Skip to main content
sharethis

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 ม.ค. เหตุเพลิงไหม้ที่ "ซานติก้าผับ" เอกมัยซอย 9 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ซึ่งเป็นอาคารเดี่ยว 3 ชั้น โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบภายในอาคาร พบมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในลักษณะนอนทับกันอยู่



 


ทั้งนี้ สถานบันเทิงดังกล่าวได้จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และจัดงานอำลาผับ ในชื่อ กู๊ดบาย ซานติก้า ปาร์ตี้ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งนักเที่ยวจะได้รับซีดีบันทึกภาพสรุปคอนเสิร์ตครั้งที่ผ่านๆ มาเป็นของที่ระลึก โดยก่อนเกิดเหตุ มีภาพของนักเที่ยวในซานติก้าผับถือไฟเย็นเพื่อร่วมนับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่กันอย่างสนุกสนานด้วย  ขณะที่ นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ และนายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือ ดีเจเพชรจ้า  ซึ่งทำหน้าที่พิธีกร เพิ่งลงจากเวทีไป และโจอี้ บอย นักร้องชื่อดังจะมาแสดงในคิวถัดไป แต่ยังมาไม่ถึงร้านก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นก่อน



 


ล่าสุด เมื่อเวลา 05.30 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาที่ซานติก้า ผับ พร้อมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยหลังจากเดินดูจุดต่างๆ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 59 คน และบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆกว่า 200 คน โดยได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือและรับแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ โดยจะทำการตรวจสอบผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงผู้ที่อยู่บนเวทีทั้งนักดนตรี นักร้อง มือกลอง ซึ่งมีคนให้การว่า ผู้ที่อยู่บนเวทีเป็นผู้จุดพลุไฟทำให้เกิดไฟไหม้ แต่อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุใดแน่ และเกิดจากความประมาทหรือไม่ ซึ่งผู้เสียชีวิตขณะนี้ศพอยู่ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจและนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์



 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่แซนติก้า ผับ โดยตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ก่อนที่จะเดินไปขอบคุณพนักงานดับเพลิงที่มาร่วมระงับเหตุ ก่อนให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า "ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 59 คน และรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 14 โรงพยาบาล และให้ทาง กทม.เข้าช่วยเหลือดูแลแล้ว" จากนั้นเดินทางกลับพร้อมคณะ



 


ทางด้าน พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ที่สถานบันเทิงมักจะใช้วัสดุเก็บเสียง ซึ่งส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้จะติดไฟง่าย ทางออก ทางหนีไฟต่างๆ ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ตามหาญาติให้นำตำหนิ รูปพรรณ ข้อมูลของผู้สูญหายหรือผู้ที่มาเที่ยวเข้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เพราะบางคนไม่มีหลักฐานติดตัวจึงไม่ทราบว่าเป็นใครให้นำหลักฐานมาเพื่อแจ้งความและทำการตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนสาเหตุต้องให้ทาง พฐ.ตรวจสอบอย่างละเอียด คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงสรุปผลได้



 


 


ตำรวจดูแล 3 เรื่อง คดี- ตรวจเอกลักษณ์บุคคล- ใบอนุญาต


พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจเกี่ยวข้อง 3 เรื่อง คือ เรื่องทางคดี ตรวจเอกลักษณ์บุคคล และใบอนุญาต หน้าที่ทางคดีตำรวจต้องตรวจหาสาเหตุเพลิงไหม้ เกิดจากความประมาท วางเพลิง หรืออุบัติเหตุ การตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลที่เสียชีวิตจากเพลิงไหม้จำนวนเท่าไร ซึ่งต้องรอญาติที่เข้ามาแจ้งความคนหายจากเหตุการณ์หรือไม่


 



ส่วนใบอนุญาตเปิดสถานบริการ ผับดังกล่าวเปิดกิจการปี 2546 ซึ่ง บช.น.ไม่ได้อนุญาตให้เปิดกิจการ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่โซนนิ่งสถานบริการ แต่เจ้าของได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองปี 2547 และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวสามารถดำเนินกิจการได้ ซึ่งในเรื่องใบอนุญาตถือว่าถูกต้อง เพราะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ส่วนผลการตรวจหาสาเหตุ และตรวจสอบบุคคลที่เสียชีวิตได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว.ตร.จัดตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลร่วมกับ สน.ทองหล่อ  ขอให้ญาติผู้ที่สูญหายนำเอกสารหลักฐานมาแจ้งความได้ที่ สน.ทองหล่อ เพื่อตรวจสอบบุคคลที่สงสัยว่าอาจจะเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ สำหรับการก่อสร้างอาคารสถานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กทม.



 


ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีการวางเพลิงได้หรือไม่เนื่องจากผับดังกล่าวถูกยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินและต้องปิดกิจการในวันที่ 31 ธ.ค. พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้ได้หมดสัญญาจากเจ้าของที่ดิน เท่าที่ตรวจสอบกิจการไม่ดี มีการขาดทุน เจ้าของไม่ได้เช่าต่อที่ดิน เพราะต้องการปิดกิจการเนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน มองแล้วไม่น่าเกี่ยวข้องกับการลอบวางเพลิง เพราะจากการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าเป็นเรื่องการจัดเคาท์ดาวน์ มีการจุดพลุ แสง สี ทำเอฟเฟคด้านหน้าเวทีที่เตรียมไว้งานเคาท์ดาวน์ เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน จนทำให้ไฟติดฝ้าเพดานที่หุ้มด้วยฟองน้ำเป็นตัวเร่งให้เกิดการเผาไหม้เร็วขึ้น คนไม่มีทางหนีออกมาได้ ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งในประเด็นเพลิงไหม้ได้กำชับผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบโดยละเอียด แต่ในชั้นนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัดได้



 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงบ่าย ที่ สน.ทองหล่อ มีญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและหายสาบสูญหลังจากไปเที่ยว ซานติก้า ผับเมื่อคืนที่ผ่านมา เดินทางเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาแปะที่บอร์ด พร้อมรูปภาพผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บเล็กน้อยและหนีออกมาจากจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผับ เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน



 


ตำรวจทยอยสอบปากคำ


ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทยอยสอบปากคำพยานไปแล้ว ซึ่งมีประมาณ 100 ปาก ส่วนใหญ่ยังรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ 17 แห่ง เท่าที่สอบเบื้องต้นเป็นพยานที่เป็นพนักงานของร้าน โดยเท่าที่สอบทราบว่าเห็นไฟลุกจากยอดโดมและตกลงมา โดยยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด หากตรวจสอบพบผิดจะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยเรื่องนี้ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผิดที่เจ้าของเป็นคนทำ หรือผิดที่นักเที่ยวเป็นคนทำ เรื่องนี้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูอีกครั้ง คาดว่าประมาณ 2-3 สัปดาห์จะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้


 



ส่วน พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 กล่าวว่า คดีอยู่ระหว่างทำการสอบสวน โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เข้ามาดูแลในส่วนของคดี เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบทราบว่าสาเหตุเกิดจากประกายไฟพุ่งไปติดเพดาน ส่วนมาจากสาเหตุใดก็ต้องให้ทาง พฐ.ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหากับผู้ใด และยังไม่สามารถติดต่อนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว เจ้าของได้


 


    


รมว.ยุติธรรม  สั่งตั้ง กก.ตรวจสอบ


เมื่อเวลา 12.30 น.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคย์ รมว.ยุติธรรม เดินทางไปที่ซานติก้าผับ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้น และกล่าวว่า จะเข้าไปดูแลในเรื่องของกฎหมายต่างๆ ทั้งเรื่องใบอนุญาตให้เปิดสถานประกอบการและอื่นๆ ซึ่งหากพบว่าไม่ได้มาตรฐานเจ้าหน้าที่ที่ออกใบอนุญาตต้องรับผิดชอบด้วย และหากออกใบอนุญาตแล้วเคยกลับมาตรวจสอบหรือไม่ว่ามีการดัดแปลงหรือไม่


 



นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า หากพบว่ามีการละเลย จะมีความผิดทั้งทางอาญาและละเมิดทั้ง 2 เรื่อง ซึ่งถือว่าผิดทั้งเจ้าของและเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากมีการละเมิดผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายได้ ส่วนชาวต่างชาติจะติดต่อกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป


 


นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เนื่องมาจากมีทางเข้า-ออก เพียงทางเดียว จึงต้องการเดินทางมาให้เห็นกับตา เพื่อติดตามการสอบสวนในส่วนของการทำคดีที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด


 



นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 5 มกราคมนี้ จะมอบหมายให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อความสบายใจของญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนข้อมูลที่ได้ในวันนี้ จะนำไปตรวจสอบในเรื่องของการก่อสร้าง หรือการขออนุญาตใช้อาคารด้วยว่าได้ทำตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากรู้สึกแปลกใจว่า สถานบันเทิงขนาดใหญ่กลับมาทางออกเพียงทางเดียว ขณะที่หน้าต่างก็มีเหล็กดัดด้วย


 


 


สธ.พร้อมดูแลค่ารักษาพยาบาลเหยื่อ"ซานติก้าผับ"


นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ซานติก้าผับ เขตวัฒนา กทม. ในเวลาประมาณ 00.40 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2552 ว่า สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์นเรนทร) รายงานว่า ในเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งชาวไทยและต่างชาติ 243 ราย เสียชีวิต 59 ราย อาการสาหัสนอนในไอซียู 13 ราย ได้กำชับให้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ให้การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บทุกคนอย่างเต็มที่ และดีที่สุด ไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย และพร้อมประสานงานรับผู้บาดเจ็บมารักษาต่อในโรงพยาบาลในสังกัด ซึ่งมีหน่วยดูแลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้เป็นการเฉพาะคือ ที่โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โดยกระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษ และมอบหมายให้นายแพทย์ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ดูแลติดตามอาการผู้บาดเจ็บ และประสานงานอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างใกล้ชิด



 


ปลัดมท.เล็งแก้ กม.สถานบริการจำกัดจำนวนนักเที่ยว


นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุที่ซานติก้าผับ เปิดเผยว่า จะมีการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสถานบริการ เพื่อให้มีการจำกัดนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหนาแน่น และเป็นปัญหาหากเกิดเหตุฉุกเฉิน



 


ชี้สถานบันเทิงส่วนใหญ่ใช้วัสดุติดไฟง่ายแต่งร้าน


แหล่งข่าวจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่า จากการตรวจสภาพโครงสร้างซานติก้าผับ เบื้องต้นพบว่ามีปัญหาในเรื่องกายภาพ เนื่องจากทางเข้าด้านหน้ามีผนังปูน และหน้าต่างลูกกรงอยู่ทางขวามือ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเดินอ้อมเข้าออก นอกจากนี้วัสดุกันเสียงที่ใช้ก็เป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย มีลักษณะเป็นโฟม ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว สถานบันเทิงที่ผุดขึ้นใหม่ในช่วงนี้ล้วนใช้วัสดุแบบเดียวกันนี้ทั้งสิ้น เนื่องจากมีต้นทุนน้อย ส่วนสถานบันเทิงที่เกิดขึ้นมานานแล้วจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะใช้ผนังยิปซั่ม หรือใยสังเคราะห์ เป็นต้น ทั้งนี้สถานบันเทิงต่างๆ ควรเลิกใช้วัสดุที่ติดไฟง่าย ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมากกว่าคิดถึงกำไรเป็นสำคัญ


 



แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับสถานบันเทิงในพื้นที่ กทม. ที่มีคนเข้าไปมากกว่า 200 คน และมีวงดนตรีแสดง ทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด คาดว่าน่าจะมีประมาณ 4,000-5,000 แห่ง ซึ่งตำรวจเป็นผู้ออกใบอนุญาตสถานบริการ แต่ที่ผ่านมาข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบพบว่ามีสถานบันเทิงกว่าครึ่งที่เป็นสถานบันเทิงเถื่อนไม่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เมื่อ กทม.เข้าไปตรวจหากพบว่าไม่ปลอดภัยก็ไม่สามารถสั่งปิดได้ อีกทั้งยังสามารถเปิดบริการได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้นควรมีการทบทวนให้ท้องถิ่นเป็นผู้ออกใบอนุญาตแทน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสถานบริการที่ไม่มีความปลอดภัยส่วนใหญ่อยู่ในย่านถนนข้าวสาร ซอยพัฒนพงษ์ ถนนสีลม ดังนั้นสิ่งสำคัญอยากย้ำเตือนไปยังนักเที่ยว และอยากปลุกสังคมให้ตื่นตัวว่าอย่าเที่ยวในสถานบันเทิงที่ไม่ปลอดภัย



 


 


เผยก่อนเกิดเพลิงไหม้ มีเสียงระเบิดดัง1ครั้ง


นายชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของซานติก้าผับ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีแขกอยู่ในร้านประมาณ 1,000 คน ตนกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ในห้องทางด้านขวาของผับ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปที่บริเวณชั้น 2 ระหว่างที่ยืนอยู่ด้านบนนั้น ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ตามด้วยประกายไฟลุกติดที่แผ่นฟรอยบนหลังคาเหนือเวที เพียงประมาณ 10 วินาที แสงเพลิงก็ลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงกรีดร้องของแขก และเสียงโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด ช่วงนั้นไฟฟ้าก็ดับสนิท ไฟฉุกเฉิน และสปริงเกอร์จำนวน 8 ตัว ที่ติดอยู่ในร้านก็ไม่ทำงาน ทั้งๆ ที่เวลาถึงกำหนดเช็คตามรอบปี อุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานอยู่เสมอ


 



นายชัย กล่าวอีกว่า ช่วงนั้นควันไฟเริ่มกระจายไปทั่วร้านแล้ว แขกที่มาเที่ยวต่างก็เหยียบ และดึงรั้งกันเพื่อหาทางออกหนีความตาย แม้ตนจะพยายามหยิบไฟฉายขึ้นมาส่อง แต่ก็ไม่เห็นอะไรมีแต่ควันไฟเต็มไปหมด จนกระทั่งมีน้องผู้หญิงที่เป็นแคชเชียร์อยู่บนชั้น 2 ถูกผลักจนกลิ้งตกลงมาทับร่างตน ซึ่งกำลังตะเกียกตะกายลงมาที่บริเวณทางขึ้นบันไดน้องคนนั้นพยายามจับมือตนไว้ และขอร้องให้ตนช่วย แต่ตนไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร เพราะสถานการณ์มันวุ่นวายไปหมดสักพักเสียงของแคชเชียร์สาวก็เงียบหายไป จนกระทั่งมีคนตัดสินใจทุบกระจกหน้าร้าน ตนจึงคลานต่ำตามแสงไฟหนีตายออกมาได้จากนั้นก็หมดสติไป มาฟื้นตื่นคืนสติอีกครั้งก็อยู่ที่ รพ.คามิลเลี่ยน แล้ว


 



 "ผับแห่งนี้เปิดให้บริการมาได้ 6 ปีแล้ว ส่วนในวันนี้ก็จะเป็นวันปิดกิจการ เพราะมีปัญหาเจ้าของที่ไม่ยอมให้ต่อสัญญา ทางร้านจึงจัดแคมเปญพิเศษให้มีคอนเสริต์โจอี้บอย และเชิญดีเจดังๆ มาเปิดแผ่น เพื่อเป็นการฉลองเทศกาลปีใหม่ และสั่งลาลูกค้าในวันสุดท้าย โดยช่วงเที่ยงคืนก่อนเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค.52 ทางร้านก็มีการจุดพลุฉลองด้วยแต่ก็ไม่มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้น จนกระทั่ง 30 นาทีต่อมา ตนคาดว่าน่าจะมีลูกค้าบางรายที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าเวทีเกิดอุตรินำพลุมาจุดในร้านจนเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว" นายชัย กล่าว



 


ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน บรรยากาศที่ รพ.จุฬาฯ ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเช่นกันมีศพผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ถูกส่งมาผ่าพิสูจน์จำนวน 30 ราย ในที่นี่มีเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี รวมอยู่ด้วย โดยนายสุชาติ และ นางศิริขวัญ สุวรรณวิเศษกุล ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของ นายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่าพวกเขาเดินทางมาตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตที่บอร์ดด้านหน้า ปรากฏว่า พบใบหน้าลูกชายคนเล็กที่หมายเลข AP 07 ซึ่งเมื่อคืนนี้ได้ขออนุญาตไปเทศกาลปีใหม่กับพี่สาว 2 คน และเพื่อนๆ ที่ร้านซานติก้าผับ แต่โชคดีที่พี่สาวทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย


 



นายสุชาติ กล่าวอีกว่า จากการสอบถามเพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันทราบว่า ที่ร้านมีการแจกพลุให้ลูกค้า และมีการยิงเอฟเฟคเป็นพลุที่หน้าเวที หลังจากนั้นก็เกิดไฟลุกขึ้นจนเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว ตนไม่ทราบว่าที่ร้านอนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวได้อย่างไร รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



 


ด้าน นายธนาวุฒิ สันทอง อายุ 36 ปี อาชีพค้าขาย ซึ่งเป็น 1 ในลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ได้เดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนรวม 6 คน โดยได้ที่นั่งบริเวณประตูทางเข้าออก ห่างไม่ถึง 10 เมตร ซึ่งระหว่างเกิดเหตุมีลูกค้าอยู่ในร้านไม่ต่ำกว่า 1,000 คน หลังจากที่มีการแจกพลุให้ลูกค้าแล้ว ก็ได้มีการแสดงเอฟเฟคบนเวที ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็มีไฟลุกขึ้นมาตามด้วยเหตุการณ์ชุลมุนซึ่งบริเวณทางออกเป็นจุดบรรจบของบันไดทางขึ้นชั้น 2 และ บันไดทางลงชั้นใต้ดิน คนที่พยายามวิ่งหนีตายจากชั้นบน และชั้นใต้ดิน ต่างก็มาออกันอยู่ที่ประตูทางออก ทำให้เกิดการเหยียบกันได้รับบาดเจ็บ


 



ทั้งนี้ เขากับเพื่อนๆ พยายามช่วยกันทุบกระจกขยายทางออกช่วยเหลือนักเที่ยว ที่ติดอยู่ในร้าน ซึ่งระหว่างนั้นเห็นหลายคนล้มถูกเหยียบ บางรายถูกไฟคลอก แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่า การได้มาเที่ยวในซานติก้าผับ เป็นครั้งแรกจะต้องมาเจอกับเรื่องราวที่น่าสลดหดหู่ถึงขนาดนี้


    


 


ตั้งกระทู้ในพันทิป เล่านาทีรอดชีวิต


ด้านห้องเฉลิมไทย เว็บไซต์พันทิป มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์มาตั้งกระทู้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงโพสต์รูปภาพความเสียหาย ซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 1 ม.ค. อาทิ นาทีชีวิตที่เรารอดตายราวปาฎิหารย์ ไฟไหม้ที่ซานติก้าผับ, ภาพความเสียหาย SANTIKA ผับ ถ.เอกมัย....เช้าวันที่ 1 มค. 52,


ขออีกสักกระทู้ครับ อยากให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ จากเหตุการณ์ผับซานติก้า เชิญอ่านประสบการณ์เฉียดตายจากผู้รอดชีวิต 


 


 


แพทย์ยืนยันเหยื่อ 'ซานติก้า' บาดเจ็บ เพราะสูดดมควันไฟ


นพ. รัฐพี ภาคอรรค ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านผู้ป่วยวิกฤติคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ยืนยันว่า ผู้ป่วยทั้ง 11 ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากการสูดควันไฟเข้าสู่ระบบหายใจจนหมดสติและบาดแผลที่ ถูกเพลิงไหม้เป็นสาเหตุหลัก มิได้เกิดจากการเหยียบกันจนเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่าการที่กลุ่มคนหมู่มากเข้าไปอยู่ในที่คับแคบและต้องผ่านเข้าออก ประตูเดียวกันนั้น ก็อาจจะเกิดทำให้ได้รับบาดเจ็บได้เช่นกันแต่ไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก


 


 


รายชื่อผู้บาดเจ็บ- เสียชีวิต


ศูนย์ช่วยผู้ประสบภัย สน.ทองหล่อ แถลงรายชื่อผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ได้แก่ 1.นายสุพล เมฆไกร 2.นายบุญญรัตน์ แสนเมืองชิน 3.นายชาญวิทย์ วุฒิเลิศอนัน 4.น.ส.รุ่งนภา ชัยประเสริฐ 5.น.ส.ลีลาวดี วันเถิน 6.นายเฉลิมชนม์ บุญพรม 7.น.ส.สุมาลี เมฆทรัพย์ 8.น.ส.แพรว อัยรา 9.น.ส.กานธิดา วิโนทัย 10.นายมีศักดิ์ แก้วละเอียด 11.กริช ณราย์ 12.นายกาญจน์ ไกรศรี 13.น.ส.พรทิพา บัวมาก 14.นายยศธร กุภาพันธ์ 15.นายทราพล หวังทวีวงศ์ 16.นายสมิท ยินดีธรรมากิจ


 



17.นายต่อศักดิ์ อยู่โต 18.นายสุรศักดิ์ วรรณวิเศษกุล 19.นายอาทิตย์เทพ ปฐมานุรักษ์ 20.นายศุภกฤษณ์ พัฒนสิน 21.น.ส.ปัญญา ไชยสิทธิ์ 22.น.ส.วัลยา ซำกง 23.นายจักรชัย น่วมเจริญ 24.น.ส.อภิชญา สิริกมลรุ่งโรจน์ 25.นายกษิดิส เหมือนเดช 26.น.ส.จีรภัทร กลีบเมฆ 27.Mr.Teo Sze Siong สัญชาติสิงคโปร์ 28.นายทิวากร ปิณฑะบุตร


 



นอกจากนี้ มีศพหญิงไม่ทราบชื่อ  22 ศพ ชายไม่ทราบชื่อ 8 คน และไม่ทราบเพศ 1 คน รวมมีผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ 59 คน ส่วนยอดผู้บาดเจ็บจำนวน 126 คน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลพระรามเก้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลสมิติเวช 1 และ 2 โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 โรงพยาบาลคามิลเลียน โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลวิภาราม โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเพชรเวช โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา และโรงพยาบาลปิยะเวท



 


ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ มี 12 คน โดยมี 5 คนที่อาการหนัก ร่างกายถูกความร้อนมากกว่า 40% ของร่างกาย และในจำนวนนี้อาการหนักที่สุดต้องเข้ารับการรักษาที่ห้องไอซียูศัลยกรรม 2 คน คือ นายไคอิชิ วาดะ ชาวญี่ปุ่น และนายสุทธิลักษณ์ สำเร็จประสงค์ ส่วนผู้ที่มีอาการหนักอีก 3 คน คือ นายนิตย ดำรงค์ประภักดิ์ น.ส.ศิริลักษณ์ อักษรวรรณ และนายอวิโรจน์ ศิรินทร์วรชัย ส่วนผู้ที่มีอาการปานกลาง 7 คน ได้แก่ น.ส.สายสุรีย์ มณีศิลป์ น.ส.นลินรัตน์ อิฐธนรักษ์ น.ส.พรทิพย์ ทองดี นางนภัส ภูมีราม น.ส.พนมพร เกิดแก้ว น.ส.จุฑาลักษณ์ นิลวิจิตร และ น.ส.เสาวนีย์ ปัญญาใหญ่


 


 


ตร.ออกคุมเข้มสถานบันเทิงทั่วกรุง หวั่นซ้ำรอย 'ซานติก้า'


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน สนธิกำลังร่วมกับทหาร เข้าตรวจสอบสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย ในคืนเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 คน บาดเจ็บกว่า 200 คน


 


โดยจากการตรวจสอบ พบว่าสถานบันเทิงส่วนใหญ่มีการติดตั้งถังดับเพลิง ไฟส่องสว่าง และป้ายบอกทางหนีไฟ เป็นระยะ ขณะที่บรรยากาศในค่ำคืนนี้กลับไม่คึกคัก นักเที่ยวค่อนข้างบางตา แม้ส่วนใหญ่บอกว่า ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้ามาเที่ยวตามสถานบันเทิง แต่ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านผู้ประกอบการยอมรับว่า เหตุดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบ้าง แต่ก็ไม่มาก อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ประสานให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานเขต อย่างต่อเนื่อง และหากรายใดฝ่าฝืน จะไม่ยื่นเสนอขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการให้


 


ส่วนในต่างจังหวัดก็มีการ สนธิกำลังร่วมกันตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานบันเทิงเช่นกัน โดยที่ จ.สงขลา ตำรวจภูธรหาดใหญ่ สนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครรักษาดินแดนหาดใหญ่ ตรวจสอบสถานบันเทิงย่านตัวเมือง พบว่า บางแห่งแม้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย และมีทางออกฉุกเฉิน แต่ก็กลายเป็นที่เก็บของ วางระเกะระกะกีดขวางทางเดิน นอกจากนี้ ยังไม่มีเครื่องหมายแสดงว่าเป็นทางหนีไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและให้ผู้ประกอบการเร่งปรับปรุง เพื่อให้มีความพร้อม และเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น


 


 


สำหรับซานติก้าผับ http://www.santikaclub.com/home.php จดทะเบียนการค้าในนามของ บริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ จำกัด ถือเป็นแหล่งบันเทิงชื่อดังย่านถนนเอกมัยทองหล่อ เป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าไฮโซ ดารา ดีเจ และนักเที่ยวยามราตรี เปิดตัวครั้งแรกปี 2546 รูปแบบฮอลล์ขนาดความจุนักเที่ยวได้กว่า 2,000 คน โดยมีนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ เฮียขาว อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของหุ้นส่วนใหญ่



 


 


....................................


เรียบเรียงจาก: เดลินิวส์ สยามรัฐ คมชัดลึก ไทยรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net