่าคนทั้งสามเป็นเพียงหุ่นเชิด ของใคร? และหากไม่ได้รับการเจรจา เราคงเห็นการต่อสู้เต็มตัวจากเขาเป็นครั้งสุดท้าย
โปรดรอคอยการพิจารณาตอบรับจากอีกฝ่าย ด้วยใจระทึกพลัน!
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)