Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


อังกฤษถอนวีซ่า "ทักษิณ-หญิงอ้อ" ทูตแจ้งสายการบินงดให้บริการ


เว็บไซต์คมชัดลึก - เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ได้รายงานเมื่อเวลา 21.53น.ของวันที่ 7 พ.ย.โดยอ้างอิงแหล่งจากคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน (Airport Operations Committee: ACO) หรือ เอโอซี ซึ่งเปิดเผยว่า วันนี้(7พ.ย.) นายแอนดี้ เกรย์ ผู้จัดการฝ่ายติดต่อกิจการตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานพรมแดนสหราชอาณาจักร สถานเอกอัครข้าราชทูตอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ได้ส่งอีเมล์ถึงสายการบินที่เป็นสมาชิกเอซีโอเพื่อแจ้งเตือนให้ทราบว่า สำนักงานพรมแดนฯ ได้ยกเลิกวีซ่าเข้าสหราชอาณาจักรที่ถือโดย บุคคลสัญญาชาติไทยดังนี้


 



พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนังสือเดินทางไทยหมายเลข D215863 และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา หนังสือเดินทางไทยหมายเลข D206635 เพราะ วีซ่าที่ประทับในหนังสือเดินทางดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้ต่อไป จึงขอแนะนำสายการบินทั้งหลายว่าอย่าได้นำผู้โดยสารทั้งสองคนเข้าสหราชอาณาจักร


 



แหล่งข่าวกล่าวว่า หนังสือดังกล่าวทางสายการบินที่อยู่ในไทยคงจะได้รับพร้อมๆกับสายการบินอื่นๆ ทั่วโลกเท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ที่ขณะนี้อาศัยอยู่ที่ฮ่องกงไม่สามารถบินเข้าอังกฤษได้แล้วตั้งแต่ที่สายการบินได้รับหนังสือแจ้งเตือนนี้ หากสายการบินไหนฝ่าฝืนก็จะมีโทษ"



เว็บไซต้ผู้จัดการออนไลน์ได้แสดงหนังสือสถานเอกอัครข้าราชทูตอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ได้ส่งอีเมล์ถึงสายการบินที่เป็นสมาชิกเอซีโอ


 



"ณัฐวุฒิ" ประณามคนไทยขับไล่ "สมัคร" ชี้ทำภาพพจน์ไทยเสียหาย


เว็บไซต์แนวหน้า - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวประณามคนไทยที่ไปขับไล่ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีขณะเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงพฤติกรรมของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ที่ได้กล่าวบนเวทีในทำนองถากถางว่า ไม่ใช่การกระทำของวิญญูชน และไม่ใช่การกระทำของผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะเป็นการเหยียบย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทย เนื่องจาก นายสมัคร เป็นอดีตผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงอยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดการกระทำดังกล่าว พร้อมระบุด้วยว่า เตรียมนำจดหมายของ นายสมัคร ที่เขียนเล่าความรู้สึกนำมาเผยแพร่ออกอากาศทางรายการ ความจริงวันนี้ ในค่ำคืนนี้ โดยอยู่ระหว่างการติดต่อประสานงาน


 


"รสนา" บอกไม่ได้นำสามีเข้าที่ประชุมสภา แจงไม่ได้ร่วมมือ พธม.ขวางฝ่ายนิติบัญญัติ


เว็บไซต์แนวหน้า - น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา กทม. ชี้แจงในที่ประชุมวุฒิสภาเหตุการณ์ที่มีผู้ติดตามเข้าห้องประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยปฏิเสธไม่นำผู้ติดตามเข้ามายังห้องประชุม หากจะมีการสอบสวนให้สอบสวนเป็นรายบุคคล นอกจากนี้ยังไม่ได้ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขัดขวางการใช้อำนาจบริหาร และอำนาจนิติบัญญัติตามที่กล่าวหา ส่วนการไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคมนั้น เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา หากมีความผิดเหมือนกับที่ถูกกล่าวหา ตนเชื่อว่า ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา น่าจะมีความผิดเหมือนตนด้วยอีกหลายคน


 


"จาตุรนต์" ชี้ยังไม่ควรเสนอยกเลิก คปค. 27


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายจาตุรนต์ ฉายแสง หนึ่งใน111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากประเทศจีน ว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีการเสนอร่าง กม.เพื่อยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 เพื่อคืนสิทธิอดีต กก.บห.ทรท.ทั้ง 111 คน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองอันเนื่องมาจากการที่พรรค ทรท.ถูกยุบ เข้ามาในตอนนี้


 



"ตอนนี้เรามีความจำเป็นต้องแก้ไข รธน.ก่อน เพราะไม่อย่างนั้นบ้านเมืองจะเสียหายไปเรื่อยๆ การเสนอร่างกฎหมายนี้เข้ามาจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรธน. ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องรวมพลังเพื่อแก้ไข รธน.ให้สำเร็จก่อน ถ้าแก้ รธน.เสร็จแล้ว หากจะเสนอร่างกฎหมายนี้เข้ามาก็สามารถทำได้" เขากล่าว



 


อย่างไรก็ตามนายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า เรื่องการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอดีต กก.บห.ทรท.ทั้ง 111 คนนั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น มันเป็นการกระทำที่ทำให้เห็นว่าระบบยุติธรรมของประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม ซึ่งความจริงควรจะมีการคืนสิทธิ 111 คนนี้ ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแล้ว เพราะในการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนประกาศไว้ชัดเจนว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ไข รธน.และคืนสิทธิให้ทั้ง 111 คน


 



"จริงๆ เรื่องนี้ควรจะทำนานแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำ แต่พอมาถึงตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะเสนอเรื่องนี้เข้ามา ตอนนี้เราต้องแก้ รธน.ก่อน" เขากล่าวย้ำ



ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า หากแก้ รธน.เสร็จ แล้วมีเหตุให้ต้องยุบสภาไปก่อน ตนอยากให้พรรคการเมืองต่างๆแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเรื่อง 111 คนให้ชัดเจนว่า หากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลจะทำอย่างไร


 


นปช.เดินหน้าจัดความจริงสัญจร ครั้งที่ 3 ปลายเดือน พ.ย.นี้


เว็บไซต์แนวหน้า - ที่พรรคพลังประชาชน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำ นปช.และผู้จัดรายการ"ความจริงวันนี้"ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมจัดรายการความจริงวันนี้ สัญจร ครั้งที่ 3ว่า อยู่ในระหว่างที่ผู้จัดงานกำลังพิจารณาเตรียมสรุปด้านสถานที่และกำหนดวันที่ชัดเจน เบื้องต้นจะจัดภายในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้ โดยเหตุผลของการจัดงานนั้น เพื่อแสดงให้เห็นพลังของประชาชนที่รักประชาธิปไตยและไม่เห็นด้วยกับการต่อต้านรัฐประหาร ส่วนความถี่ของจัดงาน ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นหลักซึ่งผู้จัดได้หารือว่าควรจะจัดรายการสัญจรให้ถี่ขึ้น เพราะภารกิจหลักของเราคือการปกป้องประชาธิปไตย


 



นายจตุพร กล่าวถึงเสียงคัดค้านจากการเสนอแนวคิดของ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชนบางคน ให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า พรรคไม่ได่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ และจากการที่ตนได้พูดคุยกับเพื่อนส.ส.ในพรรค ทั้งกลุ่มเพื่อนเนวิน และกลุ่มอื่นๆ ไม่พบว่าจะมีการยื่นเสนอให้มีการออกกฎหมายดังกล่าวเลย ส่วนข่าวที่ออกมานั้น มองว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ยังไม่มีการปฏิบัติใดๆ ทั้งสิ้น


 



"ผมอยากให้สมาชิกพรรคตีโจทย์ให้แตกว่าปัญหาที่แท้จริงของประเทศในขณะนี้เป็นผลมาจากการรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.49 ไม่ใช่มาแก้ที่ปลายเหตุ โดยตั้งโจทย์ที่ตัวบุคคลหรือเพื่อสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เป็นปัจจัยหลัก เนื่องจากทางออกี่แท้จริงคือรัฐบาลควรฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด ถึงแม้ฝ่ายค้านและพันธมิตรจะพยายามต่อต้าน ถ้ารัฐบาลต้องการให้ประเทศพ้นจากทางตัน แต่หากเกรงใจพันธมิตรปัญหา ก็จะไม่ยุติ ดังนั้นรัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะยืนอยู่ในโลกแห่งความจริง หรือขลาดกลัวคำขู่ว่าจะเกิดเหตุรุนแรง แต่หากรัฐบาลมั่นใจว่ายืนอยู่ข้างประชาธิปไตยก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะเลื่อนกำหนดเวลาออกไปหรือเร็วหรือช้ากว่านี้ พันธมิตร ฝ่ายค้านและกลุ่ม 40 ส.ว.ก็คัดค้านอยู่ดี" นายจตุพร กล่าว


 



"อภิรักษ์" ยังไม่หลุดคดีรถดับเพลิง รอผล ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ลงมติอีกรอบ


เว็บไซต์แนวหน้า - นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวถึงกระแสข่าวที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่น่าจะพ้นการถูกชี้มูลความผิดในคดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. มูลค่า 6,800 ล้านบาท หลังอนุกรรมการ ป.ป.ช.มีมติ 9 ต่อ 0 ชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 11 คนว่ามีความผิด ว่า เรื่องดังกล่าวยังตอบไม่ได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ว่าจะเห็นอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็มีหลายคดีที่ป.ป.ช.ชุดใหญ่มีมติที่ตรงข้ามกับความเห็นของอนุกรรมการ ป.ป.ช.โดยเห็นแย้งทั้งในส่วนของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ส่วนมติจะมีการกลับมติของอนุกรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม หรือตั้งแต่ 5 เสียงขึ้นไปว่าจะมีความเห็นอย่างไร


 



เมื่อถามว่า กรณีที่นายอภิรักษ์ชี้แจงเรื่องการเปิดแอลซีว่า ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกระทรวงมหาดไทยถึง 4 ครั้ง และหากไม่เปิดแอลซีจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนตัวเห็นว่าพอจะฟังขึ้นหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้จะไปตอบแบบรายการทอล์คโชว์ถามคำตอบคำไม่ได้ ความเห็นของตนขอเป็นความลับ แต่เชื่อว่าเมื่อผลตัดสินออกมาสังคมยอมรับได้ และในการพิจารณาคดีนี้ก็ไม่รู้สึกกดดันอะไร


 


 


ความมั่นคง


 


ผกก.ขอนแก่นยันมีหลักฐานชัดก่อนจับ "ส.ศิวะรักษ์" หมิ่นสถาบันฯ


เว็บไซต์แนวหน้า - พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้น นายสุลักษ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ได้ใช้ตำแหน่งคณะบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น ประกันตัวออกไป หลังถูกชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จับกุมตัวเมื่อคืนนี้ในข้อหา หมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท และยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทนายความส่วนตัวของ ส.ศิวรักษ์ ยังคงขอสู้คดีชั้นศาล โดยเตรียมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ถึงการไม่ได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นสถาบัน ทั้งนี้ ทีมสืบสวนสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานชัดเจน ก่อนที่จะมีหมายจับต่อศาลจังหวัดขอนแก่นแม้จะใช้ระยะเวลานาน แต่ก็เป็นการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องได้หลักฐานที่แน่ชัด แม้ทางทนายจะยืนยันว่าไม่ได้รับหมายเรียก ทางตำรวจก็มีหลักฐาน ที่ยืนยันตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง


 


"วีระ สมความคิด" ยื่นหนังสือประธานศาลฎีกาให้เข้ามาร่วมเป็นผู้เสียหาย กรณี "แม้ว" จาบจ้วงศาล


เว็บไซต์แนวหน้า - ที่ศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน เข้ายื่นหนังสือถึงนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาผ่านสำนักงานเลขานุการศาลฎีกาโดยแนบเอกสารประกอบเป็นหลักฐานที่ได้ยื่นร้องทุกข์กับกองปราบปราม กล่าวโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ข้อหากระทำการดูหมิ่นผู้พิพากษาในการพิจารณาคดีดังกล่าว โดยหนังสือได้ร้องขอให้ประธานศาลฎีกาในฐานะผู้นำสถาบันศาลยุติธรรมเข้ามาร่วมเป็นผู้เสียหาย เพราะตามกระบวนการพนักงานสอบสวนกองปราบปรามคงจะมาสอบปากคำตัวแทนศาลยุติธรรมในฐานะผู้เสียหายด้วย


 



นายวีระ เปิดเผยว่าหนังสือที่ตนส่งถึงประธานศาลฎีกา มีเนื้อหาร้องขอให้ประธานศาลฎีกาติดตามความเสียหายที่เกิดกับศาลยุติธรรม เพราะหากปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเรื่อยไป ไม่เพียงองค์คณะคดีที่ดินรัชดาฯ 9 คนจะเสียหาย แต่สถาบันศาลยุติธรรมจะเสียหายไปทั้งหมด ดังนั้นหากพบว่ามีอะไรที่เป็นความผิดต้องดำเนินคดี แต่จะทำด้วยวิธีการใดเป็นสิทธิและอำนาจของประธานศาลฎีกา


 


 


เศรษฐกิจ


 


ต่างชาติผวาการเมืองวุ่นถอยซื้อหุ้นไทยหวั่นขนเงินออกยาก


เว็บไซต์แนวหน้า - นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปโรดโชว์แก่นักลงทุนต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ดูไบ เมื่อเร็วๆนี้นักลงทุนต่างระบุว่าให้ความสนใจในการลงทุนหุ้นของไทย โดยเฉพาะ ปตท.สผ.ที่มีผลดำเนินงานดีและมีความแข็งแกร่ง


 



อย่างไรก็ตามกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศระบุว่าในขณะนี้ยังไม่กล้าเข้ามาลงทุน เนื่องจากหวั่นเกรงปัญหาการเมือง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะรูปแบบใดก็เกรงว่าเมื่อลงทุนไปแล้วอาจจะนำเงินออกนอกประเทศลำบาก แต่ถ้าการเมืองในไทยนิ่ง หรือแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ นักลงทุนเหล่านี้ก็พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้ขณะนี้ตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกด้วยก็ตาม


 



นายอนนต์ กล่าวอีกว่า จากการที่ราคาน้ำมันตลาดโลกลดต่ำลง โดยล่าสุดราคาล่วงหน้าตลาดเบรนท์ของอังกฤษลดลงอยู่ที่ 58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความหวั่นเกรงเรื่องเศรษฐกิจโลกกดดันต่อการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาน้ำมันไม่น่าจะดิ่งลงไปมากกว่านี้ เนื่องจากการลงทุนผลิตและสำรวจปิโตรเลียมในช่วงที่ผ่านมามีต้นทุนสูงขึ้น ประกอบกับทางกลุ่มโอเปกจะมีมาตรการเพิ่มเติมในการดูแลราคาน้ำมัน


 



"แม้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะมีการลดกำลังผลิตลงอีกรอบ หลังจากที่ได้มีการลดกำลังการผลิตไปแล้ว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ในส่วนของ ปตท.สผ.ยังยืนยันว่ายังไม่ชะลอการลงทุนจากแผนเดิมที่ประกาศไว้ 5 ปี วงเงินลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท แต่อย่างใด" นายอนนต์ กล่าว


 


รมช.คลัง เผยรัฐบาลพร้อมเดินหน้าลงทุนหนุนเมกะโปรเจกต์ กระตุ้น ศก.ปีหน้า


เว็บไซต์แนวหน้า - นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมว.คลัง เป็นประธานเปิดงาน Money Expo Chiang Mai 2008 ครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีธนาคารและสถาบันการเงินเข้าร่วมงานกว่า 23 แห่ง เพื่อให้บริการทางการเงินและการลงทุน ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าสนับสนุนการลงทุนของภาครัฐ ในโครงการเมกะโปรเจกต์ และการเร่งรัดผลักดันโครงการต่างๆ โดยงบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้ว ซึ่งการเดินหน้าโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตรงบ 110,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอยู่ที่ 3% แต่เห็นว่าหากอัดฉีดงบประมาณตามแนวทางที่วางไว้ก็น่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจลดภาวะการว่างงานและมีเงินทุนหมุนเวียนในระบบ 1% และเศรษฐกิจปีหน้าจะอยู่ที่ 4%


 


พาณิชย์ปั้นบริการ เป็นสินค้าส่งออก ดึงเม็ดเงินเข้าไทย


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการส่งออกนัดประชุมภาคเอกชนเป็นรายสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริการเพื่อหารือร่วมกันในการจัดกิจกรรม หรือแนวทางการส่งเสริมการส่งออกสินค้าบริการไปสู่ต่างประเทศให้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะเน้นจัดกิจกรรมชวนต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการในประเทศ เช่น การเรียนมวยไทย วัฒนธรรมไทยต่างๆ และการรักษาพยาบาล


 



ทั้งนี้ ยอมรับว่าการส่งออกในปีหน้าจะดำเนินการได้ยากลำบาก เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่คิดเป็นสัดส่วน 34.7% ของการส่งออกทั้งหมดชะลอตัว และกระทบการส่งออกแน่นอน แต่เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย 10% มูลค่า 1.98 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จะต้องเน้นแผนรักษาฐานตลาดเก่าและส่งเสริมกิจกรรมในตลาดใหม่ ได้แก่ แอฟริกา ยุโรปตะวันออก อาเซียน ตะวันออกกลาง และรัสเซีย ให้มากขึ้น


 



"ผมสั่งให้กรมเตรียมการประชุม 3 ประสานคือระหว่างภาคเอกชน ภาคราชการ และภาคการเมืองต่อเนื่อง ไล่เรียงไปตามรายสินค้าและบริการ เพราะมองว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกแต่ละอย่าง 3 ส่วนนี้ต้องช่วยกันอย่างสอดคล้องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตอนนี้มองเรื่องบริการที่น่าจะช่วยหารายได้แทนการส่งออกได้มากขึ้น โดยธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ ทั้งรักษาพยาบาล และการสอนมวยไทย วัฒนธรรมไทย การทำอาหาร ทั้งแบบเข้ามาเรียนในประเทศและการเปิดสถาบันในต่างประเทศ" นายสงครามกล่าว


 



นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมจับตาปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบการส่งออกปีหน้า ได้แก่ ราคาน้ำมัน ปัจจัยนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐ ที่มีผู้นำใหม่คือนายบารัก โอบามา ซึ่งมีแนวทางการดำเนินนโยบายทางการค้า เพื่อการดูแลธุรกิจและแรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกา


 


 


ต่างประเทศ


 


โอบามาเซย์ฮัลโหลถึงผู้นำ 9 ชาติ


เว็บไซต์สยามรัฐ - นางสเตฟานี คัตเตอร์ โฆษกหญิงของพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า นายบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์ถึงบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ 9 ประเทศ ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ได้แก่ ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิสราเอล ญี่ปุ่น เม็กซิโก และเกาหลีใต้



โดยนางคัตเตอร์ ระบุว่า นายโอบามากล่าวแสดงความขอบคุณต่อบรรดาผู้นำประเทศเหล่านี้ ที่ร่วมแสดงความยินดีจากการเขาได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงแห่งพรรคเดโมแครต ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดของการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายโอบามากับบรรดาผู้นำชาติพันธมิตรต่างๆ ทั้ง 9 ประเทศในครั้งนี้


 


พิษเศรษฐกิจ!! ดีบีเอส แบงก์สิงค์โปร์เตรียมลอยแพ พนง. 900 คน


เว็บไซต์แนวหน้า - กรุ๊ป โฮลดิงส์ ธนาคารสัญชาติสิงคโปร์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมปลดพนักงานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 หลังกำไรดิ่งสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยซีอีโอ ริชาร์ด สแตนลีย์ กล่าวว่า ทางธนาคารเตรียมปลดพนักงาน 900 ตำแหน่ง หรือ 6% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกระดับขององค์กร ทั้งสาขาสิงคโปร์และฮ่องกง


 



ทั้งนี้เศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังอยู่ในภาวะถดถอย ซ้ำร้ายกว่านั้น บริษัท ลาสเวกัส แซนด์ คอร์ป ซึ่งกู้เงินจากดีบีเอสเพื่อสร้างคาสิโน ก็ยอมรับว่าทางบริษัทอาจไม่สามารถชำระหนี้คืนหากไม่สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้


 



ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 14.28 น.ตามเวลาท้องถิ่น หุ้นดีบีเอสปรับตัวลดลง 1.4% หลังร่วงลงกว่า 8.8% ในช่วงเช้า ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดระหว่างวันในรอบกว่า 7 ปี


 


พม่าพักขุดก๊าซ เขตทะเลพิพาท


ไทยโพสต์ - "บริษัทแดวู-เมียนมาร์ ของเกาหลีใต้ ได้เริ่มกระบวนการถอนเรือสำรวจน้ำมันและก๊าซออกจากน่านน้ำพิพาทซึ่งบังกลาเทศอ้างสิทธิ์ครอบครองแล้ว คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันจึงจะเสร็จสิ้น" นายอีฟเตคาร์ อาห์เหม็ด โชดรี ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศบังกลาเทศเผย โดยอ้างว่าได้รับการแจ้งข่าวมาจากรัฐบาลโซลและบริษัทแดวู เขากล่าวอีกว่าทางการบังกลาเทศยังหวังปัญหาที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายอย่างสันติ


 


ที่ย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศพม่าเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พม่าหยุดการสำรวจน้ำมันและก๊าซบริเวณทะเลพิพาทเพียงชั่วคราวเท่านั้น "เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนจุดยืน เพราะพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเรา พม่าจะเดินหน้าการสำรวจต่อเร็วๆ นี้ แต่จะย้ายไปยังอีกจุดที่แน่ใจว่าอยู่ในเขตของเราแน่นอน"


 


คณะทูตจากบังกลาเทศกำลังอยู่ระหว่างการเยือนพม่าเพื่อเจรจาระงับข้อพิพาท ขณะเดียวกันบังกลาเทศก็ได้แจ้งเรื่องนี้ให้จีนซึ่งเป็นชาติพันธมิตรที่สำคัญของทั้งสองชาติทราบด้วย ล่าสุดกระทรวงต่างประเทศของจีนออกมาเรียกร้องสองฝ่ายร่วมกันผ่าทางตันปัญหานี้อย่างเป็นมิตร


 


"จีน" เพิ่มบทบาทกู้ศก.โลก เล็งอุ้ม ปท.โลกที่ 3 มากขึ้น


ไทยโพสต์ - ที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจของผู้แทนจากลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ที่เมืองทรูจิลโลของเปรู เรียกร้องให้บรรดาประเทศกำลังพัฒนาที่ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน เพิ่มบทบาทในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจโลก ซึ่งจีนรับปากจะทำตามข้อเรียกร้องนี้ "รัฐบาลจีนพร้อมที่จะจับมือกับประเทศต่างๆ รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ปกป้องเสถียรภาพตลาดการเงิน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ" นายหลี หยง รัฐมนตรีช่วยคลังของจีนเผยในการประชุมวันสุดท้ายของเอเปก เขากล่าวอีกว่า "จีนเข้าใจดีเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจและผลกระทบที่มีต่อระบบการเงินโลก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือในระดับสากลเพื่อต่อสู้กับปัญหานี้"


 


ไอเอ็มเอฟกล่าวเมื่อวันพุธว่า ในปีหน้า ประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างจีน และอินเดียจะกลายเป็นกำลังหลักผลักดันเศรษฐกิจโลกแทนที่สหรัฐและยุโรปที่กำลังโดนพิษวิกฤติตลาดสินเชื่อเล่นงานจนเศรษฐกิจเริ่มหดตัว


 


แถลงการณ์ของที่ประชุมเอเปกระบุว่า ชาติสมาชิกจะร่วมกันปรับปรุงกฎข้อบังคับและกฎหมายที่ควบคุมตลาดการเงินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันหายนะทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ขณะเดียวกันเอเปกให้การสนับสนุนบทบาทของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกในการยกเครื่องมาตรฐานระเบียบการเงินโลก


 


ระหว่างการประชุม เจ้าหน้าที่อาวุโสจากธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟผลักดันแนวคิดการขยายจำนวนสมาชิกกลุ่มประเทศร่ำรวยที่สุด 8 ชาติ หรือ จี 8 โดยการรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อย่าง จีน อินเดีย บราซิล เม็กซิโก ซาอุดีอาระเบีย หรือแอฟริกาใต้ เข้าไว้ในกลุ่ม อย่างไรก็ดี การเพิ่มจำนวนสมาชิกดังกล่าวมีเงื่อนไขว่าประเทศกำลังพัฒนา ต้องบริจาคเงินเข้าไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกมากขึ้นเพื่อแลกกับสิทธิ์ในการออกเสียงกำหนดอนาคตขององค์กรระหว่างประเทศทั้ง 2 แห่งนี้ ขณะที่ชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดเล็กต่างก็ต้องการมีสิทธิ์มีเสียงใน 2 องค์กรนี้มากขึ้นเช่นกัน แต่ขณะนี้หลายประเทศกำลังเผชิญกับผลกระทบจากความปั่นป่วนของตลาดการเงินโลกที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการล่มสลายของตลาดสินเชื่อสหรัฐ


 


คาดว่าข้อตกลงที่ได้ในการประชุมเอเปกหนนี้ บวกกับผลการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศจี 20 ที่จะมีขึ้นสุดสัปดาห์นี้ที่บราซิล จะมีส่วนช่วยกำหนดกรอบการประชุมสุดยอดของผู้นำกลุ่มจี 20 ที่จะมีขึ้นที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net