ASTV ผู้จัดการรายวัน - เครือข่ายองค์กรต่างๆ ในจังหวัดสงขลา ร่วมกับพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ประชุม ต่อยอดข้อมูลเดิมให้ต่อเนื่องและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประเด็น ในห้วง 4 ปี ข้างหน้า จะทำอย่างไรกันดี และเร่งดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม
ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรต่างๆ ร่วมกับพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย และตัวแทนจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ ร่วมประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและต่อยอดข้อมูลเดิมให้มีความต่อเนื่อง หลังจากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยุติลง โดยตั้งประเด็นถกกันในเรื่อง ปี 2552-2555 หรือในห้วง 4 ปี เราจะทำอย่างไรกันดี
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่พันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ต้องเร่งดำเนินการคือ การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและไม่ทอดทิ้งผู้ที่ร่วมต่อสู้อยู่แนวหน้า ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นคนปักษ์ใต้ พันธมิตรสงขลาฯก็ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้วบางส่วน อย่างเช่นงานศพของ นางสาวกมลวรรณ หมื่นหนู และนายรณชัย ไชยศรี พันธมิตรสงขลาฯได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถมาแจ้งได้ที่คณะทำงานพันธมิตรสงขลาฯ
ด้านสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ เสนอว่า ต้องขจัดการเมืองเก่าให้หมด ให้สิ้นซากก่อน ซึ่งหากการเมืองเก่ายังอยู่ การเมืองใหม่ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ และต้องปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจัง สำหรับในส่วนของสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ มีสื่อที่ให้ข่าวสารแก่ประชาชนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยวิทยุเสียงกรรมกร 102.75 MHz ซึ่งนับได้ว่าเป็นสื่อที่ประชาชนในพื้นที่บริโภคกันมากเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกันซึ่งก่อนหน้าที่ได้ถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯผ่าน ASTV ด้วย จึงอยากให้หลายๆ องค์กรเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อช่องทางในการให้ความรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของการเมืองใหม่
ทั้งนี้ คณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา และตั้งศูนย์ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา ขึ้นอย่างถาวรแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ที่ ที่ทำการสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลความเคลื่อนไหวเรื่องการเมืองภาคประชาชนของจังหวัดสงขลา หากพันธมิตรสงขลาฯ มีข้อเสนอแนะหรือมีอะไรจะแลกเปลี่ยนความเห็น ก็สามารถไปร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ สหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่
เลขาฯ สภา คาดใช้เวลา1ชั่วโมงโหวตเลือกนายกฯ
เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. ว่า ขั้นตอนการลงมติหลังจากมีสมาชิกเสนอชื่อผู้สมควรได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ แล้ว จากนั้นการลงคะแนนจะกระทำโดยวิธีเปิดเผย โดยการขานชื่อสมาชิกให้ลงคะแนนเลือกทีละคนตามลำดับชื่อ คาดว่า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจะแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม หากผลการนับคะแนนผู้สมควรได้รับเลือกเป็นนายกฯ มีคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องให้มีการลงมติใหม่
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรัฐสภา โดยเฉพาะกรณีที่มีข่าวว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง เดินทางมาชุมนุมว่า ไม่น่าเป็นห่วง เพราะทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เตรียมความพร้อมในการดูแลไว้แล้ว.
จาตุรนต์ชี้ป๋าเหนาะเหมาะสุดนั่งนายกฯ
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - อดีต111ทรท.แนะรัฐบาลใหม่ไม่ควรอยู่ในอำนาจเกิน3เดือน เร่งแก้ศก.แล้วยุบสภาทันที นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพรุ่งนี้ไม่ว่าฝ่ายใดขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าจะทำงานได้ไม่นาน และเจอแรงคัดค้านที่เท่ากัน หากได้รับบาลขั้วเดิมจะเจอการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันะมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่หากได้ประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล จะเป็นดอกผลของการรับประหารรูปแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือว่าขาดความชอบธรรมขั้นรุนแรง เพราะความพยายามที่จะขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยการยอมอยู่ใต้อำนาจของคนมีสี และใช้กลยุทธ์งูเห่า ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฝ่ายใดจะขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรอยู่ในอำนาจเกิน 3 เดือน แต่ต้องเร่งวางมาตรการกู้วิกฤตเศรษฐกิจให้แล้วเสร็จโดยด่วน แล้วยุบสภาทันทีเพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจให้กับประชาชน
ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีอาจมีการเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กลางสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อแข่งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นการแข่งขันที่สูสีในเรื่องของฐานเสียง แต่หากมองในเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้นำในระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ มองว่า คนที่เหมาะสมที่สุด น่าจะเป็นนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพราะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่านายอภิสิทธิ์ ที่ยอมอยู่ใต้อำนาจการควบคุมจากส่วนอื่น เพื่อขึ้นเป็นฝ่ายกุมอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงเสียง และความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน
'หมอแว' ยัน13-16 สส.พผ.โหวต'ประชา'นั่งนายกฯ
เว็บไซต์เดลินิวส์ - นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.ปัตตานี พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวว่า พรรค พผ. มีความเห็นออกเป็น 2 ส่วน คือ สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตัวเลขไม่ใช่ 20 เสียง ตามที่มีข่าว โดยรายชื่อดังกล่าวเป็นรายชื่อซ้ำซ้อน เพื่อขอให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ดังนั้น เชื่อว่า เสียงที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์จะลดลงพอสมควร ถึงวันนี้การเมืองมีความชัดเจนที่จะเสนอ พล.ต.อ.ประชา เป็นนายกฯ ส่วนที่ พล.ต.อ.ประชา เคยออกมาปฎิเสธไม่รับตำแหน่งนายกฯ ก่อนหน้านี้ เพราะเกรงว่า จะถูกมองเป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้ประเมินแล้วว่า หากปล่อยให้มีเพียง 2 พรรคการเมืองใหญ่ ก็เกรงว่า จะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมา ดังนั้น พรรค พผ. จึงเป็นทางเลือกที่ 3 และน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลสายกลาง นำพาประเทศชาติฝ่าฟันวิกฤตทางการเมืองได้
"วันนี้ผมมั่นใจว่า สมาชิกพรรคเกินครึ่งหนึ่ง ประมาณ 13-16 คน จาก 27 คน มีแนวคิดที่จะสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา ว่าที่หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ แน่นอน ส่วนกลุ่มที่เคยสนับสนุนพรรค ปชป. ก็ต้องทบทวน เพราะ พล.ต.อ.ประชา เป็นหัวหน้าพรรคของพวกเรา ก็ควรทบทวนเปลี่ยนใจกลับมาให้การสนับสนุนหัวหน้าพรรคของตัวเอง หรืออย่างเลวร้ายที่สุด คงจะไม่เข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ (15ธ.ค.) เพราะหากฝืนโหวตสวน เสียงส่วนใหญ่ในพรรค เท่ากับเป็นการเผาตัวเอง และคงจะไม่มีที่ยืนทางการเมืองในอนาคต" นพ.แวมาฮาดี กล่าว.
'เฉลิม' มั่นใจ 'เพื่อไทย' ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล
เว็บไซต์เดลินิวส์ - ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.สาธารณสุข ยังคงมั่นใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) ว่า จะชนะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยแพ้ - ชนะกันไม่มาก ไม่เกิน 10 เสียง ทั้งนี้ เรียกร้องฝ่ายที่แพ้การโหวตไม่ควรออกมาตีรวน นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เชื่อว่า การออกมาพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจร จะมีผลต่อการตัดสินใจของ ส.ส. โดยเฉพาะผู้ที่ไปสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม.
'สาทิตย์' มั่นใจมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งหนุน 'อภิสิทธิ์'
เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) ว่า เบื้องต้นได้เสียงอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว คาดการณ์ว่า ทุกอย่างน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เสียงของพรรค ปชป.และพรรคร่วมฯ ยังยืนยันอยู่ที่ 260 เสียง แม้จะมีความพยายามให้เปลี่ยนขั้ว ไปสนับสนุนขั้วของพรรคเพื่อไทย หรือสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) เป็นนายกฯ ก็ตาม.
รายงานรบ.สหรัฐฯชี้แผนฟื้นอิรัก$1แสนล้าน "ล้มเหลว"
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี - รายงานที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุชัดเจนว่าความพยายามเท่าที่ผ่านมาในการฟื้นฟูบูรณะอิรัก ต้องเผชิญทั้งศึกชิงอำนาจระหว่างหน่วยราชการต่างๆ , ความรุนแรงจากสงคราม, ตลอดจนการขาดความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบพื้นฐานของสังคมอิรัก จนทำให้เงินงบประมาณที่ใช้จ่ายไปแล้วถึงราว 100,000 ล้านดอลลาร์ ได้ผลงานที่อยู่ในสภาพพิกลพิการและล้มเหลว ทั้งนี้ตามรายงานที่ปรากฏในเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์คืนวันเสาร์(13)
บุชยัง"ไม่ตัดสินใจ"แผนช่วยอุตฯรถ
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี - คนงานภาคอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯนับแสนคน ยังคงกังวลใจในวันอาทิตย์ (14) ระหว่างที่รอว่าทำเนียบขาวจะมีมาตรการชัดเจนเกี่ยวกับแผนช่วยชีวิตอุตสาหกรรมรถยนต์หรือไม่ ในขณะที่โฆษกของประธานาธิบดีระบุว่ายังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ในเรื่องนี้
"สายัณห์ ดอกสะเดา"สิ้นลมแล้วตั้งศพวัดอรุณฯ
เว็บไซต์คมชัดลึก - ตลกดาวน์ซินโดรม "สายัณห์ ดอกสะเดา" หรือสายัณห์ ม่วงเจริญ สื้นลมหายใจอย่างสงบแล้ว ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เมื่อเวลา 18.08 น.
จีนเตรียมทุ่มงบลงทุน 5 ภาคส่วน
เว็บไซต์แนวหน้า - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน เปิดเผยว่า นายจาง ผิง ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนา และการปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวว่า รัฐบาลจีนเตรียมทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อลงทุนใน 5 ภาคส่วนหลักของประเทศ ได้แก่ เกษตรกรรม โครงการสร้างบ้านราคาประหยัด สาธารณูปโภคพื้นฐาน การอนุรักษ์พลังงาน และสวัสดิการสังคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีแผนเร่งสร้างทางด่วนและทางรถไฟเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน อาทิ ทางรถไฟเชื่อมเมืองหลันโจวในภาคตะวันตกเฉียงเหนือกับเมืองฉงชิ่งในภาคตะวันตก เป็นต้น
นอกจากนั้นรัฐบาลยังมีแผนบูรณะอาคารเรียน พัฒนาเครือข่ายสาธารณสุข ให้บริการวางแผนครอบครัว ก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมในชนบท และพัฒนาโครงการสวัสดิการสังคมอื่นๆ
ชี้เฟดพบทางตันมาตรการลดดบ. เหตุจ่อเหลือ0%ทุกขณะ-จี้หาแผนใหม่สู้พิษศก.
เว็บไซต์สยามรัฐ - นักเศรษฐศาสตร์ชี้เฟดใกล้จบแผนลดดอกเบี้ยสู้วิกฤติเศรษฐกิจ หลังดอกเบี้ยใกล้แตะร้อยละ 0.00 แนะเร่งหาแผนยุทธศาสตร์ใหม่มารับมือ ด้านจีนเสริมวงเงิน เข้ากองทุนธนาคาร ขณะที่พระราชินีเมืองผู้ดีตรัสเตือนใช้จ่ายอย่างประหยัด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดานักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์จากสถาบันต่างๆ เช่น สถาบันดีซิสชันอีโคโนมิกส์ ออกมาแสดงทัศนะถึงบทบาทของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดกับการแก้วิกฤติเศรษฐกิจโลกว่า เฟดต้องแสวงหามาตรการใหม่ๆ มารับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ยังไม่ทีท่าว่าจะคลี่คลายลงในระยะเวลาอันใกล้นี้แต่ประการใด ภายหลังจากมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใกล้สิ้นสุดเข้าไปทุกขณะ เนื่องจากเวลานี้อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 1 และในการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 - 16 ธ.ค.นี้ มีแนวโน้มว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกร้อยะล 0.5 เป็นอย่างน้อย และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะปรับถึงร้อยละ 0.75 - 1 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.00
สำหรับ สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจโลก ในภูมิภาคอื่นๆ ปรากฏว่าที่จีนโดยสภาแห่งรัฐได้ประกาศมาตรการใหม่ มารับกับวิกฤติเศรษฐกิจโลก ด้วยการจะเพิ่มวงเงินในนโยบายกองทุนธนาคารของปีหน้าอีกร้อยละ 17 จากจำนวนเงินในปีนี้ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 1 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทางด้าน คณะนักวิจัยสถานการณ์เศรษฐกิจของโกลด์แมนแซกส์ ออกมาคาดการณ์ว่าจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ทีท่าว่าจะคลี่คลายลงไปนี้ จะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันโลกในอีก 3 เดือนข้างหน้า อาจปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกถดถอยจนทำให้ปริมาณความต้องการน้ำมันลดลง
รายงานข่าวแจ้งว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ยังทำให้ราชสำนักของโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานพระบรมราโชวาทเตือนพระราชนัดดา ได้แก่ เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี ตลอดจนสำนักพระราชวัง ให้ลดการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยลงด้วย
ทีโอทียันกลางปีหน้าคนกรุงเทพฯได้ใช้ 3จี
เดลินิวส์ - ทีโอทีพูดเสียงเศร้าเหตุโครงการ 3จีไม่กระเตื้อง เพราะรอ กทช ออกใบอนุญาตโอนสิทธิ์ 1900 ตามขั้นตอน 210 วัน ยันคนกรุงเทพได้ใช้ 3จี กลางปีหน้าแน่!
"ขวัญชัย ไพรพนา" ประกาศระดมพลคนรักอุดรล้อมบ้าน "ไชยยศ"
เว็บไซต์แนวหน้า - มีรายงานข่าวว่า นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรได้ประกาศผ่านคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 97.50 สถานีวิทยุชุมชน เพื่อระดมสมาชิกจำนวน 500 คน เดินทางไปที่บ้านพักของ นายไชยยศ จิรเมธากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อแผ่นดิน จังหวัดอุดรธานี ที่สนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งระบุว่า กลุ่มคนรักอุดรและคนเสื้อแดงจะทำทุกวิถีทางที่จะให้ นายไชยยศ ได้รู้จักชาวอุดรมากขึ้นในฐานะที่ไม่สนับสนุนคนอุดรเป็นนายกฯ และหัวหน้าพรรคของตนเอง
สธ.เตือนระวัง7โรคระบบทางเดินอาหารในฤดูหนาว
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - สธ.เตือนโรคระบบทางเดินอาหาร 7 โรคช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า5ปี นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปีนี้โรคทางเดินอาหารมีแนวโน้มรุนแรงกว่าเดิม เนื่องจากภาวะโลกร้อน เชื้อเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นและมีการปรับตัวตามสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับผู้บริโภคยังมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้องทำให้เชื้อแพร่กระจายง่ายและควบคุมยาก โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งในปี 2552 กระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมายป้องกันและควบคุมโรคในกลุ่มเสี่ยงชัดเจน ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก เด็กนักเรียน และประชาชนทั่วไป โดยจะมุ่งเน้นไปที่งานบุญ เทศกาลต่างๆ ซึ่งประชาชนต้องเดินทางและรับประทานอาหารนอกบ้าน รวมทั้งให้ทุกจังหวัดเริ่มป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ป้องกันโรคระบบทางเดินอาหารทั้งหมด 7 โรค ได้แก่ โรคอหิวาตกโรค โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด โรคไทฟอยด์ โรคพาราไทฟอยด์ และโรคไข้เอนเทอริก โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 ไปจนถึงจนสิ้นฤดูร้อนประมาณเดือนพฤษภาคม 2552
ด้าน นายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังโรคระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่ต้นปี 2551 จนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 พบผู้ป่วยทั้งหมด 1,190,277 ราย เสียชีวิต 42 ราย โรคที่พบมากที่สุดได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันป่วย 1,074,262 ราย เสียชีวิต 33 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ
สส.ปชป.หารือก.เกษตรฯ ชง 4 ข้อแก้ราคายางตกต่ำ
เว็บไซต์มติชน - พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ และตัวแทนเกษตรกร รวม 50 คน ซึ่งนำโดยนายไตยรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบเพื่อหาเรือการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ พร้อมทั้งเสนอ 4 แนวทางแก้ไข คือ
1. ให้มีการรับซื้อยางดิบออกจากตลาด จำนวน 5 แสนตัน
2. เริ่มรัดการปลูกทดแทนให้ได้ปีละ 4 แสนไร่
3. เจรจากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ส่งออกยางพาราที่ได้โควต้าขายยางใหม่เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มสภาพค่อง และ
4. ให้ภาครัฐนำยางพาราผสมกับยางมะตอยมาทำถนนให้มากขึ้น เพื่อลดปริมาณยางในตลาดลง
พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ข้อเสนอที่ได้รับครั้งนี้มีหลายข้อสอดคล้องกับการปฏิบัติที่กระทรวงเกษตรฯ กำลังดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอการซื้อยางออกจากตลาดนั้น เนื่องจากไทยร่วมเป็นภาคี 3 ประเทศในบริษัทร่วมทุนยางพารา 3 ประเทศ ซึ่งได้มีข้อตกลงร่วมกันจะซื้อยางออกจากตลาด ประมาณ 2 แสนตัน โดยในส่วนของประเทศไทยจะดำเนินการซื้อยางจากตลาดเพื่อเก็บสต๊อค จำนวน 1.32 แสนตัน จะดำเนินการระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2552
พล.ต.สนั่น กล่าวต่อไปว่า ส่วนการตัดโค่นต้นยางเก่า จำนวน 4 แสนไร่ ในปี 2552 นั้น ขณะนี้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) อยู่ระหว่างการดำเนินการ และจะเร่งรัดให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว สำหรับการนำยางพารามาผสมยางมะตอย ได้มีการหารือกับกระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่าจะมีสัดส่วนของการใช้ยางพารา จำนวน 5% มาผสมทำยางมะตอยเพื่อทำถนนทางหลวงและทางหลวงชนบททั่วประเทศ โดยในเรื่องนี้กรมวิชาการเกษตรได้ทดลองดำเนินการแล้วในหลายพื้นที่พบว่าได้ผลดีและมีประสิทธิภาพในการใช้งานเป็นที่น่าพอใจ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)