นายกิตติพงษ์ สุ่นประเสริฐ สื่อมวลชนอิสระ และ อดีตนักข่าวบีบีซี บอกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม. ) ต้องยุติการเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนงดซื้อหนังสือพิมพ์ในเครือมติชนเพราะโกรธแค้นที่ทางหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด" เสนอข่าวพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตราชสุดา สบยามบรมราชกุมารี ที่สหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับ พธม. ระบุการเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนงดซื้อหนังสือพิมพ์ในเครือมติชนเป็นการเคลื่อนไหวที่ขาดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง และ ขัดแย้งกับการนำเสนอของ พธม. ที่เรียกร้องต้องการเสรีภาพในการสื่อสารให้สื่อของตนเองคือ สถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี ซึ่งถือเป็นการคุกคามสื่อฯ แบบหนึ่ง
นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า ในทางปฎิบัติของสากล จะไม่มีการเรียกร้องให้คว่ำบาตรสื่อมวลชนโดยกลุ่มการเมือง หรือ กลุ่มเคลื่อนไหวใดๆ เพราะเคารพในเสรีภาพทางการสื่อสารและ สิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน และ ไม่อยากถูกประณามว่าคุกคามสื่อ ถ้าใครเห็นว่าสื่อนั้นๆ บิดเบือนข้อมูลข่าวสารก็ใช้วิธีร้องเรียนผ่านองค์กรกำกับดูแล, ชี้แจงความจริงผ่านช่องทางต่างๆ หรือ พึ่งขบวนการยุติธรรม แทนที่จะใช้วิธีรณรงค์ให้งดซื้อ หรือ ตามที่มีข่าวถึงขั้นมีสมาชิกพันธมิตรฯ ในบางจังหวัด ข่มขู่ไม่ให้แผงหนังสือนำสื่อเครือมติชนมาขาย
"พันธมิตรไม่มีเหตุผลที่จะคุกคามเครือมติชนเลย เพราะ ข่าวสด ไม่ได้บิดเบือน เป็นการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการแปลผิดแต่ประการใด ที่น่าแปลกคือ ผู้นำพันธมิตรเป็นสื่อมวลชนในเครือผู้จัดการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำสภาการหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลสื่อกันเอง ซึ่งเป็นช่องทางที่พันธมิตรน่าจะใช้ถ้าเห็นว่าข่าวสดลงข่าวไม่เป็นธรรม ไม่ใช่วิธีรณรงค์ให้เลิกซื้อหนังสือพิมพ์อย่างที่ทำอยู่ เพราะยิ่งทำจะทำให้สังคมเห็นว่าพันธมิตรฯ ต้องการผูกขาดการนำเสนอข่าวสารไว้เองด้วยวิธีคุกคาม เหมือนวิธีแบบ "ระบอบทักษิณ" ที่พันธมิตรฯ บอกว่าต้องการล้มล้าง" นายกิตติพงษ์ กล่าว
นายกิตติพงษ์ กล่าวสรุปว่า องค์กรวิชาชีพ เช่น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่มีจุดประสงค์ในการพิทักษ์สิทธิเสรีภาพสื่อ สมควรจะออกมาตำหนิและเรียกร้องให้พันธมิตรฯ หยุดการคุกคามดังกล่าว เพื่อรักษาเจตนารมณ์และเจริญตามรอย คุณอิศรา อมันตกุล นายกสมาคมนักข่าวฯ คนแรก ที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพของสื่อมวลชนตลอดชีวิตของท่าน