นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงสา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กล่าวภายหลังการสัมมนาเรื่อง "การเข้าถึงโทรคมนาคมของผู้พิการทางการได้ยิน" ว่า พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของกลุ่มผู้พิการทางหูส่วนใหญ่ จะใช้โทรศัพท์มือถือในการส่งข้อความ หรือเอสเอ็มเอสเป็นหลัก  รวมทั้งการส่งเอ็มเอ็มเอสและการสนทนาบนอินเตอร์เน็ทหรือแชทผ่านโปรแกรมแคมฟรอก (camfrog) ก็เป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถสื่อสารกันด้วยภาษามือได้โดยตรง  อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้พิการทางหูยังพบปัญหาการเข้าถึงโทรคมนาคม ทั้งเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐาน เรื่องของเทคโนโลยี เรื่องของโปรโมชั่นที่มีหลายรูปแบบและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ผู้พิการตามไม่ทัน

การจัดงานครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จากกลุ่มตัวแทนผู้พิการทางหูจากทั่วประเทศ และตัวแทนจากสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย เพราะในฐานะผู้บริโภคแล้วกลุ่มผู้พิการทางหูก็ต้องเสียเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการเทียบเท่ากับคนทั่วไป แต่กลับไม่มีอำนาจต่อรองใดๆเลย

นายแพทย์ประวิทย์อีกว่า กลุ่มผู้พิการทางหูต้องการให้ผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการเครือข่ายมารับฟังปัญหาและความต้องการ เช่น การจัดให้มี call center สำหรบผู้พิการทางหูมากขึ้นในทุกเครือข่าย โดยสามารถการใช้คอมพิวเตอร์และเวบแคม เป็นช่องทางในการสื่อสาร ลูกค้าที่ใช้บริการทางช่องทางนี้ก็จะเป็นผู้พิการทางหู เป็นต้น ปัจจุบันมีอยู่เพียงเครือข่ายเดียวที่ให้บริการเช่นนี้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานสำหรับคนพิการ มีฟังก์ชั่นที่ตอบรับการใช้งานของกลุ่มผู้พิการโดยเฉพาะ เช่น คนหูหนวกมีกล้อง คนตาบอดมีเสียง เรื่องโปรโมชั่นที่กำหนดให้เหมาะสมกับการใช้งาน การกำหนดราคาค่าบริการและราคาโทรศัพท์มือถือพิเศษให้สำหรับผู้พิการ เนื่องจากพวกเขามีรูปแบบการใช้งานที่จำเพาะกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับระบบ 3G ที่จะพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต การจะพัฒนาเทคโนโลยีและการให้บริการใดๆ ก็ควรจะคำนึงถึงประโยชน์ในการเข้าถึง และอย่าลืมให้ความสำคัญกับกลุ่มคนพิการ ซึ่งก็เป็นผู้บริโภคคนหนึ่งด้วย