ที่มาของภาพ: สำนักข่าวเชื่อม

นับตั้งแต่รัฐบาลพม่าประกาศว่าจะเปิดให้ประชาชนนำจักรยานยนต์ใหม่มาจดทะเบียนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้ารถจักรยานยนต์อย่างผิดกฎหมายจากจีนและไทยสูงถึงวันละ 1,000 คัน

ทั้งนี้ ทางการมีกำหนดการจดทะเบียนรถใหม่ใหม่ภายในเดือนตุลาคมนี้ และจะต่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์วันละ 300 คัน โดยต้องเสียค่าจดทะเบียนรถซึ่งมีอายุ 2 ปี คันละ 270, 000 จั๊ต (7,549 บาท) 

ในขณะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีมที่ลักลอบนำเข้าจากไทยในปัจจุบันมีราคาคันละ 2 ล้านจั๊ต (58, 140 บาท) ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Kembo ที่นำเข้าจากจีนราคาอยู่ที่ประมาณคันละ 5 แสนจั๊ต (14,535 บาท)

นายหน้าซื้อขายรถในเมืองเมียวดี ฝั่งพม่าตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า มีการนำเข้ารถจากไทยส่งไปขายยังเมืองมะละแหม่ง เมืองหลวงของรัฐมอญวันละ 700 คัน โดยพ่อค้าจะต้องติดสินบนเจ้าหน้าที่หลายต่อ รวมเป็นเงินประมาณ 10,000 จั๊ต (291 บาท) นอกจากนี้ ระหว่างทางจากเมืองเมียวดีไปถึงมะละแหม่ง มีการตั้งด่านตรวจถึง 20 แห่ง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารพม่า รวมทั้งจากชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ อย่างเช่นกองกำลังดีเคบีเอ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ทำสัญญาหยุดยิงร่วมกับรัฐบาลพม่า

แหล่งข่าวตรงชายแดนอ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยเช่นเดียวกันว่า มีการลักลอบนำเข้ารถจักรยานยนต์จากจีนวันละ 200 คัน โดยก่อนที่การแข่งขันโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น มีการลักลอบนำเข้ารถจักรยานยนต์จากจีนไปพม่าถึงวันละ 500 คัน แต่ต้องหยุดชะงักชั่วคราวในระหว่างการจัดการแข่งขันโอลิมปิก เนื่องจากมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่พม่าต้องนำเข้ารถจากประเทศเพื่อนเนื่องจากไม่มีการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศ โดยรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน ญี่ปุ่นและไทย  ทั้งนี้ สถิติจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในกรุงย่างกุ้งระบุว่า ในพม่ามีรถจักรยานยนต์เถื่อนที่ไม่ได้จดทะเบียนถึง 5 แสนคัน (Irrawaddy 10 ต.ค.51)

ที่มา:

CHUEM NEWS โดย ศูนย์ข่าวสาละวิน

ติดตามสถานการณ์ในพม่าและบทความต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ www.salweennews.org