ม.ล.ปนัดดา ถามพวกจาบจ้วง "คนไทยหรือเปล่า" ลั่นเพิกถอนสัญชาติ-ทำหลักสูตรดัดนิสัย

ม.ล.ปนัดดา ดิศสกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทยเผยจะมีการตั้งคณะกรรมการเอาผิดผู้หมิ่นสถาบันทุกรูปแบบ กอ.รมน. ตั้งกรรมการติดตามเช่นกัน ส่วน "กองทัพบก" เอาด้วยเตรียมฟื้นหน่วยติดตามขบวนการละเมิดสถาบันฯ "ฉก.6080" ที่ตั้งสมัย คมช. ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีบันทึกกำชับการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

 

 

ม.ล.ปนัดดาเผย มหาดไทยจะตั้งกรรมการเอาผิดการหมิ่นสถาบันกษัตริย์ทุกรูปแบบ

ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ (27 ต.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทยนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เรียกพบ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทยฝ่ายข้าราชการประจำ เพื่อหารือข้อราชการ หลังจากนายพีรพลไปร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมือง

 

โดย ม.ล. ปนัดดา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจะมีการตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อพิจารณา สอบสวนและเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ การปราศรัย การจัดทำเว็บไซต์จาบจ้วงสถาบัน เนื่องจาก ขณะนี้กระทรวงมาหาดไทยได้รับข้อมูลจำนวนมากทั้งจากที่ประชาชนร้องเรียนมายังกระทรวงและข้อมูลที่กระทรวงมีอยู่จากการข่าว รวมถึงข้อมูลที่ได้รับจากกองปราบปรามและกระทรวงไอซีที ซึ่งพบว่าเวลานี้มีขบวนการจัดตั้งเพื่อหมิ่นสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดในเชิงไม่เหมาะสม โดยพาดพิงถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ซึ่งประทับอยู่ในคนไทยทั้งชาติมาเป็นระยะยาวนาน อันเป็นการกระทำที่สร้างความเจ็บปวดให้กับคนไทยทั้งชาติ ดังนั้นต้องมีการดำเนินการเอาผิดกับเหล่าบุคคลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

 

"การดำเนินการเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีความล่าช้า เรื่องนี้หน่วยงานทีเกี่ยวข้องไม่ว่าเป็นกระทรวง ไอซีที กองปราบปราม และกระทรวงมหาดไทย หากจะใช้กระบวนการตามกฎหมายปกติคงไม่ทันการ เห็นได้จากคนที่ไปปราศรัยพาดพิงสถาบันที่ท้องสนามหลวง ซึ่งยังไม่สามารถเอาตัวมาลงโทษได้ ที่ผ่านมาการตรวจสอบคนที่จวบจ้วงสถาบันที่กระทำการจัดทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ซึ่งเรามีข้อมูลว่ามีจำนวนมาก

 

 

ชี้คนหมิ่นเป็นคนไทยหรือเปล่า จี้ให้ถอนสัญชาติ-ทำหลักสูตรดัดนิสัย

"หรือการโพสต์แสดงความคิดเห็นด้วยข้อความไม่เหมาะสม ก็ไม่เข้าใจทำไมไม่มีการตรวจสอบ ทั้งที่ปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเป็นใคร เพราะมีกฎหมายออกมาแล้ว ข้าราชการมหาดไทยไม่ยอมเรื่องนี้ ถามว่าคนที่พูดจาพาดพิงสถาบันตอนนี้เขาเป็นคนไทยหรือเปล่า ขนาดคนต่างด้าวยังรักเจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน แต่คนพวกนี้ทำแบบนี้ได้อย่างไร อย่างวิทยุชุมชนที่มีการพาดพิง กรมประชาสัมพันธ์ต้องจัดการเด็ดขาด อย่าให้มีวิทยุชุมชนแบบนี้นอกคอก อย่าทำเรื่องไม่เหมาะสม" ม.ล.ปนัดดากล่าว

 

ม.ล.ปนัดดา กล่าวต่อว่าที่มีบางฝ่ายกล่าวโจมตี จาบจ้วงเบื้องสูงอย่างโจ่งแจ้งว่าฟังข่าวทีไร มันเจ็บปวด เป็นพลเมืองไทยในยุคนี้ในยุคโลกาภิวัตน์ บอกครอบครัวและเพื่อนร่วมชาติว่า ความอดทนมีขีดจำกัด เมื่อทนไม่ไหว บางสิ่งบางอย่างจะต้องเกิดขึ้น คนไทยไม่เคยแบ่งแยกพูดจาอะไรเช่นนี้ อย่างนี้ชัดเจน งานข่าวกรองก็บอกว่ามีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พูดหยาบคายแม้กระทั่งที่ท้องสนามหลวง พูดกับสื่อมวลชนต่างประเทศลบหลู่ดูหมิ่นประวัติศาสตร์ชาติบ้านเมืองตนเอง อยากถามว่าหัวใจเขาทำด้วยอะไร เป็นคนไทยหรือเปล่า คณะกรรมการสัญชาติอาจต้องพิจารณาถอนสัญชาติคนเหล่านี้ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน หรือไม่ก็กำหนดหลักสูตรเป็นแบบ Intensive Training อย่างกับโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ดัดนิสัยไม่ได้ก็ไม่ปล่อย ข้อนี้ละเลยไม่ได้ เพราะถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ถือเป็นแบบอย่างที่เลว เด็กจะเลียนแบบ โดยสรุป เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำให้กฎหมายบ้านเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏข้อความใดบนเว็บไซต์อันเป็นการทำร้ายจิตใจคนไทย ต้องเร่งดำเนินการทางกฎหมายทันที ร่วมกับฝ่ายตุลาการ เพราะทุกสิ่งที่ข้าราชการทำไว้ย่อมถือเป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นต่อๆ ไป ไม่ใช่หยุดไว้เพียงแค่คนรุ่นตนเสียที่ไหน

 

 

กอ.รมน. ตั้งกรรมการติดตามขบวนการหมิ่นฯ

มีรายงานว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการติดตามการกระทำอันเป็นการละเมิดสถาบันและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในสื่อทุกประเภท รวมทั้งพฤติกรรมที่ส่อไปในทางบ่อนทำลายสถาบัน ให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรอง ผอ.รมน.เป็นประธาน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ เพื่อติดตามผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อไม่ให้กระบวนการบ่อนทำลายสถาบัน ขยายวงกว้างไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเข้ายึดอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ กองทัพบกได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 จัดตั้ง ฉก.6080 เพื่อดำเนินการติดตามขบวนการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งการเผยแพร่ทางสื่ออิเลคทรอนิคส์ หรือสื่ออื่นๆ เพื่อยับยั้งการดำเนินการดังกล่าวไม่ให้ขยายตัวไปมากกว่านี้ โดยกองทัพบกจะปรับ ฉก.6080 รองรับการการปฏิบัติงานตามคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ

 

 

บันทึกข้อความ ผบ.ตร. กำชับให้ป้องกันและปราบปรามการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ส่วนมติชนออนไลน์รายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีบันทึกข้อความที่ 0035.42/ว.0091 ลงวันที่ 27 ตุลาคม เรื่องกำชับการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถ้าพบผู้กระทำผิดเป็นชาวต่างชาติ ให้ใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จัดการเพิ่ม

 

ภายหลังจากพบการกระทำที่เข้าข่ายลักษณะความผิด ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม อันเป็นการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ปรากฏทางสื่อต่างๆ อาทิ เว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ โดยเฉพาะสถานีวิทยุชุมชน รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ การพูดหรือกล่าวปราศรัยต่อสาธารณชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ

 

เพื่อเป็นการให้การป้องกันและปราบปรามเป็นไปอย่างรอบคอบ และมีประสิทธิภาพ จึงให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1-9 (ภ.1-9) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สทส.) เร่งตรวจสอบเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต และสื่อต่างๆ ที่เข้าข่ายลักษณะเป็นความผิด ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หากพบให้รีบดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ในกรณีที่พบผู้กระทำความผิดเป็นชาวต่างชาติ นอกจากดำเนินการตามกฎหมายในความผิดฐานหมิ่นฯแล้ว ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ทุกกรณี

 

โดยการดำเนินการปฏิบัติให้ สทส. เป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบ และให้การสนับสนุน รวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆ เป็นแนวทางในการปฏิบัติให้กับหน่วยปฏิบัติอื่นในสังกัดตำรวจ อีกทั้งให้ประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทำการปิดหรือสกัดกั้นเว็บไซต์ที่เข้าข่ายลักษณะเป็นความผิด และให้ทุกหน่วยที่ปฏิบัติรวบรวมผลให้ทางตำรวจ ทราบผ่านกองคดีอาญา ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน โดยให้เริ่มรายงานตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป

 

 

ที่มา: มติชนออนไลน์และผู้จัดการออนไลน์

ที่มาของภาพประกอบหน้าเว็บ: ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท