Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

เมธา มาสขาว


เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.)


14 มกราคม 2552


 


 


ตามที่มีการฟ้องร้องอาจารย์ใจ อึ้งภากรณ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีการเขียนหนังสือวิชาการภาษาอังกฤษชื่อว่า A Coup for the Rich นั้น ครส. มีความเห็น ดังนี้


 


ผมเห็นว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมักถูกหยิบใช้อย่างเลือกปฏิบัติ และเป็นเครื่องมือทางการเมืองของผู้มีอำนาจมาโดยตลอด ในการโจมตีผู้อื่นโดยเฉพาะคู่แข่งทางการเมือง เพื่อทำลายหรือกลั่นแกล้ง หรือไม่ก็เป็นข้ออ้างเพียงเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้  ซึ่งเรื่องดังกล่าวแทนที่จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์มีเสถียรภาพที่ดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางอ้อมมากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐหรือใครที่ฟ้องร้องไม่เคยคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้


 


นอกจากนี้ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยังเป็นกฎหมายที่ล้าหลัง ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพทางความคิด การแสดงความเห็น กระทั่งในวงวิชาการก็กระทำไม่ได้ ถือเป็นเรื่องที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง บุคคลที่ติดคุกเพราะคดีเหล่านี้หลายคนที่ถูกละเมิดสิทธิดังกล่าวที่ผ่านมาน่าจะถือเป็นนักโทษทางความคิดหรือนักโทษทางการเมือง และบางคนก็อาจถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในทางสากล ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และไม่เป็นผลดีต่อสถาบันกษัตริย์ไทย การคุกคามสิทธิเหล่านี้ยังขัดกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ และการที่มีคดีเหล่านี้มากมาย จะทำให้ประเทศไทยถูกมองภาพลบในด้านสิทธิเสรีภาพ ไม่ต่างจากประเทศกึ่งเผด็จการแต่อย่างใด ผมคิดว่า เราน่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ ที่สังคมจะสนับสนุนสถานะของสถาบันกษัตริย์อย่างศรัทธาแท้จริง ไม่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพและไม่ให้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของคนกลุ่มใด การบีบบังคับเพื่อการใดของรัฐมักจะทำให้ประชาชนเกิดแรงต่อต้านมากขึ้น


 


ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาล และคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดังกล่าว เพราะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และไม่เป็นผลดีต่อสังคมประชาธิปไตย และเป็นการนำสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองโดยไม่ควร และมักเป็นข้ออ้างของกลุ่มการเมืองต่างๆ ในการเข้าสู่อำนาจ หรือไม่ก็อาจจะปฏิรูปกฎหมายนี้ โดยให้มีการพิจารณาฟ้องหมิ่นประมาทจากสำนักงานพระราชวังเท่านั้น เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งทางการเมืองและการคุกคามสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของพลเมืองอย่างกว้างขวางผ่านรูปของกฎหมายแห่งรัฐ


 


ทั้งนี้ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ สมควรเร่งให้สัตยาบันกติการะหว่างประเทศ ICC หรือ ศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย เคยไปรับรองไว้ เพราะจะทำให้นานาประเทศและประชาคมโลกให้การยอมรับการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่รองรับให้เกิดบรรทัดฐานสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และป้องปรามการเกิดรัฐผู้เผด็จการในอนาคต โดยเฉพาะการรัฐหาร เผด็จการอำนาจนิยม หรือเผด็จการรัฐสภาของกลุ่มทุนใดๆ ที่อาจใช้อำนาจหรือนโยบายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net