ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมธ. กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐ เอกชน และมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)ประมาณ 30 แห่งจากทั่วประเทศ ว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างอธิการบดีทั่วประเทศเห็นพ้องร่วมกันให้ออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนี้
1.ขอให้รัฐบาลหยุดการดำเนินการใดที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง ในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ ขอให้อยู่ในที่ตั้งและไม่เคลื่อนไหวใดๆ ที่อาจจะนำไปสู่การปะทะกันเกิดขึ้น
2.ขอให้นายกฯใช้ดุลพินิจพิจารณานำความกราบบังคมทูลเพื่อออก พ.ร.ฎ.ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่
3.ขอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าฝ่ายใดจะต้องรับผิด
4.ขอให้ทุกพรรคการเมืองเข้าสู่ระบบการเลือกตั้งภายหลังการยุบสภาโดยขอให้ทุกพรรคประกาศนโยบายที่ชัดเจนว่า จะดำเนินการปฏิรูปการเมืองอย่างไร โดยขอวิงวอนต่อนายกฯให้ใช้ดุลพินิจโดยคิดถึงประโยชน์และความเสียหายของชาติบ้านเมืองเป็นหลักเพราะเกรงว่าในอีก 1-2 วันข้างหน้า จนอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2 อย่างไรก็ตามยืนยันว่าขอเรียกร้องดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คำนึงถึงความได้เปรียบหรือเอาชนะกันทางการเมืองแต่อย่างใด
ส่วนคณาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกแถลงการณ์ประณามการสลายการชุมนุมของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า เป็นการแสดงพฤติการณ์หน้าเนื้อใจเสือ และไม่ขอยอมรับรัฐบาลมือเปื้อนเลือด ให้บริหารประเทศอีกต่อไป รวมทั้งส.ส.และส.ว.ที่เข้าร่วมประชุมสภาอัปยศ ที่มุ่งตอบสนองผู้มีอำนาจเป็นการสร้างบาดแผลลึกในจิตใจประชาชนจนยากที่จะให้อภัย จึงขอให้ทหารเข้ามาดูแลความสงบโดยไม่ทำรัฐประหารและไม่สนับสนุนให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เช่นเดียวกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์(นิด้า) ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยระบุว่ารัฐบาลและรัฐสภาหมดความชอบธรรม ในการบริหารประเทศแล้ว ขณะที่มูลนิธิ 14 ตุลา ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบและต้องลาออกและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
ลุ้นศาลสั่งคดีเพิกถอนหมายจับคดี 9 กบฎ
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 8 ตุลาคม มีคำสั่งนัดคู่ความฟังคำสั่งอุทธรณ์ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานฯ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาที่ 1-9 ในข้อหากบฏ และข้อหาอื่นรวม 5 ข้อ ตามประมวลอาญา มาตรา 113, 114, 116, 215 และ 216 ยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนหมายจับ ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 714
นายณฐพร โตประยูร ทนายความ 9 พันธมิตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากศาลให้ฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์วันที่ 9 ต.ค.แล้ว โดยจะไปฟังคำสั่งด้วยตนเอง ส่วน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมฯ ผู้ต้องหาที่ 7 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลไม่จำเป็นต้องเบิกตัวมาฟังคำสั่งแต่อย่างใด เนื่องจากทนายความเป็นผู้รับมอบอำนาจแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับนั้น แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งให้เพิกถอน แต่กระบวนการถือว่ายังไม่สิ้นสุด เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีสิทธิ์ยื่นฎีกาคัดค้านได้ เช่นเดียวกับกรณีถ้าศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องเพิกถอนหมายจับ ฝ่ายผู้ต้องหาสามารถยื่นฎีกาได้ภายใน 30 วัน
ศาลปกครองรับไต่สวนฉุกเฉิน
ส่วนที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ เวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 ต.ค. นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ รับมอบอำนาจจากนายดนัย ตั้งคุณธรรม, นายสัมพันธ์ โกศิริสัญต์, นายประทีป ศรีเรือง, นางจิตรกุล นกแก้ว, นายสมพงษ์ สิทธิหัตถการ และนายจตุภัทร์ ระหาร ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการสลายผู้ชุมนุม ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อศาลปกครอง ใช้อำนาจหน้าที่กระทำการปกครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเกินความจำเป็นแก่เหตุ ทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 150 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขาขาด 1 ราย ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ยุติการกระทำ สั่งไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราว
ขณะเดียวกัน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. และนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้มาเป็นผู้ร้องสอดเป็นผู้ฟ้องร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บด้วย น.ส.รสนาระบุว่าตั้งใจจะมายื่นฟ้องในวันที่ 9 ต.ค. แต่เมื่อได้ยินข่าวว่าจะมีการสลายผู้ชุมนุมในคืนวันที่ 8 ต.ค.อีก จะต้องมาร่วมฟ้องขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวเพื่อไม่ให้รัฐบาลใช้อาวุธทุกอย่าง ซึ่งศาลปกครองได้มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินในเวลา 16.30 น. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใดตกลงมา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ยืนยันว่าขณะนี้ ส.ว. 15 คน เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ถือหุ้นในบรษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานของรัฐ โดยดำเนินการต่อจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ตรวจสอบไปแล้ว
เรียบเรียงจาก : สยามรัฐและไทยโพสต์