Skip to main content
sharethis

แถลงการณ์


เครือข่ายนักศึกษาเสรีมหาวิทยาลัยรามคำแหง


 


จากเหตุการณ์เช้าวันที่  7 ตุลาคม 2551 หน้ารัฐสภา


•  เราขอประณามการกระทำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่พยายาม สร้างเงื่อนไขนำไปสู่ความรุนแรง เรียกร้องอำนาจเผด็จการ ทำลายหลักการระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่การนำเสนอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน จนถึงการเมืองใหม่ 70:30


 


•  เราขอประณามพรรคประชาธิปัตย์ในการฉวยโอกาสจากสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อ ผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง


 


•  จากกรณีดังกล่าว รัฐบาลไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ปรากฎสู่สาธารณะ เพื่อนำไปสู่การสร้างบรรทัดฐานในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในอดีต เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 , 6 ตุลาคม 2519, พฤษภาทมิฬ, ตากใบ, กรือเซะ และอื่น ๆ


 


สุดท้าย เราขอเรียกร้องต่อองค์กรภาคประชาชนที่ยืนอยู่เคียงข้างคนจนคนด้อยโอกาสทางสังคม สร้างขั้วอิสระเพื่อให้เกิดการปฏิรูปทางสังคมนำไปสู่ผลประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชน


 


เครือข่ายนักศึกษาเสรีนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง


9 ตุลาคม 2551


 


 


แถลงการณ์ญาติวีรชนพฤษภา" 35


 


            สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียมากมาย ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นับเป็นความเศร้าสลดของสังคมไทยต่อความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ผลพวงของความสูญเสียจะเป็นบาดแผลของชาวไทยซึ่งมีประเพณีวัฒนธรรมของความรักใคร่ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และการให้อภัยมาโดยตลอด คณะกรรมการญาติฯ ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล และสังคมทุกภาคส่วน โปรดได้ใช้ความเมตตา ขันติ อดทน เพื่อให้สามารถก้าวพ้นความรุนแรงในครั้งนี้


 


            1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอให้รัฐบาลดำเนินการเยียวยาและชดเชยความเจ็บปวดทางด้านจิตใจ ต่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นเหยื่อของสถานการณ์ความรุนแรงทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้ใช้หลักเกณฑ์และการเยียวยา เฉกเช่นเดียวกับเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ"


 


            2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล ตั้งคณะกรรมการอิสระชุดเดียวกับเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อผิดพลาดของขั้นตอนการดำเนินการควบคุมฝูงชน และหามาตรการป้องกัน ระงับยับยั้งความรุนแรงและความเสียหาย ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต


 


3. ขอเรียกร้องให้สังคมไทยทุกภาคส่วน ตั้งสติ ใช้ความเมตตา ขันติ อดทน และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐานโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อก้าวผ่านความรุนแรงและความสูญเสีย ตามประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทยที่ถูกปลูกฝังจิตสำนึกของการอยู่ร่วม การให้อภัยต่อกัน ซึ่งบทเรียนความรุนแรงในประวัติศาสตร์สอนเราอยู่เสมอว่า ไม่มีฝ่ายใดกำชัยชนะบนความสูญเสีย


 


คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535


นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์


ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535


9 ตุลาคม 2551


 


 


 


แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


เรื่อง   ประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี


           


            ตามที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนกำลังผู้ชุมนุมจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และทำเนียบรัฐบาลบางส่วน เข้าชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อมิให้คณะรัฐมนตรีสามารถแถลงนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามมาตรา  176 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ในวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


 


            นอกจากนี้ยังพบว่า มีการใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมโดยตรง โดยลักษณะการยิงแก๊สน้ำตา เป็นการยิงเป็นแนวราบตรงสู่ตัวผู้ชุมนุม แทนการยิงเป็นวิถีโค้งซึ่งเป็นวิธีที่ใช้สลายการชุมนุมโดยทั่วไป   และยังพบว่ามีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในบริเวณที่มีรถพยาบาล ซึ่งโดยหลักปฏิบัติสากล แม้ในยามสงคราม  ก็จะต้องหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ที่มีหน่วยพยาบาล


 


             ในการนี้สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นองค์กรนักศึกษาที่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมือง จึงมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้


 


1.       ขอประณามรัฐบาลไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้ชุมนุม อันถือเป็นการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลอย่างร้ายแรงที่สุด ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน  หากแม้การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็ควรดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงต่อประชาชน


 


2.       เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงเกินกว่าที่สังคมไทยและประชาคมโลกจะยอมรับได้  รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสียทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สินของประชาชน  และขอให้รัฐบาล ทบทวนถึงความชอบธรรมของตนเองในการบริหารประเทศ


 


3.       ขอให้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทบทวนสรุปบทเรียนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและทบทวนถึงแนวทางการชุมนุมเคลื่อนไหวของทางกลุ่มในแต่ละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อมวลชนในอนาคต โดยยึดหลักความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของมวลชนเป็นสำคัญ


 


4.       ขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มผู้ชุมนุมอื่น ให้ชุมนุมภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และภายใต้หลักการประชาธิปไตยสากล อนึ่งสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยืนยันที่จะสนับสนุนการแสดงความคิดเห็นและการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนภายใต้กรอบของกฎหมาย


 


5.       ขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ใช้การประชุมรัฐสภาเพื่อการหาทางออกให้แก่บ้านเมือง ร่วมกันแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งอย่างจริงใจ  โดยยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำไปปรับปรุงการบริหารประเทศตามแนวทางในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง


 


6.       ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนง รักษาหลักจรรยาบรรณในการให้ข้อมูลแก่สังคมอย่างตรงไปตรงมา ยึดหลักความถูกต้องเป็นสำคัญ  และไม่เป็นเครื่องมือของกลุ่มผลประโยชน์ใดๆ


 


                                                          ด้วยความเคารพในเสรีภาพและความสันติวิธี                                                      สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


8 ตุลาคม 2551


 


 


 


แถลงการณ์คัดค้านการรัฐประหาร และขอให้ทุกฝ่ายแสวงหาทางออกโดยสันติภาพ
(
Peaceful Solution)


 


            สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐบาลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ผู้ร่วมชุมนุมเสียชีวิต 2 รายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากหลายร้อยรายนั้น คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) และเครือข่ายขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ และขอเรียกร้องต่อรัฐบาล พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และทุกฝ่ายของสังคมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้


 


            1.การดำเนินการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการดำเนินการสลายโดยผิดแบบแผนข้ามขั้นตอนและใช้ความรุนแรงเกินสมควรแก่เหตุ จนนำมาสู่เหตุการณ์จลาจลกลางเมืองหลวงและความสูญเสียทางสังคมจากเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้  เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผู้บังคับบัญชาที่สั่งการดังกล่าวจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ทั้งนี้ ในเบื้องต้น เราขอให้รัฐบาลเยียวยาสวัสดิภาพชีวิตและชดใช้ค่าเสียหายต่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ


 


            2.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาล ตั้งคณะกรรมการอิสระจากบุคคลที่น่าเชื่อถือของสังคม ดำเนินการตรวจสอบไต่สวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กรณีการดำเนินการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง การยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมโดยตรง กรณีการบาดเจ็บของผู้ชุมนุมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปัดความผิด ข้อเท็จจริงการใช้อาวุธสงคราม หรืออาวุธอื่นๆ ไม่ว่าฝ่ายใด และกรณีการระเบิดรถยนต์หน้าพรรคชาติไทย เพื่อสร้างความกระจ่างและข้อเท็จจริงต่อสังคมและสาธารณะ จนกระทั่งนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมในอนาคต โดยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดนั้น  จะต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาแก่เจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดและผู้บังคับบัญชาที่ดูแลรับผิดชอบหรือสั่งการ


 


            3.เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคม ที่ใช้มาตรการทางสังคมร่วมกดดันรัฐบาล จะต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐานโดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะการปฏิเสธคนไข้ของแพทย์จะกระทำไม่ได้ และจะต้องประติบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชนสากล


 


            4.เราขอเรียกร้องให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เสนอทางออกจากความขัดแย้งภายใต้กรอบวิถีสังคมประชาธิปไตยพื่อหลีกเลี่ยงเหตุผลจากการรัฐประหารของกองทัพหรือชนชั้นปกครอง การผลักดันการเมืองใหม่จะต้องใช้มีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายตามครรลองรัฐธรรมนูญและวิถีประชาธิปไตย ซึ่งไม่มีทางลัด และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะต้องควบคุมการชุมนุมภายใต้กรอบอหิงสาธรรมโดยเคร่งครัด หาใช่ขบวนการมหิงสาที่ใช้ความรุนแรงตอบโต้และนำไปสู่ชัยชนะบนความพ่ายแพ้และสูญเสีย การที่บุคคลใดกระทำการละเมิดหรือก้าวล่วงการใช้สิทธิทางการเมืองชุมนุมโดยสันตินั้น ให้เป็นหน้าที่ของรัฐในการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมแล้วแต่กรณีต่อไปโดยไม่เลือกปฏิบัติ


 


            5.เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาล พรรคการเมืองและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง บนครรลองวิถีของสังคมประธิปไตย ภายหลังศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำใน 2 ข้อหากบฎและสะสมกำลัง โดยไม่นำกองทัพของชาติเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ว่าจะโดยฝ่ายรัฐบาล  ฝ่ายพันธมิตร หรือฝ่ายใดและขอคัดค้านการรัฐประหารอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ ทุกฝ่ายควรทบทวนบทเรียนเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 และเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นอนุสติทางสังคม เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุการณ์วิปโยคซ้ำรอย ซึ่งนำมาสู่การรัฐประหารและฉกฉวยตั้งคณะปฏิรูปการเมืองการปกครองของอำนาจรัฐเผด็จการ


 


9 ตุลาคม 2551 ประเทศไทย


คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.)


ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD.)


 


หมายเหตุ - สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) จะจัดกิจกรรม  "เมตตาธรรม...นำสังคมไทยสู่สันติ" ในวันเสาร์ที่ 11 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 16.00น. ณ ลานปรีดี พนมยงค์ (ด้านหลังตึกโดม) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยจะมีการร่วมเจริญสติภาวนา ผ่านกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ และการจุดเทียนแห่งสันติภาพ เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมทางการเมือง แสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันในเหตุการณ์ต่างๆ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมปฏิรูปการเมืองโดยสันติวิธี ทั้งนี้ ได้เชิญชวนให้ผู้มาร่วมงานสวมเสื้อสีขาว โดยพร้อมเพรียงกัน


 


 



แถลงการณ์ถึงตำรวจชั้นผู้น้อย



การสลายการชุนนุมของกลุ่มพันธมิตร โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา  ได้ส่งผลให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตของผู้บริสุทธิ์ทุกฝ่าย ทั้งประชาชนที่เข้าร่วมในการชุมนุม ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ ความรุนแรงที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ดังกล่าวจะเป็นบาดแผลทางจิตใจร่วมกันของทั้งผู้บาดเจ็บ ประชาชน และต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการที่มีใจใฝ่สันติ

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่มีบทบาทในการสลายการชุมนุมจะถูกพิจารณาอย่างเหมารวม
จากสังคมว่าเป็นผู้กระทำความรุนแรงที่เกิดขึ้น  เราก็เข้าใจว่าพวกท่านถูกผู้บังคับบัญชาบีบบังคับให้กระทำการไปเช่นนั้น ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับคำสั่งหรือไม่ก็ตาม สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีจิตใจดีงาม ที่เห็นว่าคำสั่งไม่มีความชอบธรรม และรุนแรงอย่างไร้ความอาทร พวกท่านย่อมรู้สึกว่าถูกขืนใจให้กระทำสิ่งผิดต่อมโนธรรมสำนึกอย่างร้ายแรง

เราจึงร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับปฏิบัติการได้ตั้งสติทบทวนคำสั่งที่ได้รับจากผู้บังคับบัญชาด้วยความโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนมนุษย์ คำสั่งที่ผ่านมาและอาจจะมีอีกในอนาคตนั้นขาดความชอบธรรมแฝงด้วยความรุนแรง ไม่เป็นไปเพื่อพิทักษ์ความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน คำสั่งเช่นนี้ได้สร้างความบีบคั้นและเคร่งเครียด ทำลายความมั่นคงทางจิตใจอันดีงามที่มนุษย์ผู้หนึ่งพึงมี เราเข้าใจว่าภาวะป่วยทางจิตใจเช่นนี้ทำให้พวกท่านยากที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มีสมาธิ และมีความเมตตาได้ นอกจาก ความทรมานทางใจแล้วเรายังเข้าใจว่าพวกท่านไม่ได้รับสวัสดิการและการดูแลอย่างสมควรต่อภารกิจอันเหน็ดเหนื่อยยิ่งอีกด้วย

ด้วยความเห็นใจที่มนุษย์พึงมีต่อกัน เราจึงขอให้ท่านได้พิจารณาลาป่วย เพื่อละวางการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดต่อความเป็นมนุษย์ พักผ่อนร่างกายที่เหนื่อยล้า รักษาจิตใจเพื่อดำรงมโนสำนึกอันดีงาม จนกว่าสถานการณ์จะสงบสุขอีกครั้ง

ท้ายนี้ ขอให้ท่านที่เห็นด้วยกับแถลงการณ์นี้ ได้ร่วมลงนามของท่านต่อท้ายแถลงการณ์ และสนับสนุนการเผยแพร่โดยส่งต่อๆไป เพื่อให้เป็นที่รับทราบในวงกว้าง



                               วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

นายจงรักษ์      กิตติวรการ                         นักวิจัยอิสระ
นายปกรณ์       เลิศเสถียรชัย                      นักวิจัย สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สุดา รังกุพันธุ์  อาจารย์ประจำ                      คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ


 


 


แถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน


จากการปิดล้อมอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลา 6.20 น. ก่อให้เกิดการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นจนควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดภาพแห่งการสูญเสียทั้งทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิต ของประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ


การรายงานข่าวของสื่อ ต่อเหตุการณ์การปะทะกันดังกล่าว ได้ออกเผยแพร่ไปทุกสื่อ ไม่ว่า วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยเฉพาะสื่อที่เผยแพร่ภาพได้ อย่างโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และอินเทอร์เน็ต ภาพที่ได้เผยแพร่ออกไปเป็นภาพการใช้ความรุนแรง ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ควรให้ เด็กและเยาวชนได้เห็น ถึงแม้จะเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม และประเทศนี้


การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของผู้ใหญ่ในสังคม โดยการใช้วิธีความรุนแรง ไม่ใช้หลักการเจรจา ไม่ใช้หลักการสันติ ทำให้เด็ก และเยาวชน รับเอาความคิด ความอ่าน และหลักการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใหญ่ในสังคมใช้กัน ซึ่งก็คือ ความรุนแรงคือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด


ทางกลุ่มของเรียกร้องให้สื่อทุกแขนงพิจารณาภาพเหตุการณ์การปะทะกัน ภาพการใช้ความรุนแรง และภาพความสูญเสียที่เกิด ว่าสิ่งใดควรที่จะเผยแพร่ออกไปในสังคม มิใช่แต่เพื่อธุรกิจ หรือเพื่อการเสนอข่าวที่ฉับไว และเที่ยงตรงเท่านั้น


ขอให้ทางสื่อสารมวลชนทุกแขนงคิดถึงกลุ่มเด็ก และเยาวชนที่กำลังบริโภคสื่อ บริโภคข่าวสาร


เด็ก และเยาวชน คือบุคคลที่เป็นบุคลากรที่สำคัญของสังคมในภายภาคหน้า หากเด็ก และเยาวชนได้รับภาพของการใช้ความรุนแรงทุกวัน ทุกเวลา ที่เปิดชมสื่อ อนาคตของชาติจะเป็นเช่นไร


ทางกลุ่มหวังว่านักสื่อสารมวลชน สื่อสารมวลชนทุกแขนงจะคิดและเห็นใจกลุ่มเด็ก และเยาวชน


กลุ่มเยาวชนเกอตีเตร์
เพื่อสิทธิเด็ก และเยาวชนในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้


 


 


แถลงการณ์ฉบับที่ ๑ เรื่อง


ขอประณามรัฐบาลสมชายเหี้ยม หยุดทำร้ายประชาชน


 


            จากเหตุการณ์ที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจรัฐ ใช้กำลังตำรวจปราบจราจลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในทางมิชอบ เข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา โดยใช้อาวุธหนักเข้าปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน จนทำให้มีประชาชนผู้ร่วมชุมนุมบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ในระหว่างเดินทางไปชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา และบริเวณใกล้เคียง


            และยังกระทำซ้ำๆ ตลอดทั้งวันทั้งที่ควรยุติได้ตั้งแต่เริ่มมีประชาชนบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังแสดงท่าทีปัดความรับผิดชอบ ไม่ยี่หระต่อกระแสทางสังคมใดๆทั้งสิ้น


            สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ และเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เห็นว่า การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของประชาชนสามารถกระทำได้ การใช้กำลังอาวุธเข้าปราบประชาชนอย่างโหดเหี้ยมผิดหลักปฏิบัติที่ยอมรับ จงใจวางแผนลัดขั้นตอนวิธีการควบคุมฝูงชน เพื่อปราบประชาชนจนเกิด ผู้บาดเจ็บ พิการ ขาขาด ล้มตาย แล้วยังกระทำซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแกนนำรัฐบาลทุกพรรคขาดมโนธรรมสำนึกขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง  และการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นอกจากกระทำไปท่ามกลางกองเลือด ชิ้นเนื้อ และชีวิตของประชาชนในประเทศของตนเองแล้ว นโยบายที่แถลงก็เต็มไปด้วยการแบ่งปันงบประมาณของชาติเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องตนเอง ไม่มีนโยบายใดเลยที่เอื้อประโยชน์ต่อชาวประมงพื้นบ้าน และประชาชนส่วนใหญ่แต่อย่างใด เป็นการแถลงนโยบายแบบขอให้ผ่านไปที


            สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้และเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ขอประณามการกระทำอันโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนและขาดมนุษยธรรมของรัฐบาลนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในครั้งนี้  และเราขอเรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินการ ดังนี้



  1. รัฐบาลต้องยุติการทำร้ายประชาชนโดยทันที

  2. รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยการลาออกทั้งคณะโดยทันที

  3. หน่วยงานด้านสิทธิและกระบวนการยุติธรรมต้องมีการดำเนินคดีต่อนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีทั้งคณะและผู้เกี่ยวข้อง ในข้อหาเข่นฆ่าประชาชนโดยเจตนา

     


      สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้และเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ขอเรียกร้องสังคมทุกภาคส่วนร่วมกันประณามการกระทำที่ไร้มโนธรรมสำนึกของรัฐบาล และร่วมกันสร้างแนวทางการเมืองใหม่ สังคมใหม่ ปลอดทุนนิยมสามานย์


 


๘ ตุลาคม ๒๕๕๑


สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้


เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net