"ส.ศิวรักษ์" เขียนถึง "สิงห์สนามหลวง" ชี้แจงเข้าใจผิดว่ามีละคร "หมิ่น" ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

 

คอลัมน์ "สิงห์สนามหลวงสนทนา" ในนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 17 ฉบับที่ 863 วันที่ 12 ธันวาคม 2551ชื่อตอน "".ศิวรักษ์" ขอสารภาพบาป ขอปลงอาบัติ ขออโหสิ" สิงห์สนามหลวง หรือ สุชาติ สวัสดิ์ศรี ได้นำจดหมายของสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งเขียนถึงตนเองมาตีพิมพ์ พร้อมตอบจดหมาย

 

โดยตอนหนึ่ง สุลักษณ์เขียนขอบคุณที่สิงห์สนามหลวง ที่ได้ตัดทอนเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกกรณีกล่าวหาการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สนามกีฬารัชมังคลาฯ ว่ามีการแสดงละครซึ่งน่าจะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพออก และว่าได้ทราบข้อมูลมาจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบในภายหลังว่า ไม่มีการเล่นละครดังกล่าว จึงขอสารภาพผิดที่ไม่ได้ตรวจสอบเสียก่อน จึงขอปลงอาบัติและอโหสิ

 

ขณะที่สิงห์สนามหลวงตอบ ส.ศิวรักษ์ ว่า เขาเองนั้นไม่ได้เป็นผู้ตัดทอนเนื้อหาแต่อย่างใด หากแต่เป็นการตัดออกโดยที่มิได้ปรึกษากัน ซึ่งเข้าใจว่าคงเป็นความหวังดีของ บก.บห.เนชั่นสุดสัปดาห์ ที่ช่วยตัดออกเพื่อปกป้องแทนตนเอง

 

ทั้งนี้ สิงห์สนามหลวงได้แสดงความเห็น กรณีมีการแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ว่า อยากให้แสดงความเห็นกันแบบซึ่งหน้ามากกว่าการตีหัวเข้าบ้าน

 

 

ส่วนหนึ่งของจดหมายของ ส. ศิวรักษ์

 





21 พฤศจิกายน 2551

ถึง สิงห์สนามหลวง

 

ขอบคุณหลาย ที่กรุณาลงจดหมายล่าสุดของผมให้ใน เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ทั้งยังเขียนเอาใจผมอย่างเข้าอกเข้าใจ และฉบับที่ลงพิมพ์ใน เนชั่นสุดสัปดาห์  นั้น คุณตัดข้อความต่อไปนี้ออก คือ

 

"ดังขอให้สังเกตว่างานมหกรรมเสื้อแดงที่จัดขึ้น ณ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 นั้น ก่อนที่ทักษิณ ชินวัตร จะปรากฎตัวและเสียง (จากต่างประเทศ) บนจอยักษ์นั้น ได้มีละครเล่นโจมตีพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน แม้จะไม่เอ่ยพระนามตรงๆ ก็ตามที แต่รัฐบาลนี้ก็ไม่ดำเนินคดี และเมื่อทักษิณออกมาแสดงวาทะ เขาก็บอกว่าเขาจะกลับเมืองไทยได้ ก็ด้วยพระราชบารมีที่พระราชทานอภัยโทษให้เขา (ทั้งๆ ที่ความผิดของเขาไม่ใช่เรื่องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หากแต่เป็นความฉ้อแลทุจริตอย่างร้ายแรง) หาไม่ เขาก็ต้องอาศัยพลังประชาชน ทั้งนี้ หมายความว่า ถ้าเบื้องสูงไม่ช่วยเขา เขาก็จะใช้เบื้องล่างเป็นขบวนการมาล้มล้างเบื้องสูงเสียกระนั้นหรือ แล้วนี่มิเป็นการอ้าขาผวาปีกเกินไปดอกหรือ ชั่งไม่รู้จักตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเอาเสียเลย"

 

นับว่าคุณทำหน้าที่อย่างเหมาะสม แต่ข้อความดังกล่าวก็ไปปรากฏใน Website ประชาไท เป็นเหตุให้นายวีระ มุสิกพงศ์ และคณะ ถล่มผม ว่าเอาความเท็จมากล่าว ผมต้องขอยอมรับว่าข้อความในอัญประกาศนั้น ผมได้รับทราบมาจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ ผมมาทราบภายหลัง ว่าไม่มีการเล่นละครดังกล่าว ผมต้องขอสารภาพบาปที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ถ่องแท้เสียก่อน สมน้ำหน้าแล้วที่ถูกโจมตีอย่างรุนแรง ผมขอปลงอาบัติ และขออโหสิด้วย

 

 





จาก สิงห์สนามหลวง

 

ผมคิดอยู่นานว่าจะมีความเห็นสืบเนื่องหรือไม่ แต่ถ้าเอา "ที่เป็นจริง" เข้าจับก็น่าจะทำให้มีความชัดเจนร่วมกันตั้งแต่ต้น ที่เป็นจริงก็คือ "สิงห์สนามหลวง" ได้นำจดหมายของ ".ศิวรักษ์" เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 กรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพลงให้ทั้งฉบับ โดยมิได้ตัดข้อความใดๆ ออกทั้งสิ้น แต่ที่ข้อความถูกตัดออกดังที่แจ้งมาให้ทราบอีกครั้งในจดหมายฉบับนี้นั้น เป็นฝีมือของผู้ใดที่เนชั่นสุดสัปดาห์ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน และเป็นการตัดออกโดยที่มิได้ปรึกษากันเลย เข้าใจว่าคงเป็นเพราะความหวังดีของ บก.บห.เนชั่นสุดสัปดาห์ ก็ได้ เพราะข้อความในจดหมายของ ".ศิวรักษ์" ที่ส่งถึง "สิงห์สนามหลวง" ได้ไปปรากฎอยู่ในเวบผู้จัดการ ก่อนล่วงหน้าแล้ว บก.บห.เนชั่นสุดสัปดาห์ เลยช่วยตัดออกเพื่อปกป้องแทน "สิงห์สนามหลวง" ถ้าไม่มีจดหมายของ ".ศิวรักษ์" มาบอกว่า "นับว่าคุณทำหน้าที่อย่างเหมาะสม" ผมก็คงจะขุ่นใจ บก.บห.เนชั่นสุดสัปดาห์ อยู่มิน้อย

 

ดังนั้น จึงอยากบอกว่า "หน้าที่อย่างเหมาะสม" นั้น หาใช่เป็นของ "สิงห์สนามหลวง" ไม่ แต่เป็นของทางเนชั่นสุดสัปดาห์เอง ถ้าไม่เช่นนั้น "สิงห์สนามหลวง" คงไม่ถามหาความจริงจาก ".ศิวรักษ์" ในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา ว่าเรื่องการเล่นละคร "หมิ่น" ในสนามกีฬาคืนนั้น เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ

 

เรื่องการถล่ม ".ศิวรักษ์" นั้น หาใช่มีแต่ใน Website ของ ประชาไท เท่านั้นไม่ แต่ใน Website ของ ฟ้าเดียวกัน ".ศิวรักษ์" และบรรดาผู้อาวุโสที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ทั้งหลายต่างก็พลอยโดนถล่มไปด้วย ดังได้นำข้อความตีหัวเข้าบ้านในเวบดียวกัน บางตอนมาลงให้เห็นบรรยากาศบางอย่างในโลกไซเบอร์

 

"สิงห์สนามหลวง" ขอบคุณที่ ".ศิวรักษ์" ยังมีแก่ใจตอบขอบคุณ และที่รู้สึกดีคือ ".ศิวรักษ์" ยอมรับว่าตนเองพลาด ทั้งขอสารภาพบาป ขอปลงอาบัติและขออโหสิ เกี่ยวกับเรื่องที่มาทราบความจริงภายหลังว่าไม่มีการเล่นละคร "หมิ่น" ดังกล่าวที่สนามกีฬาในคืนนั้น มองแบบมีความหวัง ผมอยากเห็นบรรดา "ซอมบี้" ทั้งหลายในเวบร้อยแปดได้ออกมา "ฉะ" กันอย่างซึ่งหน้ามากกว่าใช้วิธีตีหัวเข้าบ้าน การ "ฉะ" แบบคลื่นลูกที่สามนั้น มันปักอกแล้วมันก็หายตัวไปทันที ถ้าเป็นแบบคลื่นลูกที่สอง ข้อความผิดถูกอย่างไรยังมีลายลักษณ์อักษรเก็บไว้จนกว่าดาวหางชนโลก เลือกตีหัวใครก็จะได้เห็นชัดๆ ไม่ใช่แบบ "ลอบกัด" แล้วหายหัว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท