Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 13.00. วันที่ 1 ธ.ค. คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.) เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ ร่วมกันแถลงข่าวเนื่องในวันเอดส์โลกซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม ภายใต้หัวข้อ เรื่อง "เลิกบังคับตรวจเอดส์ในที่ทำงาน" ณ ห้อง 401 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


โดยนางสาวสุภัทรา นาคะผิว ประธาน กพอ. และผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ กล่าวว่า ในประเทศไทยหลายหน่วยงานทั้งทางภาครัฐและเอกชนบังคับให้ผู้สมัครงานและพนักงานตรวจหาเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อหลักการสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย เป็นการปฏิบัติที่สวนทางกับการรณรงค์ของทั่วโลก ที่กำลังส่งเสริมให้มีการตรวจเอดส์โดยสมัครใจ


น.ส.สุภัทรา ยกตัวอย่างการรับสมัครเข้าทำงานในสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งจะให้ผู้ที่สมัครตรวจสุขภาพก่อนโดยเฉพาะตรวจหาเชื้อเอชไอวี ถึงจะสามารถสมัครเข้าทำงานได้ ส่วนการรับสมัครตำรวจชั้นประทวนก็มีการตรวจสุขภาพโดยเน้นหาเชื้อเอชไอวีด้วยเช่นกัน


น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า ในภาคเอกชน การรับพนักงานในตำแหน่งพนักงานขาย ของบริษัทเอส พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และการรับพนักงานทำความสะอาดของบริษัทในเครือ โรงแรมทวิน ทาวเวอร์ ย่านหัวลำโพง จะมีการตรวจสุขภาพ โดยเน้นหาเชื้อเอชไอวี และอีกหลายหน่วยงานที่มีมาตรการรับพนักงานในลักษณะแบบนี้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้รับการร้องเรียนมาจากประชาชนตลอดระยะ 1 ปีที่ผ่านมา


น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า สำนักอัยการสูงสุด และหน่วยงานดังกล่าวให้เหตุผลว่า บุคคลที่จะเข้าทำงานในตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นบุคคลที่มีความประพฤติที่ดี และที่ไม่รับผู้ติดเชื้อก็เพราะอาจจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับหน่วยงาน และไม่เป็นที่ปลอดภัยของพนักงานคนอื่นๆ


นางสาวสุภัทรา กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้หน่วยงานดังกล่าวยอมรับในหลักการสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่เป็นแบบอย่าง ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดอันที่จริงเป็นผู้ที่คอยพิทักษ์สิทธิมนุษยชน แต่กลับไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นเสียเอง


ด้านตัวแทนจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อ กล่าวว่า เชื้อเอดส์เมื่อก่อนมีการพูดว่า "ติดง่ายตายไว" ซึ่งในปัจจุบันนี้ประโยคดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้ แต่จะกลับมาสู่คำถามใหม่ต่อสังคมว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อย่างไร เนื่องจากการรักษาพยาบาลทำให้เราอยู่ได้ แต่ไม่มีใครรับบุคคลที่ติดเชื้อเอชไอวีเข้าทำงาน เมื่อก่อนผู้ที่ติดเชื้อคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้ตาย แต่ในปัจจุบัน เราไม่ตายแล้วปัญหาใหม่ก็คือ เรื่องการทำงานและอาชีพ ซึ่งกลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในวัยแรงงานแทบทั้งสิ้น


ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไร เรื่องโรคเอดส์ก็ยังมีอยู่ตลอดเวลา ในปี 2552 เราจะผลักดันสิทธิมนุษยชนของผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น ทั้งนี้ การละเมิดสิทธิในเรื่องนี้เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขัดกับนโยบายเอดส์แห่งชาติ จึงอยากให้ทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ


ด้วยเหตุนี้ทางเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.) มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานดังกล่าวข้างต้นยกเลิกนโยบายหรือระเบียบปฏิบัติที่ขัดต่อหลักการสิทธิมนุษยชนและกฎหมายนี้เสีย โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะเป็นที่ประจักษ์และยอมรับกันทั่วโลกว่า การบังคับตรวจเอดส์ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ ตรงกันข้ามอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อบุคคล ชุมชน สังคม มากกว่าทั้งในด้านการป้องกันและการเข้าสู่การดูแลรักษา แม้ว่าจะตรวจพบว่าไม่ติดเชื้อในวันที่ไปสมัครงาน หรือในวันที่ตรวจสุขภาพประจำปี ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคลลนั้นจะไม่ติดเชื้อเอชไอวีตลอดไป เขายังมีโอกาสเสี่ยงหากมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี ซึ่งคนไทยเกือบ 90% ติดเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน หน่วยงานหรือสถานประกอบการจึงน่าจะจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ เข้าใจความเสี่ยงต่อเอดส์ว่าอยู่ที่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ส่งเสริมให้มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานและสังคมมากกว่า


หมายเหตุ: ผู้ที่ประสบเหตุจากการบังคับตรวจเอดส์ สามารถติดต่อได้ที่ มูลนิธิศูนย์คุ้มครองด้านเอดส์ โทร. 02-1715135-6 หรือผู้ติดเชื้อที่ต้องการคำปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย โทร. 02-3775021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net