ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2551

การเมือง

 

นิพิฎฐ์แจงปูดเงินบริจาค 80 ล้าน

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกรณีเงินบริจาคเข้าพรรคจำนวน 80 ล้านบาท ว่า การที่ออกมาพูดเรื่องดังกล่าว เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า พรรคมีกลุ่มทุนครอบงำเท่านั้น ไม่มีเจตนาทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เมื่อนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค เรียกร้องให้ตนออกมาชี้แจง ก็ขอเวลาไปปรึกษากับนายชวนก่อน แต่จะไม่ปรึกษากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค หากนายชวน ว่าอย่างไรตนก็พร้อมปฏิบัติตามนั้น

เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่ามีหลักฐานการบริจาคเงิน 80 ล้านบาท นายนิพิฎฐ์ กล่าวปัดว่า อย่าไปพูดถึงขั้นนั้น ตนเพียงต้องการสื่อให้เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นในพรรคบ้าง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันจบไปแล้ว ตนสามารถอธิบายกับสังคมได้ในสิ่งที่ตนต้องการสื่อสารไปยังผู้ใหญ่ในพรรค

 

เมื่อถามว่ายังคงยืนยันที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ขอเวลาให้ตนได้ทำใจก่อน โดยยืนยันว่าอยู่ที่ไหนต้องมีความสุข หากไม่มีความสุขก็ไม่อยู่ ขอเวลาผมได้ประเมินตัวเองว่าอยู่แล้วมีความสุขหรือไม่ หากตนทำใจได้และมีความสุขก็จะอยู่กับพรรคต่อ

 

"ความรู้สึกวันนี้บอกได้คำเดียวว่า มันชา เหมือนกับคนถูกฉีดยาชา" นายนิพิฎฐ์ กล่าว และว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ อยากให้ผู้ใหญ่ในพรรคได้มีการพูดคุย และสื่อสารกับสมาชิกให้ใกล้ชิดมากกว่า นี้ รวมถึงชี้แจงต่อสาธารณะให้เกิดความเข้าใจด้วย หากมีการปรับความเข้าใจบ่อย และจริงจังกว่านี้ ปัญหาภายในพรรคก็จะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ และทุกคนก็พร้อมที่จะทำงานเพื่อปกป้องพรรคตลอด

 

พท.เตรียมยื่น ปปช.สอบกรณีนายกฯ ส่ง SMS

เว็บไซต์แนวหน้า - นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่งข้อความทางโทรศัพท์ มือถือถึงประชาชน โดยอ้างว่ามีความผิดฐานเบียดบังผลประโยชน์ ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทเอกชนเกินกว่า 3,000 บาท ผิดตามมาตรา 103 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. มีโทษจำคุก 3 ปี โดยเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ ลาออกเพราะขาดความชอบธรรม ทุจริตในหน้าที่ไม่เหมาะสมเป็นรัฐบาล ซึ่งตนมีหลักฐานชัดเจน และในวันพรุ่งนี้ ตนจะยื่นหนังสือให้กับอัยการสูงสุดร้องเรียนกรณีเงินบริจาค 80 ล้านบาท เพื่อซื้อตัว ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์


"สดศรี" สั่งสอบเงินบริจาค 80 ล้านให้ ปชป.จริงหรือไม่
มติชนออนไลน์ - นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกมาอ้างถึงการบริจาคเงินของ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บริจาคเงินให้พรรคจำนวน 80 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ทางสำนักกิจการพรรคการเมืองกำลังตรวจสอบยอดเงินบริจาคดังกล่าวอยู่ และเมื่อตรวจสอบได้แล้ว ก็จะแถลงข่าวในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ โดยจะต้องตรวจสอบ ว่าการบริจาคเงิน 80 ล้านบาทนั้นหากบริจาคจริงตามที่เป็นข่าวก็ต้องแจ้งให้ กกต.รับทราบ ด้วย เพราะถ้าไม่แจ้งก็จะเป็นความผิด เพราะในบัญชียอดเงินบริจาคให้พรรคการเมืองก็ไม่พบว่ามีการบริจาคในจำนวนยอดเงินดังกล่าว ทั้งนี้ จะต้องขอดูข้อมูลก่อนซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ขอให้รอฟังแถลงดีกว่า


เมื่อถามว่า กรณีนายทุนเข้ามาบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองเพื่อให้ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี กกต.จะตรวจสอบหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการร้องเรียนเข้ามา โดยจะต้องพิสูจน์ว่าเงินจำนวนดังกล่าวจ่ายเพื่อซื้อตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครร้องเข้าและคิดว่าอาจจะมีผู้ร้องเข้ามาให้ตรวจสอบในกรณีนี้

 

พท.ตั้ง "เฉลิม" เป็นผู้นำฝ่ายค้านชั่วคราว - ผอ.เลือกตั้งซ่อม

เว็บไซต์แนวหน้า - นายธนวัฒน์ วศินสังวรณ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคมีมติมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงส.ส.สัดส่วน ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไปก่อน เพื่อนำการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ได้ตอบรับแล้ว ส่วนความชัดเจนตัวบุคคล ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นการถาวรนั้น ต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า ร.ต.อ.เฉลิม เหมาะสมในการทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะมีประสบการณ์ทางการเมือง สามารถประสานงานได้ทั้งภายในและภายนอก ทั้งนี้ ในที่ประชุม ยังได้แต่งตั้งให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็น ผู้อำนวยการ การเลือกตั้งซ่อม ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จัดการเลือกตั้งซ่อมให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และฝากไปยัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รัฐบาล ว่า ไม่ควรนำอำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง

 

"เฉลิม" ชู "เสนาะ" เป็นผู้ใหญ่เหมาะนั่งผู้นำฝ่ายค้าน
มติชนออนไลน์ - ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวสมาชิกพรรคเพื่อไทย สนับสนุนให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ได้บอกไปแล้วว่าจะไม่รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เพราะเห็นว่าภายในพรรคเพื่อไทย มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และอาวุโสมากกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่อย่างนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและความเหมาะสม มากกว่าตน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะขอช่วยงานพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ส่วนการเลือกผู้นำฝ่ายค้านนั้นยังพอมีเวลา

 

ย้าย "พัชรวาท" กลับมาปฏิบัติราชการที่ สตช.

เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้(22 ธ.ค.) ผู้สื่ข่าวรายงานว่า หลัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน ล่าสุด นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และให้ พล.ต.อ.พัชรวาท กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากได้ปฏิบัติภารกิจที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยถึงการกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ สตช. ว่า เมื่อมีคำสั่งในลักษณะไหนออกมา ก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ทั้งนี้ ยืนยันการกลับมาทำหน้าที่ตามเดิมนั้น ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะตนยังยึดถือการทำงานเหมือนเดิม คือ อดทน เจรจา ไม่ทำร้ายประชาชน และเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ชาย ที่เป็นรมว.กลาโหม ส่วนมาตรการการรับมือกลุ่มเสื้อแดงที่จะปิดล้อมรัฐสภานั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตาม คงต้องขอศึกษาข้อมูลก่อน

 

ป้าอุอำลาข้าราชการแรงงานประกาศวางมือการเมือง

เว็บไซต์สยามรัฐ - ผู้สื่อข่าว รายงานวันนี้ (22ธ.ค.) ว่า นางอุไรวรรณ เทียนทอง อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวในพิธีอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอย่างเป็นทางการ ว่า ขอฝากให้ข้าราชการทุกคนทำงานด้วยความสามัคคี และขอให้มีจุดยืนในการทำงาน อย่าทำตัวตามกระแสทางการเมือง ขณะเดียวขอให้เคารพการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง เชื่อว่าการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผู้บริหารต้องพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น จะขอยุติบทบาททางการเมือง เนื่องจากสุขภาพและอายุไม่เอื้ออำนวย

 

อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อถึง นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่ ว่า ส่วนตัวรู้จักกันมานานและ นายไพฑูรย์ เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาก่อน เชื่อว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้

 

ทีมทนาย "ทักษิณ" พ้นโทษคดีถุงขนมบรรจุเงิน2ล้าน

เว็บไซต์คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้ปล่อยตัวนาย พิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นาย ธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ ผู้ต้องขังในคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีถุงขนม 2 ล้านบาท ภายหลังผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ตามคำพิพากษาของศาล โดยนายพิชิฏและนายธนาได้จัดเตรียมเอกสารในการปล่อยตัวไว้พร้อมตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อเวลา 06.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดประตูเรือนนอน นายพิชิฏและนายธนาจึงขอให้ทางเรือนจำปล่อยตัวออกจากเรือนจำตั้งแต่ในช่วงเช้า ทั้งนี้เพื่อหลบผู้สื่อข่าวที่มาปักหลักรอทำข่าวอยู่ที่ด้านหน้าเรือนจำ และเมื่อนายพิชิฏและนายธนาก้าวพ้นจากประตูเรือนจำ ต่างก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถยนต์ของญาติที่มารอรับที่หน้าเรือนจำฯ ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว

 

สำหรับน.ส. ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ ซึ่งต้องโทษคดีเดียวกัน และถูกส่งตัวมาคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง ก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกันในเวลา 09.30 น.โดยมีญาติของ น.ส.ศุภศรี จำนวน 3 คน นำรถยนต์มารับถึงหน้าประตูเรือนจำฯ และมีรถตำรวจ สน.ประชาชื่น มาดูแลความปลอดภัยให้กับ น.ส.ศุภศรี ด้วย

 

ด้านนางอังคนึง เล็บนาค ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางทัณฑสถานหญิงกลาง ได้ทำการปล่อยตัว น.ส. ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ ผู้ต้องหาคดีละเมิดอำนาจศาล หลังจากถูกควบคุมตัวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ในช่วงแรกที่ น.ส.ศุภศรี ถูกส่งตัวมาพบว่ามีอาการเครียดอย่างหนัก ทางเรือนจำก็เป็นห่วงพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้คุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวจะทำร้ายตัวเอง แต่พออยู่ไปได้ระยะหนึ่งก็ทำใจได้ ทางเรือนจำจึงแนะให้เขาเข้าร่วมในโครงการบวช ภายในเรือนจำฯ เพื่อให้จิตใจสงบ แต่ไม่สามารถบวชได้เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพ โดยน.ส.ศุภศรีป่วยเป็นโรคไต

 

ศาลฎีกานัดคู่ความคดีหวยบนดินพุธนี้

เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้(22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และข้าราชการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คน จำเลยในความผิดร่วมกันออกสลากพิเศษ เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งวันนี้จำเลยไม่ต้องเดินทางมาศาล เพราะศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ โดยฝ่ายโจทก์ยื่นพยานเอกสาร จำนวน 1 แฟ้ม ส่วนทนายจำเลย ได้ยื่นพยานเอกสาร จำนวน 32 แฟ้ม ทั้งนี้ ศาลได้นัดพร้อมคู่ความในวันที่ 24 ธันวาคม นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อกำหนดวันนัดสืบพยาน อย่างไรก็ตาม ศาลระบุว่าหากฝ่ายจำเลยมีข้อโต้แย้ง ให้แถลงต่อศาลในวันดังกล่าว ก่อนเวลา 12.00 น.

 

กกต.เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.จะเปิดรับสมัคร ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างจำนวน 29 ตำแหน่ง ใน 22 จังหวัด 26 เขตเลือกตั้งในวันนี้ ไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม โดยใช้งบประมาณในการเลือกตั้งครั้งนี้ 340ล้านบาท กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี บริบูรณ์ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครไม่น้อยกว่า 1 ปี จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และเป็นสมาชิกพรรคการเมืองติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน สำหรับผู้ที่ย้ายจากพรรคการเมืองที่ถูกยุบต้องเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ใหม่ครบ 90 วัน

 

ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้า จะไม่มีการลงคะแนนนอกเขตจังหวัด และนอกราชอาณาจักร แต่ผู้ที่ไม่สามารถใช้สิทธิในวันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค.ได้ สามารถลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าได้ในวันเสาร์ที่ 3 หรือวันอาทิตย์ที่ 4 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ณ สถานที่เลือกตั้งกลางที่กำหนดไว้ทุกอำเภอ และเขตของกรุงเทพมหานคร

 

นาย ประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมากเพราะคะแนนเสียง ส.ส. ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน แตกต่างกันไม่มาก ดังนั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องพิจารณาเลือกคนดีมีประสบการณ์เป็นตัวแทนในรัฐสภา


รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.วันแรกสมัคร 44 รายยกเว้น "แปดริ้ว"
มติชนออนไลน์ - นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า สำนักงาน กกต.ได้รับรายงานจาก กกต.ประจำจังหวัดที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างจำนวน 29 ตำแหน่งใน 22 จังหวัด 26 เขตเลือกตั้งว่า การเปิดรับสมัคร ส.ส.ในวันเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการรับสมัครมีผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้ง รวม 44 คน โดยแยกเป็นชาย 29 คน และหญิง 15 คน มีรายชื่อ มีดังนี้

 

1. กทม.เขต.10 มีผู้มาสมัครจำนวน 4 คน ได้แก่ 1 . นายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ พรรคเพื่อไทย 2.นายถนอมศักดิ์ นวลเศรษฐ พรรคสาธารณชน 3.นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ พรรคประชาธิปัตย์ 4.นายบุญฤทธิ์ ขวัญชุม พรรคประชากรไทย 2. จ.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ยังไม่มีผู้สมัคร 3.จ.นครปฐม เขต 1 มีสมัคร 2 คน ได้แก่ 1 .นายมารุต บุญมี พรรคประชาธิปัตย์ และ2.นายฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์ พรรคประชาราช 4.จ.นครพนม เขต1 มาสมัครเพียงคนเดียวได้แก่ น.ส.สุมาลี พูลศิริกุล พรรคเพื่อแผ่นดิน 5.จ.นราธิวาส เขต2 สมัคร 1 คนได้แก่ นายนิอาริส เจตาภิวัฒน์ พรรคชาติไทยพัฒนา

 

6.จ.บุรีรัมย์ เขต 2 มี 1 คน ได้แก่ นายจักรกฤษณ์ ทองศรี พรรคประชาราช เขต 4 มี2 คนได้แก่ 1.นายสุทัศน์ชัย กลมไธสง พรรคประชาราช และ2.นางเจติยา เลี้ยงผ่องพันธ์ พรรคชาติไทยพัฒนา 7.จ.ปทุมธานี เขต1 มี 2 คน ได้แก่ 1 นางชนากานต์ ยืนยง พรรคประชาราช และ 2.นายอภินันท์ ช่วยบำรุง พรรคประชาธิปัตย์ 8.จ.มหาสารคาม เขต1 มี 1 คน ได้แก่ น.ส.กุสุมาลวดี ศิริโกมุท พรรคเพื่อแผ่นดิน 9.จ.ร้อยเอ็ด เขต 2 มี 1 คนได้แก่ นางรัชนี พลซื่อ พรรคเพื่อแผ่นดิน 10 จ.ราชบุรี เขต 1 มี 1 คน ได้แก่ นายยศศักดิ์ ชีววิญญู พรรคประชาธิปัตย์

 

11.จ.ลพบุรี เขต 1 มี 2 คน ได้แก่ 1.นายสิงห์สมุทร รัตนอำภา พรรคความหวังใหม่ และ 2.น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช พรรคชาติไทยพัฒนา 12. จ.ลำปาง เขต 1 มีสมัคร 2 คน ได้แก่ นายสมโภช สายเทพ พรรคเพื่อไทย และ นายมัธยม นิภาเกษม พรรคประชาธิปัตย์ 13.จ.ลำพูน เขต 1 มีผู้มาสมัคร 3 คน ได้แก่ 1.นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล พรรคเพื่อไทย 2.นายขยัน วิพรหมชัย พรรคประชาธิปัตย์ และ 3.น.ส.อาภาภรณ์ พุทธปวน พรรคเพื่อแผ่นดิน 14.จ.ศรีสะเกษ เขต1 สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ พรรคชาติไทยพัฒนา และ 2.นางมาลินี อินฉัตร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

 

15. จ.สมุทรปราการ เขต 1 สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ พรรคเพื่อไทย และ 2.น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ 16.จ.สระบุรีเขต 2 สมัคร 1 คนได้แก่ นายองอาจ วงษ์ประยูร พรรคประชาธิปัตย์ 17.จ.สิงห์บุรี เขต 1 สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคประชาธิปัตย์และ 2.นายพายัพ ปั้นเกตุ พรรคเพื่อไทย 18.จ.สุพรรณบุรี เขต 1 สมัคร 3 คน ได้แก่ 1.นายนพดล มาตรศรี 2.นายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง 3.นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ พรรคชาติไทยพัฒนา เขต 2 มีผู้สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นางพัชรี โพธสุธน และ 2. นายเจรจา เที่ยงธรรม พรรคชาติไทยพัฒนา 19.จ.อ่างทอง เขต 1 สมัคร 2 คนได้แก่ 1.นายภคิน ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทยพัฒนา และ 2.น.ส.เพ็ญชิสา หงส์อุปถัมภ์ชัย พรรคเพื่อไทย

 

20. จ.อุดรธานี เขต 2 สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย และ2.น.ส.ณฐกมล นนทะโชติ พรรคเพื่อแผ่นดิน 21.จ.อุทัยธานี เขต 1 สมัคร 1 คนได้แก่ นายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ พรรคชาติไทยพัฒนา 22.จ.อุบลราชธานี เขต 2 สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นายอุดร ทองประเสริฐ พรรคเพื่อแผ่นดิน 2.นายพินิจ ชัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา เขต 3 สมัคร 2 คน ได้แก่ 1.นายสุริยพันธ์ ภักดีล้น พรรคเสียงประชาชน และ 2.นางอุดร จินตะเวช พรรคชาติไทยพัฒนา

 

นายสุทธิพล กล่าวว่า สำหรับจังหวัดที่มีผู้สมัครมากเป็นอันดับ 1 คือ กทม. เขต 10 โดยมีผู้สมัคร จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย ส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เขต 1 ยังไม่มีผู้สมัครแม้แต่รายเดียว สำหรับพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครมากที่สุด ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งผู้สมัครในวันแรก รวม 13 คน พรรคประชาธิปัตย์ 9 คน พรรคเพื่อไทย 7 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 6 คน พรรคประชาราช 4 คน ส่วนพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคเสียงประชาชน พรรคสาธารณชน พรรคความหวังใหม่ และพรรคประชากรไทยนั้นส่งผู้สมัครพรรคละ 1 คน

 

นายสุทธิพล กล่าวว่า บรรยากาศการสมัครรับเลือกตั้งในวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด ซึ่งยังเหลือเวลาในการรับสมัครอยู่อีกหลายวัน จึงขอเชิญชวนผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครได้จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม โดยกฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครพร้อมหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองและเอกสารหลักฐานต่างๆ ตลอดทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครคนละ 5,000 บาท ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่รับสมัคร

 

"เพื่อไทย" มีมติส่งเลือกตั้งซ่อมแค่ 13 เขต อีก 13 เขต คุณสมบัติไม่ครบ

เว็บไซต์แนวหน้า - ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 16.00 น.นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังประชุมว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม วันที่11ม.ค.2552 โดยได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม พร้อมให้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายค้านในสภาฯในการอภิปราย ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการเลือกผู้นำฝ่ายค้านในสภาอย่างเป็นทางการเพราะมีข้อจำกัดว่าจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคและเป็น ส.ส.ด้วย ซึ่งพรรคมีข้อสรุปส่งผู้สมัครใน 13 เขตจาก 26 เขต เนื่องจากอีก 13 เขตมีปัญหาคุณสมบัติสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วันซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพรรคจะประชุมสรุปรายชื่อผู้สมัครแต่ละพื้นที่อย่างสมบูรณ์

 

สำหรับรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ชัดเจนแล้ว 9 เขต คือ นายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ลงสมัครเลือกซ่อม ส.ส.กทม.เขต 10 นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 1 สมุทรปราการ นายพายัพ ปั้นเกตุ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 1 สิงห์บุรี นางพเญชิสา หงส์อุปถัมไชย ลงเลือกตั้งซ่อม เขต 1 อ่างทอง นายเพชรวรรค วัฒนพงศ์ศิริกุล ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ลำพูน นายสมโภช สายเทพ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ลำปาง นายกิตติพงษ์ เทียมสุวรรณ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 3 อุบลราชธานี นายสุขุมรัฏฐ์ สาวรีบุตร ลงเลือกตั้งซ่อม เขต 2 อุบลราชธานีและนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 2อุดรธานี ส่วนอีก 4 จังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ด สระบุรีและลพบุรี รอการยืนยันจากคณะผู้บริหารพรรคในการประชุมวันพรุ่งนี้ (23ธ.ค.) ซึ่งหากคุณสมบัติไม่ครบตามกฎหมายก็จะไม่ส่งสมัครอย่างแน่นอน

 

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่าขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จัดการเลือกให้บริสุทธิ์ ยุติธรรมพร้อมฝากไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอำนาจรัฐ อย่าชี้นำเจ้หน้าที่รัฐและขอให้ดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม อย่างไรก็ตามขอฝากไปถึงกองทัพที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล ก็ขอให้กลับกรม กองได้แล้วเพื่อให้เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้

 

"ส่วนตัวมั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.เลือกตั้งซ่อมทั้ง 13 เขต จะสามารถกวาดที่นั่งกลับมาได้ เพราะประชาชนยังชื่นชอบในนโยบายของพรรคอีกทั้งได้เห็นขบวนการและการกระทำต่างๆตั้งแต่การยุบพรรคจนมีการเปลี่ยนขั้วจนมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่" นายพร้อมพงศ์ ย้ำ

 

เลือกตั้งซ่อมเดือด!! ส.ส.ปชป.เกือบปะทะเสื้อแดงปทุมฯ

เว็บไซต์แนวหน้า - เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดปทุมธานี เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. แทนนายเอกพจน์ ปานแย้ม อดีต ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย หนึ่งในกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยพรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายอภินันท์ ช่วยบำรุง ลงสมัครและจับได้หมายเลข 2 ขณะที่นางชนากานต์ ยืนยง อดีต สว.ปี พ.ศ.2549 ผู้สมัครพรรคประชาราช เขต 1 ได้หมายเลข 1 อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านสวมเสื้อแดงมาให้กำลังใจนางชนากานต์กว่า 100 คน ทั้งนี้ ขณะ 2 ฝ่ายจะเดินทางกลับ นายอภินันท์ได้เดินยกมือไหว้ทักทายกลุ่มเสื้อแดง ที่ยืนล้อมตั้งแถวเรียงหน้ากระดานบริเวณหน้าสำนักงาน กกต.ปทุมธานี แต่ได้รับเสียงตะโกนก่นด่า แสดงความไม่พอใจ จนกระทั่งนายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ต้องขอให้นางชนากานต์และนายอภินันท์จับมือกันเพื่อแสดงถึงความเป็นมิตร เพราะเกรงเกิดเหตุปะทะกัน

 

กกต.ชี้ช่องพรรคจับมือเป็นพันธมิตร ไม่ส่ง ส.ส.ลงแข่งได้

เว็บไซต์แนวหน้า - นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่อาจมีการฮั้วเทคะแนนให้กับบางพรรคการเมืองว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกันนั้น สามารถทำได้ รวมถึงการเปิดทางไม่ส่งผู้สมัครลงบางพื้นที่ที่ถือเป็นสิทธิ์ของพรรคการเมือง แต่หากมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องก็อาจทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต จนอาจได้รับใบเหลือง ใบแดง ได้ ส่วนการบริจาคเงินของนายทุนให้กับพรรคการเมือง ที่ถูกมองว่าเป็นการซื้อเก้าอี้รัฐมนตรี ได้หรือไม่นั้น ถ้าการบริจาคเงิน กกต.ได้กำหนดให้บริจาคได้ ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อคน และต้องแสดงบัญชีให้ กกต.ทราบ หากไม่ทำตามนี้ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนการรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ทั้ง 22 จังหวัด นั้น ยังเรียบร้อยไม่มีปัญหา พร้อมกำชับผู้สมัครให้ระวังตัวในการหาเสียงช่วงปีใหม่ และการสังกัดพรรคการเมืองที่กฎหมายกำหนดให้ต้องสังกัดพรรคไม่ต่ำกว่า 90 วัน

 

 

เศรษฐกิจ

 

ไพฑูรย์ได้ฤกษ์เข้ากระทรวงพรุ่งนี้ชงเลิกจ้างเป็นวาระแห่งชาติ

เว็บไซต์สยามรัฐ - วันนี้(22ธ.ค.51)นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ว่าจะประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้นโยบายเร่งด่วนคือเรื่องผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยและมีการเลิกจ้างกันอยู่ทุกวัน ซึ่งเรื่องนี้จะเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะการแก้ไขปัญหาต้องเกี่ยวพันกับหลายกระทรวง

 

นายไพฑูรย์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ สถานประกอบการก็จำเป็นต้องลดการผลิตลงเพราะไม่มีตลาด ดังนั้นจึงต้องปลดหรือลดเวลาทำงานของลูกจ้างไปด้วย ดั้งนั้นกระทรวงแรงงานจะต้องเข้าไปดูว่าทำอย่างไรให้คนงานได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งต้องมีมาตรการต่างๆออกมารองรับ อย่างกรณีของกองทุนประกันสังคมก็อาจนำเงินไปฝากธนาคารแล้วปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ หรือในบางกรณีที่มีการเลิกจ้างอาจต้องใช้มาตรการทางกฎหมายคือมาตรา 75 ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานคือสถานประกอบการอาจหยุดงานชั่วคราวแต่ยังคงจ่ายค่าจ้างจำนวนหนึ่งให้กับลูกจ้าง

 

"ในช่วงกิจการยังดีๆ ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต่างก็เกื้อกูลกันอย่างมีความสุข มีการยื่นข้อเรียกร้อง มีการต่อรองกันบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นทั้งสองฝ่ายก็ควรหันหน้าหารือกันเพื่อให้กิจการไปรอด"นายไพฑูรย์ กล่าว

 

 

คุณภาพชีวิต


ปลัด กห.ลั่นเอาจริงเว็บหมิ่นสถาบัน ฝากทุกคนช่วยดูแล
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดหลักสูตร "การพัฒนาสัมพันธ์สื่อสารมวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติ" รุ่นที่ 5 โดยมีนักจัดรายการวิทยุกระจายเสียงทั่วประเทศเข้าร่วมอบรม


พล.อ.อภิชาต กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ชาติเราอยู่ในฐานะไม่มั่นคงมาก มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่สามารถพูดคุยเรื่องการเมืองภายในครอบครัวได้ ไม่มียุคไหนที่บ้านเมืองตกต่ำเท่านี้มาก่อน ดังนั้น เราต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องการหมิ่นสถาบัน ซึ่งเกิดขึ้นค่อนข้างมาก โดยกระทำการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้พระองค์ท่านระคายเคืองเบื้องพยุคลบาท เป็นสิ่งที่ไม่อยากเห็นในยุคที่ตนดูแลอยู่ตรงนี้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงอยากฝากให้ทุกคนช่วยดูแล นอกจากความมั่นคงของชาติแล้ว ความมั่นคงของสถาบันเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องช่วยกันดูแล

 

"มั่น" ฝากรมว.ไอซีทีใหม่ ควบกิจการ "ทีโอที-กสท"

เว็บไซต์แนวหน้า - นายมั่น พัธโนทัย อดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าอยากให้ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีที คนใหม่ช่วยสานต่อการควบรวมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้เป็นองค์กรเดียว เพื่อความแข็งแกรง และสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ เมื่อมีการเปิดเสรีโทรคมนาคมอย่างเต็มรูปแบบ และยังช่วยลดลการลงทุนซ้ำซ้อนได้อีกด้วย เพราะ ทีโอที และ กสท เป็นรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมเหมือนกัน ดังนั้นควรจะให้เป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

 

"หลายฝ่ายเห็นพ้องรวมกันว่าควรจะควบรวบให้เหลือองค์กรเดียว จะเป็นผลดีต่อประเทศ เพราะลดการลงทุนซ้ำซ้อน และจะทำให้รัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมของไทยเข้มแข็ง สามารถแข่งขันต่างชาติได้" นายมั่น กล่าว

 

นอกจากนี้ยังฝากให้สานต่อเรื่องธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการจัดตั้ง สถาบันพัฒนาบุคคลกรไอซีที เพื่อรองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และผลักดันโครงการโทรศัพท์มือถือระบบ 3 จี

 

พ่อค้าแม่ค้าตลาดคลองเตย ซึม ศาลแพ่งสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว

เว็บไซต์แนวหน้า - ที่ห้องพิจารณาคดี 601 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษกวันที่ 22 ธ.ค.51 ศาลมีคำสั่งคดีขอคุ้มครองชั่วคราว ที่ น.ส.จันทร์จิรา ณ นคร กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดคลองเตย รวม 19 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง การท่าเรือแห่งประเทศไทย , คณะกรรมการการท่าเรือฯ , ผู้อำนวยการท่าเรือฯ และ บริษัทลีเกิ้ล โปรเพรสชั่นแนล จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 - 4 เรื่องเพิกถอนนิติสัญญา ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประมูลตลาดสดคลองเตย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2551 ระหว่างการท่าเรือฯ กับบริษัทลีเกิ้ล ฯ ผู้ชนะการประมูล,.เพิกถอนสัญญาเช่า ระหว่าง การท่าเรือ ฯ กับ บริษัท ลีเกิ้ลฯ ที่ทำขึ้นวันที่ 29 ต.ค. 2551 และเพิกถอนการจดทะเบียนการเช่าระหว่าง การท่าเรือ ฯ กับ ล.ลีเกิ้ล พร้อมยื่นคำร้องขอให้ให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการเข้าบริหารพื้นที่ตลาดคลองเตย จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1-3 ประกาศประมูลโครงการพื้นที่การท่าเรือ ฯ มูลค่า 1,300 ล้านบาท เป็นการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการเข้าร่วมการงานระหว่างเอกชน กับ รัฐ พ.ศ.2535 ต่อมาจำเลยได้ประกาศลดพื้นที่ประมูลโครงการลงเหลือเพียง 600 ล้านบาท เพื่อจะไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว โจทก์จึงยื่นคัดค้านต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่จำเลยที่ 1-3 ยังคงดำเนินการประมูลต่อจนจำเลยที่ 4 ชนะการประมูลทำสัญญาเช่าพื้นที่ 10 ปี และ ประกาศให้ผู้ค้าเช่าแผงราคาสูง จึงเกิดปัญหาพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลย เกิดการใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้ค้าเพื่อเข้าบริหารพื้นที่ ที่เป็นการกระทำละเมิดโจทก์ แต่เมื่อคำร้องคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์ไม่ได้ร้องขอให้ศาลมีคำบังคับห้ามจำเลยกระทำซ้ำในส่วนนี้ ศาลจึงไม่มีอำนาจคุ้มครองชั่วคราว แต่มีอำนาจพิจารณาคำขอที่โจทก์ให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาตามคำฟ้องเท่านั้น ดังนั้นคำร้องของโจทก์ทั้ง 19 คน เรื่องละเมิด ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวมาบังคับใช้ จึงให้ยกคำร้อง

 

ภายหลัง นางจันทร์จิรา ณ นคร เป็นแกนนำผู้ค้าตลาดคลองเตย กล่าวว่า จะกลับไปหารือกับทนายความเรื่องการยื่นฟ้องและระบุคำร้องขอใหม่เพื่อให้ศาลได้พิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งยืนยันว่า กลุ่มผู้ค้ายังจะคงรวมตัวปิดถนนบริเวณทางเข้าตลาดต่อไป



"สุวิทย์" ลั่นสอบฝายแม้วงานแรก ส่งเสริมท่องเที่ยวอุทยาน
มติชนออนไลน์ - นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก จะเข้าทำงานทันที งานเชิงนโยบายอันดับแรกคือ การตรวจสอบกรณีทุจริตฝายแม้ว ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว นอกจากนี้ ยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล แหล่งท่องเที่ยวบนยอดดอยทางภาคเหนือ

 

 

ต่างประเทศ

 

คุมเข้มความปลอดภัย

เว็บไซต์เดลินิวส์ - บังกลาเทศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดให้อดีตนายกรัฐมนตรีชี้ค ฮาซินา วาเจด ของบังกลาเทศ หลังจากรายงานข่าวจากอินเดียระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงมีแผนการลอบสังหารเธอก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ ฮาซัน มาห์มูด กันดาเกอร์ ผู้อำนวยการของกองกำลังปฏิบัติการเร็ว หรืออาร์เอบี กล่าวว่า พวกเขากำลังสอบสวนคำขู่ดังกล่าว ซึ่งรายงานสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น-ไอบีเอ็น ที่อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอินเดียไม่เปิดเผยนาม

 

ไม่มีอัล-เคดา

เว็บไซต์เดลินิวส์ - ซาอุดีอาระเบีย ปฏิเสธว่าได้สกัดแผนการโจมตีของเครือข่ายก่อการร้ายอัล-เคดาต่อพิธีฮัจญ์ในปีนี้ โดยปฏิเสธรายงานข่าวของสหรัฐว่า ซาอุฯ ประสบความสำเร็จในการทำลายแผนการโจมตีผู้แสวงบุญในนครเมกกะ ทั้งนี้ รายงานข่าวที่ปรากฏในอินเทอร์เน็ต เผยแพร่โดยมิดเดิล อีสต์ ไทม์ส อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐ ระบุว่า มีการรักษาความปลอดภัยขนานใหญ่ในพิธฮัจญ์เมื่อต้นเดือนนี้ เนื่องจากอัล-เคดามีแผนโจมตีนครเมกกะ และผู้เข้าร่วมแสวงบุญกว่า 2.4 ล้านคน

 

แผ่นดินไหวญี่ปุ่น

เว็บไซต์เดลินิวส์ - เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.2 ริคเตอร์ บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายและผู้บาดเจ็บ โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของเขตฟูกูชิมา ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ก่อนหน้านี้เคยเกิดแผ่นดินไหว 7.2 ริคเตอร์บนเกาะฮอนชูในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไป 23 ราย

 

แฉความลับเอกสารการทูตญี่ปุ่น อ้อนสหรัฐฯ ใช้นิวเคลียร์ถล่มจีน

เว็บไซต์สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเอกสารทางทูตฉบับใหม่ระบุว่า เมื่อปี 2508 ทางการญี่ปุ่นเคยเรียกร้องให้สหรัฐฯ โจมตีจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หากญี่ปุ่นกับจีนแผ่นดินใหญ่ทำสงครามต่อกัน

 

โดยรายงานจากเอกสารทางการทูตข้างต้น ยังระบุด้วยว่า นายไอซาคุ ซาโตะ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น และเคยได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เมื่อปี 2517 จะอนุญาตให้กองทัพเรือของสหรัฐฯ สามารถใช้น่านน้ำของญี่ปุ่น รวมทั้งน่านน้ำอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเขตการปกครองญี่ปุ่น ในการขนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ เข้ามาโจมตีจีน หากเกิดสงครามขึ้นระหว่างจีนกับญี่ปุ่น

 

รายงานของเอกสารทางการทูต ยังเผยถึงการหารือกันระหว่างนายซาโตะกับนายโรเบิร์ต แมคนามารา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยนั้น ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมืองหลวงของสหรัฐฯ ต่อกรณีเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีจีนดังกล่าวด้วย

 

ทั้งนี้ นายแมคนามานา เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า มีส่วนสำคัญต่อการทำสงครามเวียดนามของสหรัฐฯ โดยเป็นที่รับรู้กันว่า อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้ ทำหน้าที่ไม่ผิดอะไรกับผู้ออกแบบสงครามเวียดนามดังกล่าวด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท