Skip to main content
sharethis

 






การเมือง


 


"บิ๊กป๊อก"จี้รัฐบาลรับผิดชอบสลายม็อบ-ย้ำทหารไม่แบ่งฝ่าย


สยามรัฐ - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์รายการ"เจาะข่าวเด่น"ทางช่อง 3 ว่า รู้สึกหดหู่และท้อใจเช่นเกนกับประชาชนทั่วไปที่เกิดเหตุการการเมืองไม่สงบเวลานี้ แต่ก็ต้องให้รัฐบาลค่อยๆคิดค่อยแก้ปัญหา สิ่งที่เป็นอดีตที่ทำให้เกิดความไม่พอใจ รัฐบาลต้องไปแก้ไขตรงนั้น ส่วนทหารและตนนั้นยืนยันไม่มีการปฏิวัติแม้มีเสียงให้ทหารออกมาคือนัยยะของการปฏิวัติ เราก็ศึกษาและดูในอดีตแล้วได้ไม่คุ้มเสีย เศรษฐกิจ-ต่างชาติไม่ยอมรับ ประสบการณ์คมช.ก็ทำให้มีการชุมนุมมีความแตกแยกไล่ ม็อบต่อต้านนาน 1 ปี 6 เดือน ขบวนเดินประท้วงถ.ราชดำเนิน ไม่มีผลดี


 



พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ อดีนรองนายกฯที่ว่าทหารเท่านั้นจะแก้ปัญหาได้โดยยึดอำนาจแล้วตั้งรัฐบาลแห่งชาติจากทุกฝ่ายแล้วรีบคืนอำนาจให้ประชาชน และระบุว่าพล.อ.อนุพงษ์อย่ากลัว ว่าตนไม่มีความกลัว อย่างไรก็ตามขอให้ท่านกรุณาแก้ปัญหาที่เกิดเหตุการณ์วันที่ 6-7 ตุลาฯให้เคลียร์ให้ได้ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลกับทหาร ทั้งเหตุการณ์รุนแรงทำให้เกิดความสูญเสียต่อประชาชนนั้น ตนว่าต้องมีผู้ที่รับผิด โดยผู้ที่สั่งการให้กระทำและรัฐบาล ซึ่งต้องรับผิดชอบอย่างไรให้อยู่นำไปพิจารณาในสิ่งที่ทำไปและหยุดการใช้ความรุนแรง


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้นปช.,และพล.อ.สล้าง บุนนาค อดีตผบ.ตร.จะนำตำรวจเก่าไปบุกยึดทำเนียบรัฐบาลคืนจากพันธมิตรฯ ผบ.ทบ.กล่าวว่า เกรงว่าตามกฎหมายไม่น่าจะทำได้ ไม่น่าเป็นไปได้ ส่วนวันที่ 7 ต.ค.ทหารไม่ออกมาเพราะตามกฎหมายไม่มีอำนาจทำได้ แต่หากถือ อาวุธออกมาอาจเกิดการปะทะกับตำรวจก็จะเกิดการรบกัน แบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายว่าทหารอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง แต่เมื่อคืนวันนี้ได้รับการประสานว่าหน้าบช.น.เกิดเหตุรุนแรงจึงขอให้ทหาร 3 เหล่าทัพออกมาช่วย จึงได้ให้ออกมาตามจุดต่างๆ


 



"ทหารจะไม่อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นทหารของประชาชน และการที่ว่าทหารไม่ออกมาช่วยประชาชนกลไกกฎมายทำไม่ได้ แต่คิดว่าอดีตทหารต้องออกมาตลอด"ผบ.ทบ.กล่าว


 



โฆษกทบ.ยันไม่ปฏิวัติ


เดลินิวส์ - พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จุดยืนของกองทัพบกที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ คือจะไม่มีการปฏิวัติเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองแน่นอน เพราะทหารไม่ต้องการสร้างความรุนแรงที่จะส่งผลให้ประเทศเสียหายหายไปมากกว่านี้


 



สำหรับกรณีทหาร 3 เหล่าทัพออกมาแก้ไขสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ทหารไม่ได้ออกมาเพื่อช่วยตำรวจทำร้ายประชาชนตามที่มีการกล่าวหา แต่ทหารออกมาเพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีเหตุเผชิญหน้ามากยิ่งขึ้น


 



โฆษกทบ. กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ โดยตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโดยเร็ว ส่วนการแสดงความรับผิดชอบอื่น ๆ นั้น ถือเป็นดุลยพินิจของรัฐบาลและนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งกองทัพไม่สามารถชี้นำได้


 


"หมอพรทิพย์" นำทีม ตรวจที่เกิดเหตุสลายชุมนุมหน้ารัฐสภา


แนวหน้า - พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบ.สำนักงานงานนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หนึ่งในคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา โดยมี นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุรชัย จันทิมาธร และผู้บาดเจ็บจากเครือข่ายชมรมศิลปิน ที่ได้รับบาดเจ็บจากตำรวจสลายการชุมนุมหน้า บช.น.ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บรายละเอียดหลักฐาน


 



พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว่า การทำงานครั้งนี้ได้แบ่งทีมเป็น 3 ชุด ตรวจสอบพื้นที่ 3 จุด บริเวณหน้ารัฐสภา บริเวณแยกถนนพิชัย ด้านประตูปราสาทเทวฤทธิ์ และแยกลานพระบรมรูปทรงม้า โดยจะตรวจสอบโดยไม่หยิบหลักฐานอื่นใดเพื่อเป็นการทำลายหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเก็บหลักฐานเพียงการบันทึกเป็นภาพถ่ายเท่านั้น ซึ่งผลการตรวจสอบเรื่องระเบิดจะใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน และไม่มีปัญหาเรื่องเวลา เนื่องจากสารประกอบระเบิดจะอยู่ได้ 2 ปี แม้ว่าฝนจะตกลงมาก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ยังมีร่องรอยที่กำแพง ส่วนประเด็นในการตรวจสอบแบ่งเป็น 1.แก๊สน้ำตาทำให้ขาและแขนขาดได้หรือไม่ ซึ่งปกติแล้วแก๊สน้ำตาตกลงพื้นแล้วจะฟู่ แต่ต้องไม่ตกลงบนตัวคน 2.ขาและมือขาดเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งจะสอบถามจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุ แต่ถ้าไม่ได้เกิดจากแก๊สน้ำตาแต่เป็นระเบิดจะเข้าไปดูเท่าที่ทำได้


 



พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนใครเป็นผู้กระทำก็ต้องตรวจสอบดูอีกครั้ง ซึ่งการประสานกับคณะกรรมการสิทธิฯ เบื้องต้นมีการตรวจดูจากศพ น.ส.อังคนา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ และผู้ได้รับบาดเจ็บหน้า บช.น.ซึ่งผลการตรวจสอบผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น 4-5 คน ไม่พบสารประกอบระเบิด ที่ตัวและบาดแผล จึงน่าเชื่อว่าเป็นระเบิด และจากการตรวจสอบ นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ศิลปินอิสระ ที่ได้รับบาดเจ็บที่ภาพข่าวปรากฏมือถือวัตถุคล้ายระเบิด ซึ่งเจ้าตัวยืนยันสามารถพิสูจน์ทราบได้ และทางสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์จะเก็บสารเคมีไปตรวจสอบ คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 7 วัน นอกจากนี้ ได้ประสานไปยังตำรวจเพื่อให้สาธิตการยิงแก๊สน้ำตาที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง


 



นอกจากนี้ จะได้รับข้อมูลจากอีก 2 จุดที่เหลือ ส่วนคนที่มือขาด ได้ใช้ จีที200 ซึ่งเป็นเครื่องตรวจสอบสารประกอบระเบิดจับบริเวณแผล พร้อมสอบถามพยานบุคคลและเพื่อนที่อยู่ร่วมกับนายชิงชัย ซึ่งเครื่องไม่สามารถชี้วัดผลได้จึงไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่ามีระเบิด ส่วนเรื่องการสาธิตยิงแก๊สน้ำตา ตนสนใจเพียงสารเคมีในแก๊สน้ำตาเท่านั้น เพราะจะสามารถตรวจพิสูจน์ได้ว่าโดนระเบิดหรือแก๊สน้ำตา ส่วนหากเป็นประทัดยักษ์หรือระเบิดปิงปองก็สามารถพิสูจน์ได้ เพราะองค์ประกอบทางเคมีจะเป็นตัวบ่งชี้ ส่วนประทัดยักษ์จะเกิดแค่รอยไหม้เท่านั้น


 



ต่อมา เวลา 16.20 น. พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้เปิดแถลงข่าวว่า ในเบื้องต้นพบสารประกอบระเบิด 2 จุด ในบริเวณที่จี๊ปเชอโรกี ระเบิดหน้าพรรคชาติไทย แถวแยกพิชัย และบริเวณริมรั้วกำแพงบช.น. ซึ่งต้องใช้เครื่องจีพี 200 ที่เป็นเครื่องตรวจสารประกอบระเบิดซึ่งมีประสิทธิภาพสูงตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้นจะส่งไปให้โรงพยาบาลรามาธิบดี ใช้เครื่องไออ้อนสแกน ตรวจสอบหาสารประกอบระเบิดอย่างละเอียดทั้งหมด



ขณะเดียวกันก็จะส่งหนังสือคำร้องไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ให้จำลองการยิงแก๊สน้ำตาทุกชนิดที่สตช.ใช้สลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค. เพื่อตรวจสอบและเปรียบเทียบสารที่ได้จากทั่วบริเวณจุดเกิดเหตุ ว่าตรงกับที่สตช.ใช้ยิงแก๊สน้ำตาหรือไม่ นอกจากนี้ก็จะประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) ให้เข้าตรวจสอบเสื้อผ้าผู้บาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งเท่าที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นกับผู้บาดเจ็บบางส่วนคนหนึ่งก็พบสารเคมีประกอบระเบิด แต่อีกคนไม่พบว่ามีสารดังกล่าว จึงน่าเชื่อได้ว่าสารอาจมีมาและเกิดขึ้นคนละครั้ง


 



พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า การตรวจสอบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จะเน้นดูแผล ถ้าโดนระเบิดบาดแผลจะเหวอะมีสะเก็ดระเบิด และละอองสารเคมี ติดตามร่างกายและเสื้อผ้า ส่วนศพผู้ตาย คงไปตรวจไม่ได้เพราะได้ส่งไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว


 



"สรุปว่าวันพรุ่งนี้(11 ต.ค.)เราจะให้กองพิสูจน์ และจะประสานไปยังสตช. ให้ยิงทดลอง และกองพิสูจน์ตรวจเสื้อผ้าผู้บาดเจ็บ คาดว่าน่าจะเลยวันอังคารไปแล้วสตช.จึงจะทดสอบให้ทราบได้" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว


 



ยื่นตีความแถลงนโยบายโมฆะพบแอบสอดไส้เพื่อให้องค์ประชุมครบ


ผู้จัดการรายวัน - นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายคณะบุคคลไปตรวจสอบการประชุมแถลงนโยบาย ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะเริ่มเห็นความไม่ปกติในการประชุมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้นับองค์ประชุม 2 ครั้งจึงครบองค์ประชุม และการตรวจสอบคนที่เข้าไปในห้องประชุมสภาฯในวันนั้น เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐสภาและสื่อมวลชนให้ข้อมูลกับพรรคอยู่ตลอดว่าน่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้น เนื่องจากการยืนยันตัวเลของค์ประชุมของรัฐสภาครั้งหลังสุดอยู่ที่จำนวน 320 คน ซึ่งมีสมาชิกเข้าประชุมเกินจำนวนกึ่งหนึ่งเพียง 9 คน และเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พรรคได้มอบหมายให้ ส.ส. 30 คนไปขอเจ้าหน้าที่รัฐสภาตรวจสอบการลงชื่อเข้าประชุมโดยตรง ซึ่งได้ข้อพิรุธและเป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อได้ว่าถ้าเป็นจริงตามนั้น การแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาจะไม่ชอบและเป็นโมฆะซึ่งหมายความว่านายกฯ แถลงนโยบายต่อรัฐสภาโดยมิชอบ ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯได้


 


ทั้งนี้ จากการตรวจพบว่ามีสมาชิกรัฐสภาเซ็นชื่อเข้าประชุมจำนวน 258 คน จากนั้นได้มีการกดบัตรเพื่อยืนยันองค์ประชุม ซึ่งปกติผู้ที่มีสิทธิ์ยืนยันองค์ประชุมด้วยการกดบัตรต้องเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมและต้องอยู่ในที่ประชุม แต่พบว่ามี 3 คนที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าประชุมแต่มีชื่อในการกดบัตรซึ่งถ้าไม่ลงชื่อเข้าประชุมก็เท่ากับว่าไม่อยู่ในที่ประชุม คือ 1.ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุขและส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน 2.นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชาชน และ 3.นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน


 


ซึ่งยังได้มีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเพิ่มอีกจากภาพการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ตลอดเวลาการแถลงนโยบาย รวมถึงสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่รัฐสภาหลายคนยืนยันกับ ส.ส.ของพรรคที่ไปตรวจสอบ พบว่าร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้อยู่ที่ประชุมรัฐสภา ตลอดการประชุมและในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมรัฐสภา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นข้อพิรุธ ผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การพิสูจน์ต่อไป โดยจะมีส.ส.ของพรรคไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดในรัฐสภาด้วย


 


ข้อเท็จจริงเหล่านี้เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า การแถลงนโยบายดังกล่าวมีปัญหาผิดพลาดในเรื่องความชอบขององค์ประชุม และความชอบในการทำหน้าที่ของ นายกรัฐมนตรีแน่นอน ข้อเท็จจริงนี้สมควรที่นายกฯควรจะยุติการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งความรับผิดชอบที่เป็นคนสั่งการให้มีการใช้กำลัง ทำให้ผู้ชุมนุมบาดเจ็บและล้มตาย เป็นข้อกล่าวหาที่ใหญ่หลวงพอที่จะมีการยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อมีข้อพิรุธ ในการประชุมเพิ่มเติม ขึ้นเช่นนี้ก็เป็นเรื่องชอบที่นายกฯ จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้


 


"สมชาย" ยกเลิกภารกิจเยือนอาเซียนไม่มีกำหนด


แนวหน้า - รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ยกเลิกการเดินทางไปเยือนประเทศในแถบอาเชียนทั้งหมดแล้ว โดยการยกเลิกครั้งนี้ ไม่มีกำหนด หลังจากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย


 


กอ.รมน.ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ พธม.


แนวหน้า - พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์การชุมนุมว่า ทางกอ.รมน.มีการตั้งวอร์รูม เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุม ซึ่งในทุกวันจะมีการรายงานสถานการณ์เข้ามายังห้องติดตามสถานการณ์ โดยจะมีการนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางกอ.รมน.ยังไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ เพราะยังไม่มีการประกาศพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย จึงถือว่ายังเป็นกลไกของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องด้านการข่าว เราได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) และหน่วยงานต่างๆที่อยู่ในกองทัพ ซึ่งขณะนี้เราทำงานได้เพียงประสานเพื่อให้ข้อมูล แต่ยังไม่มีการปฏิบัติการ


 



"สุริยะใส"แฉมีผู้สูญหาย6คน เชื่อทักษิณอยู่เบื้องหลังความรุนแรงเพื่ออ้างเหตุลี้ภัย ปูด13-14ต.ค.อาจเกิดนองเลือด


แนวหน้า - ที่สะพานมัฆงาน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่มีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย คือนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางตาได้ขอตรวจผู้ป่วยจากเหตุการณ์เมื่อวันที่7ต.ค.ที่ผ่านมาและมีผู้แอบอ้างว่าเป็นพันธมิตรฯเข้าไปขอหลักฐานรายระเอียดทั้งชื่อที่อยู่ เสื้อผ้า เบอร์โทรศัพท์ จึงจากขอเรียกร้องให้บุคลกลุ่มนี้ยุติบทบาทเนื่องจากไม่ใช่หน้าที่โดยตรง


 



นายสุริยะใสกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ตนได้รับแจ้งจากญาติว่ามีผู้สูญหายจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7ต.ค. จำนวน 6ตน โดยมีผู้พบเห็นว่าถูกตำรวจนำตัวเข้าไปใน บช.น และสภา ทั้งนี้ทางพันธมิตรฯจะมีการตรวจสอบต่อไป จะตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


 


'ปธ.สภาฯ'ระบุ 20 ตค.นี้ รู้ผลเดินหน้า'ส.ส.ร.3'หรือไม่


เดลินิวส์ - ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงที่ประชุม 4 ฝ่าย จะนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค.นี้ จะมีการเดินหน้าตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.3) ต่อหรือไม่ นั้น คงต้องรอการประชุมในวันที่ 20 ต.ค.นี้แล้วจะแจ้งให้ทราบ ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมแล้วนั้นตนยังไม่ได้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูดผ่านสื่อนั้นตนยังไม่ได้ฟัง


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า กว่าจะถึงวันที่ 20 ต.ค.นี้ คิดว่าจะทันต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ แล้วแต่ลม ฟ้า อากาศ จะอำนวย เราไม่รู้ล่วงหน้า


 



ตร.ให้ 7 แกนนำพธม.รายงานตัว 24 ต.ค. มั่นใจไม่ถูกเบี้ยว


แนวหน้า - พ.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ส.บก.น. 1 เปิดเผยหลังสอบสวนแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจำนวน 7 คน เข้ามอบตัวตั้งแต่ช่วงเช้า วันนี้ ว่า ทางพนักงานสอบสวนได้นัดแกนนำกลุ่มดังกล่าวมารายงานตัว ในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งข้อหาจะแจ้งเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับขั้นตอนสอบสวน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้แจ้งเพียงข้อหาตามที่ศาลได้ออกหมายจับให้ ทั้งนี้ไม่สามารรถบอกได้ว่าจะสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการเมื่อใด ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะสรุปสำนวนแล้วเสร็จเมื่อใด ทั้งนี้ยังเชื่อว่าวันที่ 24 ต.ค.แกนนำพันธมิตรฯทั้ง 7 คนจะมารายงานตัวตามที่พนักงานสอบนัดหมาย ส่วนกรณีที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้ชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ตำรวจไม่รู้สึกหนักใจ และที่ผ่านมาก็ได้ใช้ความละมุ่นละม่อมมาตลอด


 



"อภิสิทธิ์"จ่อฟ้องอังกฤษต้าน"ทักษิณ"อ้าง7ตุลาฯลี้ภัย


สยามรัฐ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากอัยการว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจใช้เหตุการณ์ 7 ตุลาคม เพื่อยื่นเพิ่มเติมขอลี้ภัยในอังกฤษ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าถ้ามีการอ้างเรื่องนี้จริงตนจะเรียกร้องให้รัฐบาลต้องดำเนินการต่อสู้ แต่ในส่วนของตนและองค์กรอื่นๆ ก็คิดว่าจะฟ้องประเทศอังกฤษว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้อง


 







เศรษฐกิจ


 


"ศุกร์ทมิฬ"วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ฉุดหุ้นดิ่งนรก 48 จุด


สยามรัฐ - ภาวะการซื้อขายหุ้นวันศุกร์ส่งท้ายสัปดาห์ที่ 10 ต.ค.2551 กลายเป็นวันประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต้องจากรึกวัน"ศุกร์ทมิฬ"หรือ"แบล็กฟรายเดย์"โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯตกลงไปกว่า 600 จุด ฉุดทั่วโลกทรุดตาม ขณะที่วิกฤติแฮมเบอร์เบอร์แผลงฤทธิ์ไม่หยุดลามมาถึงญี่ปุ่น บริษัทประกันชีวิตจ้องล้มละลายลงไป สำหรับตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดเช้ารูด 41 จุด และดิ่งนรกจนรอบบ่ายเกิน 50 จุดหรือ 10%ต้องหยุดทำการซื้อขาย30 นาทีแล้วมาปิดตลาดที่ดิ่งนรก 48.03 จุดหรือ 9.31% เหลือ 451.96 จุด มูลค่า 16,291 ล้านบาท


 



ธปท.ถกลดดอกเบี้ยกู้วิกฤติด่วน!จันทร์นี้


เดลินิวส์ - ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผย จะมีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันจันทร์ที่ 13 ต.ค. นี้ เพื่อหาแนวทางผ่อนคลายนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น ภายหลังธนาคารกลางทั่วโลกได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีความเป็นห่วงว่า อาจจะเกิดภาวะเงินฝืดแทน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินล่วงหน้า



ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า ธปท. ควรจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงกว่า 0.5 - 2% ในทันที และหากมีความจำเป็นธปท.ควรจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉุกเฉิน พร้อมยืนยันประเทศไทยจะไม่เกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ เหมือนปี 2540 แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองยังคงรุนแรงยืดเยื้อต่อไป ก็มีความเสี่ยงสูงที่ภาวะเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงและเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้


 







คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม


 


ม็อบบ่อนอกปิดถนนประท้วง


สยามรัฐ - กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กลุ่มคัดค้านบ่อขยะอ่าวน้อย กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก และ กลุ่มอนุรักษ์กุยบุรี ร่วมชุมนุมกันที่ศาลากลางจังหวัด จำนวนกว่า 1,500 คน ได้ออกเดินทางจากศาลากลาง ด้วยการเดินเท้าธรรมยาดตราไปตามถนนเข้าสู่ถนนเพชรเกษม เดินทางมุ่งหน้า ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดินทางมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 300 กลุ่มอนุรักษ์ ฯ ได้หยุดเคลื่อนขบวนลงนั่งปิดถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้นกรุงเทพมหานคร และ ขาล่องใต้ ทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาต้องติดเป็นแถวยาว เจ้าหน้าที่ต้องหาเส้นทางเบี่ยงเพื่อระบายรถเข้าสู่ถนนสายรอง


 



สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมต้องการพบนายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ หรือโรงงานถลุงเหล็ก ซึ่งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ยื่นเรื่องคัดค้านไว้ และครั้งนี้ได้เดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่พบและรอคอยมาเป็นเวลานานกว่า 2 วันแล้ว แต่ไม่มีการเจราจาใดๆกับกลุ่มผู้ชุมนุม มีการแจ้งเพียงว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ติดราชการอยู่ที่อำเภอหัวหิน กลุ่มอนุรักษ์จึงต้องการเดินทางไปพบผู้ว่าฯที่อ.หัวหิน แต่เมื่อเดินเท้ามาถึงตำบลบ่อนอก แกนนำประกาศจากรถขยายเสียงว่า ชาวบ้านเหนื่อยและมีคนชราเป็นลมไปแล้ว 2 คน ต้องการหยุดพักผ่อนบนถนนเพชรเกษมก่อน 1 คืน และจะออกเดินทางใหม่ในช่วงเช้าของวันที่ 11 ตุลาคม เพื่อไปพบนายปานชัย บวรรัตนปราณ ที่อำเภอหัวหิน เพื่อขอทราบผลในการคัดค้านต่อไป


 



สาวสถานบริการร้องถูกร.ต.อ.ห้วยขวางรีด 4 หมื่น


สยามรัฐ - น.ส.น้ำผึ้ง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ชาว จ.มหาสารคาม อาชีพพนักงานสถานบริการอาบอบนวดแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง รีดไถเงิน จำนวน 40,000 บาท เพื่อแลกการกับไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด แต่ภายหลังพบว่าทรัพย์สินที่อยู่ในห้องพักเกิดสูญหายไปรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท


 



น.ส.น้ำผึ้ง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งเล่นไพ่รัมมี่กับเพื่อนหญิง 1 คน และชาย 2 คนอยู่ในห้องพัก อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง ก็มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจาก สน.ห้วยขวาง และลูกน้องที่ไม่ใช่ตำรวจ รวมทั้งหมด 7 คน บุกเข้ามาในห้องพัก เมื่อเห็นว่ากำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่จึงแสดงตัวว่าเป็นนายตำรวจ ยศ ร.ต.อ. นายหนึ่งจาก สน.ห้วยขวาง เพื่อจับกุม พร้อมกับสั่งให้ลูกน้องตรวจค้นห้องพักพบอุปกรณ์การเสพยาซ่อนอยู่ นายตำรวจผู้นี้จึงถามว่ามียาเสพติดหรือไม่ เมื่อจำนนด้วยหลักฐานจึงนำยาไอซ์ จำนวน 6 กรัมมาให้


 



น.ส.น้ำผึ้ง กล่าวต่อว่า เมื่อให้ยาเสพติดกับตำรวจไปแล้ว นายตำรวจผู้นี้จึงยื่นข้อเสนอกับตนว่า หากไม่อยากถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดก็ให้นำเงิน จำนวน 40,000 บาทมาให้ ตนจึงลงไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแถวที่พักมาให้ ก่อนที่จะถูกคุมตัวไป สน.ห้วยขวางเพื่อเสียค่าปรับคนละ 500 บาทในข้อหาเล่นการพนัน ระหว่างนั้นกลุ่มตำรวจได้ขู่ไม่ให้นำเรื่องไปแจ้งความ แต่พอตนกลับมาถึงที่พัก และจัดข้าวของที่ถูกรื้อค้นก็พบว่ามีทรัพย์สินต่างๆ เช่น พระเครื่อง และเครื่องประดับ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาทหายไป แต่ตอนแรกก็ไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกลัวจะได้รับอันตรายแต่นายตำรวจผู้นี้ก็ยังโทรมาขู่อีก จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง


 



"อภิรักษ์" ยัน"BTS"ฝั่งธนฯสงกรานต์ได้นั่ง


สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 10 ต.ค.51 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.ได้ตรวจสอบความคืบหน้าของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายตากสิน 2.2 กม. และโครงการรถเมล์บีอาร์ที โดยกล่าวว่า ความคืบหน้าขณะนี้ระบบอาณัติสัญญาณแล้วเสร็จแล้ว 60% ส่วนระบบสื่อสารคืบหน้า 40% คาดจะสามารถทดลองเดินรถได้ในเดือนเม.ย.52 โดยให้ทดลองนั่งฟรี ก่อนจะเปิดใช้จริงช่วงเดือนส.ค. ส่วนเรื่องค่าโดยสารยังรอสรุปอยู่ ซึ่งได้ให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ประสานเรื่องตั๋วร่วม รวมทั้งจะเร่งรัดจุดจอดแล้วจร และรถชัตเติ้ลบัสรองรับ ส่วนสายสุขุมวิท คาดจะแล้วเสร็จกลางปี 52 เปิดเดินรถได้ต้นปี 53


 







ต่างประเทศ


 


"อาห์ทิซารี"อดีตผู้นำฟินแลนด์ พลิกคว้าโนเบลสันติภาพ2551


สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมาธิการโนเบลชาวนอร์เวย์ ประกาศมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2551 ให้แก่ นายมาร์ตตี อาห์ทิซารี วัย 71 ปี อดีตประธานาธิบดีคนที่ 10 ของฟินแลนด์ จากผลงานสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ในหลายพื้นที่มากว่า 3 ทศวรรษ เช่นการแก้ไขข้อขัดแย้งในไอร์แลนด์เหนือ เอเชียกลาง และแอฟริกา


 


สำหรับประวัติของนายมาร์ตตีนั้นเกิดเมื่อวันที่  23 มิ.ย.2480 ที่เมืองวีปูริ ปัจจุบันคือเมืองวีบอร์ก ประเทศรัสเซีย เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟินแลนด์ตั้งแต่ปี 2537 - 2543 และดำรงตำแหน่งเป็นทูตสหประชาชาติ มีผลงานเป็นตัวแทนไกล่เกลี่ยกรณีโคโซโว จนโคโซโว สามารถประกาศเอกราชจากเซอร์เบียได้ในปี 2551


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net