มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์จี้รัฐตรวจสอบคลิปทหารซ้อมเยาวชนใต้

เมื่อวันที่ 9 ..52 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการตรวจสอบและดำเนินการ กรณีมีคลิปวีดิโอบุคคลในเครื่องแบบทหารซ้อมทำร้ายร่างกายเยาวชนในภาคใต้ปรากฏในเว็บ YouTube

รายละเอียดมี ดังนี้

ขอให้มีการตรวจสอบและดำเนินการ

กรณีคลิปวิดีโอบุคคลในเครื่องแบบทหารซ้อมทำร้ายร่างกายเยาวชนในภาคใต้

จากการที่มีคลิปวิดีโอคลิปเผยแพร่อย่างกว้างขวางทางสื่ออินเตอร์เนต (YouTube) เป็นภาพบุคคลในเครื่องแบบทหารจำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือปิดล้อมพื้นที่มีลักษณะคล้ายชุมชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีบุคคลในกลุ่มทหารดังกล่าวจำนวน 3 คน ใช้กำลังซ้อมทุบตีทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าซ้ายขวาและใช้เท้าทีบและเตะหลายครั้งที่ใบหน้าและร่างกายของชายคนหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเยาวชนอายุประมาณ 17-18 ปี แต่งกายแบบชาวบ้านสามจังหวัดชาวแดนภาคใต้ โดยบุคคลในเครื่องแบบทหารกลุ่มดังกล่าวได้ผลัดเปลี่ยนกันทำร้ายร่ายกาย รวมทั้งใช้ภาษาไทยกลางด่าว่าเยาวชนคนนั้นด้วยถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง ในการเผยแพร่คลิปนี้ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้เผยแพร่ ไม่ระบุวันเวลาสถานที่ของเหตุการณ์ รวมทั้งรายละเอียดของบุคคลที่อยู่ในภาพคลิปวีดีโอ

ไม่ว่าผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอ จะมีเจตนาเช่นใดก็ตาม มูลนิธิผสานวัฒนธรรมมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการสร้างความสมานฉันท์ และความไว้วางใจที่สังคมมีต่อเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐในสามจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกองทัพ และเป็นการบั่นทอนหลักนิติธรรม ดังนั้นรัฐบาลของ พณฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องดำเนินการให้มีการทำการสอบสวนโดยอิสระที่น่าเชื่อถือขึ้นเพื่อตรวจสอบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เมื่อใด และมีเจ้าหน้าที่คนใดเกี่ยวข้อง หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง รัฐบาลและกองทัพจะต้องชี้แจงต่อสาธาณะชนและนานาชาติ แต่หากพบว่าเป็นความจริง รัฐบาลและกองทัพจะต้องดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่อย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและทางอาญา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่เหยื่อและผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงดังกล่าวอย่างเหมาะสม

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอประณามการซ้อมทรมานใดๆ ที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มบุคคลใดๆ ในทุกรูปแบบ ในระยะที่ผ่านมาองค์กรและหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก ถึงกรณีการซ้อมทรมาน อุ้มหาย อุ้มฆ่า รวมทั้งการทำร้ายร่างกายผู้ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับความไม่สงบในสามจังหวัดภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ขณะทำการปิดล้อม ตรวจค้น และการเข้าจับกุม แต่ไม่มีการสอบสวนและดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอย่างจริงจังจากทางราชการ ส่วนประชาชนที่เป็นผู้เสียหายก็ไม่สามารถจะดำเนินคดีได้ด้วยตนเองเนื่องจากประชาชนไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรม การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานไม่เป็นอิสระผู้เสียหายและพยานเกิดความหวาดกลัวว่าตนเอง ครอบครัวและชุมชนมักจะตกอยู่ในอันตราย เป็นต้น

ทั้งนี้ประเทศไทยได้เข้าเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment- CAT) ซึ่งมีผลให้ประเทศไทยมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาฉบับดังกล่าวอย่างเคร่งครัดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.. 2550

9 มกราคม 2552

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท