ส.ส.ประชาธิปัตย์หลบเข้าสโมสร ทบ. ก่อนแถลงนโยบาย

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ ก่อนไปแถลงนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยเวลา 06.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยบอกสั้นๆ ว่า เผื่อจะเข้าประชุมได้วันนี้ตื่นเช้าตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเข้าแล้วออกมาไม่ได้จะทำอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลัง

ทั้งนี้บรรยากาศที่พรรคเป็นได้ด้วยความคึกคัก มี ส.ส.ทยอยเดินทางมาตั้งแต่เช้า และเวลาประมาณ 06.50 น.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ได้เดินขึ้นรถเพื่อไปร่วมแถลงการประชุมที่สภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์บอกว่า "ไม่กลัว" ต่อคำถามที่ว่านักลงทุนห่วงว่าถ้ารัฐบาลแถลงนโยบายไมได้จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนั้น นายอภิสิทธิ์ตอบว่า พยายามทำให้ดี วานนี้ก็พยายามรักษาไม่ให้เกิดความรุนแรง

ต่อมาเวลา 08.25 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เคลื่อนขบวนรถออกจากพรรค โดยมีรถตู้ 14 คัน พร้อมด้วยรถติดตามของส.ส.และสื่อมวลชน ซึ่งนายกฯได้นั่งรถตู้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทะเบียน ฮง 7474 โดยได้วิ่งผ่านหน้าสถานีรถไฟสามเสน จนถึงแยกสวรรคโลก เลี้ยวขวาเข้า ถ.สุโขทัย มาถึงแยกนครราชสีมา เลี้ยวซ้ายผ่านแยกการเรือน และเลี้ยวเข้าสโมสรกองทัพบก โดยส.ส.และรมต.ของได้นั่งพักที่ห้องพิกุลทอง รอความพร้อมเข้าสภาเพื่อแถลงนโยบาย

ส.ส.ปชป. หน้าเจื่อน เจอทหารด่า "ไม่ชอบผู้ก่อการร้าย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยแกนนำ และส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้นั่งรถตู้ที่จอดอยู่ที่ ถ.เศรษฐศิริ หน้าที่ทำการพรรค เป็นเวลาประมาณ 1 ชม. ขบวนรถจึงได้เคลื่อนออก ทั้งนี้ในระหว่างรอรถเคลื่อนนั้น บรรดา ส.ส.ได้เดินลงจากรถเพื่อยืดเส้นยืดสาย และแบ่งปันขนมกัน บางคนยังมีอารมณ์ขันพูดแซวเล่นกับผู้สื่อข่าวว่าอยากจะขอแลกบัตรกับผู้สื่อข่าวเพื่อจะได้เดินทางเข้ายังอาคารรัฐสภาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถตู้ที่แกนนำ และ ส.ส.ของประชาธิปัตย์นั่ง ซึ่งจอดอยู่ใกล้กับแฟลต 9 ของกรมสวัสดิการกองทัพบก มีนายทหารนายหนึ่งซึ่งพักอยู่ที่ชั้น 4 ของแฟลตดังกล่าวได้นำเสื้อยืดสีขาว พื้นขาว ซึ่งสกรีนข้อความสีน้ำเงินว่า "ทักษิณสู้ๆ" มาแขวนไว้กับระเบียงหน้าห้องพัก นายทหารร้ายนั้นตะโกนมายังส.ส.ว่า "เราไม่ชอบผู้ก่อการร้าย" ทำให้ ส.ส.ของพรรคมีสีหน้าเจื่อนลง และเมื่อรถได้เคลื่อนออกจากพรรคไปที่สโมสรกองทัพบก ห้องพิกุลทอง ก็โดยขอความร่วมมือไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายใน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายชวนที่นั่งรถอยู่ในรถตู้ว่า นั่งในรถเมื่อยหรือไม่ ซึ่ง นายชวน มีสีหน้าปกติและพูดยิ้มๆ ว่า ไม่รู้จะเข้าสภาได้หรือไม่ ซึ่งในรถได้เตรียมซาลาเปาไว้ให้ ขณะที่บรรดาส.ส.หลายคนก็แปลกใจที่ขบวนรถเลี้ยวเข้าสโมสรกองทัพบก โดยต่างสอบถามกันว่าเปลี่ยนมาแถลงที่สโมสรกองทัพบกแทน

ทหารพร้อมโล่และกระบอง ซึ่ง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ชี้แจงว่าเพื่อเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจการดูแลสถานการณ์ชุมนุม (ที่มาของภาพ: Apichart Weerawong/AP/daylife.com)

แม่ทัพภาค 1 แจงส่งทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานช่วยรักษาความสงบ

ส่วนความเคลื่อนไหวของทหารในวันที่มีการแถลงนโยบายต่อสภา ซึ่งมีรายงานว่านอกจากกำลังตำรวจแล้ว ยังปรากฏว่ามีทหารพร้อมโล่จำนวนหนึ่งประจำการโดยรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และที่กระทรวงการต่างประเทศนั้น

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการส่งกำลังทหารเข้าไปสนับสนุนการทำงานของเข้าหน้าที่ตำรวจว่า กำลังทหารออกไปในฐานะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานและดูแลความเรียบร้อยรอบพระตำหนักจิตรดารโหฐาน ซึ่งเป็นการประสานสนธิกำลังจาก กองทัพบก 6 กองร้อย กองทัพเรือ 1 กองร้อย และกองทัพอากาศ 1 กองร้อย ซึ่งทหารที่ส่งออกไปไม่ได้ไปขวางม็อบ แต่มีหน้าที่ดูแลไม่ให้ผ่านสถานที่ที่สำคัญ โดยทหารจะใช้แค่โล่กำบังเท่านั้น ไม่มีอาวุธ ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยที่กระทรวงต่างประเทศนั้น กองทัพให้สารวัตรทหาร (สห.) ทำงานงานร่วมกับตำรวจ ซึ่งเชื่อว่า หากรัฐบาลแถลงนโยบายจบสถานการณ์น่าจะผ่อนคลายลง

"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับว่าอย่าให้เกิดความรุนแรง อย่าให้มีกลุ่มอื่นหรือใครเข้ามาก่อกวน เพราะม็อบเคลื่อนการชุมนุมปราศจากอาวุธก็เป็นสิทธิ์ของเขา ส่วนด้านการข่าวยังไม่มีรายงานเรื่องมือที่ 3 ที่จะเข้ามาก่อเหตุ และคิดว่าสถานการณ์ไม่น่าจะบานปลายเพราะหากจะเกิดความรุนแรงน่าจะเกิดตั้งแต่ที่บริเวณรัฐสภาแล้ว" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

.........................................

ที่มา: เรียบเรียงจาก มติชนออนไลน์ โพสต์ทูเดย์ และ คมชัดลึก