ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 29 ตุลาคม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ การบูรณาการกองทุนหมู่บ้าน โอทอป และเอสเอ็มแอล   ว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ฟังข่าวทางสื่อ คิดว่าบ้านเมืองในขณะนี้มีปัญหาในเรื่องของความขัดแย้งและปัญหาต่างๆพอสมควร แต่โชคดีที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาช่วยแสดงความคิดและความเห็น เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้ออกมาพูดให้คนไทยสมัครสมานสามัคคี ให้มีความอดทนอดกลั้นและเสียสละ

"เรื่องเหล่านี้คิดว่า เราน่าจะปฏิบัติตาม จะทำให้สังคมของเราไม่ตองมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน รวมทั้งจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาอีก ซึ่งพล.อ.เปรมแนะนำให้เสียสละ  ท่านคงหมายถึงการเสียสละให้กับบ้านเมืองและส่วนรวมทุกคน นอกจากนี้ในวันถัดมา ก็ยังได้ฟัง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ท่านได้ออกมาให้ความเห็นที่ดีในการที่พวกเราจะมีการแสวงหาและหนทางที่จะปรองดองกัน โดยให้มีการพูดคุยเจรจาอย่างสันติวิธีต่อกัน ลดการเผชิญหน้า ซึ่งส่วนตัวแล้วตนคิดว่า เป็นทางออกที่จะนำไป

สู่ความสมานฉันท์ ความสงบสุขด้วยกัน" นายสมชาย กล่าวและว่า

ก็อยากจะให้พวกเราได้เห็นว่า ผู้หลักผู้ใหญ่มีความเป็นห่วง ต้องการให้เราได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งรัฐบาลเองก็เห็นว่า จุดตรงนี้เป็นแนวทางที่เราต้องถือไปปฏิบัติ และเมื่อมีความสงบเกิดขึ้นแล้ว เราจะได้มาช่วยกัน เหมือนอย่างวันนี้ที่ได้มาร่วมกันหารือในการช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีสติ มีสมาธิในการที่จะช่วยกันทำมาหากิน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน เมื่อเป็นเช่นนี้สังคมไทยก็จะไปได้

เมื่อถามว่า แนวทางและข้อเสนอดังกล่าว รัฐบาลจะสนับสนุนและดำเนินการด้วยวิธีใด นายสมชายกล่าวว่า รัฐบาลเห็นด้วยในวิธีการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เขาก็กำลังทำกันอยู่ ซึ่งการต่อยอดในการสร้างความสามัคคีนั้น รัฐบาลเราก็พร้อมให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเวทีไหน ใครทำ เราก็พร้อมสนับสนุน อะไรที่เราทำได้ เราก็จะทำ อย่างที่ตนบอก ข้อแนะนำของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ถือเป็นแนวทางที่ท่านได้ให้ไว้ แล้วพวกเราก็เห็นว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เกิดความสงบ รัฐบาลและทุกๆคนก็พร้อมสนับสนุนแนวทางดังกล่าว เพราะเป็นทางออก ที่เราจะได้พูดจาปราศรัยกัน แล้วจะเกิดความสงบ

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเป็นขั้นหนึ่งในการเชื่อมต่อ เพื่อให้เกิดทางออกของสังคมหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลที่จะเสนอไป อย่างวันก่อนทางสถาบันพระปกเกล้าก็เป็นผู้จัด เพราะฉะนั้นถ้ามีการเชิญรัฐบาลไปร่วม เราก็ไปได้ หรือจะเป็นองค์กรอื่นๆ โดยเฉพาะองค์กรเอกชน หากจะเป็นคนจัด รัฐบาลก็ไปร่วมได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวาระของรัฐบาลอย่างเดียว เพราะเรื่องเหล่านี้ถือเป็นวาระของคนไทยทุกคน และเห็นว่าเป็นแนวทางที่เป็นเรื่องดีและจะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย

นายสมชายกล่าวถึงกรณีบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง หรือ เพิร์ค จัดอันดับความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างเฉียบพลันเป็นที่ 2 ในเอเซีย รองจากประเทศอินเดียว่า ถือเป็นการวิเคราะห์ของ เพิร์ค

ด้านกลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทย นำโดย นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี และนายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 เพื่อเรียกร้องให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นคนกลางเชิญทุกกลุ่มเข้าร่วมเสวนา เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม โดยนายอำนวย กล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของประเทศในขณะนี้ดูแล้วทุกฝ่ายยึดมั่น ถือมั่นในความคิดของตัวเอง และวิกฤตที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเสียงข้างน้อยในสภาที่เห็นแตกต่างไปจากเสียงข้างมาก และพยายามขยายปมความขัดแย้งนอกสภา โดยนำพาประชาชนสู่กระบวนการต่อต้านอำนาจรัฐ ซึ่งเราไม่ปรารถนาให้มีการเปิดศึกแตกหัก ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด คือ ต้องผสานระบบการปกครองให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ แม้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนได้ออกมาพูดแต่ก็เป็นเรื่องในเชิงนามธรรม

"ผมในฐานะตัวแทนกลุ่มปวงชนชาวไทย และคณะส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ขอเสนอให้พล.อ.เปรม ซึ่งเป็นที่เคารพของประชาชน มีประสบการณ์ทางการเมืองยาวนาน ได้เชิญกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มพันธมิตร รัฐบาล ฝ่ายค้าน ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร. และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มาประชุมเสวนาร่วมกัน เพื่อแก้ปมความขัดแย้งในความคิดของสังคม เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการความสงบ หากกลุ่มใดไม่เข้าร่วมตามคำเชิญขอให้มีการประณามกลุ่มดังกล่าวให้ย้ายทะเบียนออกนอกประเทศไทย สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่มีความตั้งใจที่จะเสวนา เพื่อให้สังคมเกิดความสงบ แต่กลับถูกปฏิเสธและตอบโต้" นายอำนวย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพล.อ.เปรม ปฏิเสธที่จะเป็นคนกลางในการจัดเสวนา นายอำนวย กล่าวว่า ทางกลุ่มยังไม่ได้เข้าพบ พล.เปรม และหารือกับพล.อ.เปรม แต่อยากฝากสื่อเป็นตัวกลางในการเสนอข่าว ทั้งนี้ เชื่อมั่นใจว่า พล.อ.เปรม จะคลี่คลายปัญหาต่างๆได้ เมื่อถามว่า มีส.ส.ของพรรคพลังประชาชน บางส่วน มีข้อพิพาทกับ พล.อ.เปรม อยู่ นายอำนวย กล่าวว่า ถือเป็นเอกสิทธิแต่กลุ่มเราอยากเสนอทางออกให้กับบ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความสงบโดยเร็ว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอิน เข้ารายการ "ความจริงวันนี้" ในวันที่ 1 พ.ย. จะสวนทางกับแนวทางของกลุ่มหรือไม่ นายอำนวย กล่าวว่า ได้หารือกันกับส.ส.ในพรรค เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรจะโฟนอินเข้ามาและมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าอดีตนายกฯจะมีดุลพินิจ พิจารณาว่าอะไรควรหรือไม่ควร

ที่มา : คมชัดลึก