Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปกครอง สุนทรสุทธิ์ ประธานกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีร้องเรียนการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง พร้อมด้วยกรรมการสอบสวนชุดเดียวกัน แถลงถึงมติ กกต.และผลการสอบสวนกรณีที่ พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย อดีตผู้บังคับการตำรวจป่าไม้และนรต.26 เพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร้องเรียน กกต.กรณีที่มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส.เกินกว่าที่กำหนด และกรณีที่มีการนำบัตรเลือกตั้ง ส.ส.ที่พิมพ์เกินไปเปลี่ยนกับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในพื้นที่ กทม.


 


โดยนายสุทธิพล กล่าวว่าที่ประชุม กกต.เมื่อวันที่ 25 ก.ย.เห็นควรให้ยกคำร้องและยุติเรื่อง หลังจากพิจารณาผลการสืบสวนสอบสวน จากกรรมการที่ กกต.ตั้งขึ้นมาดำเนินการตรวจสอบ โดยมีนายปกครอง สุนทรสุทธิ์ เป็นประธานกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวสรุปผลการพิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า ไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง หรือผู้ใด กระทำการจงใจไม่ปฏิบัติต่อหน้าที่ ทุจริต หรือกระทำการอื่นใด เพื่อขัดขวางไม่ให้การเป็นไปตามกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งของ กกต.และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใด ทำลายทำให้เสียหาย ทำให้เปลี่ยนสภาพ หรือทำให้ไร้ประโยชน์ หรือนำไปซึ่งบัตรเลือกตั้ง โดยไม่มีอำนาจ โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีการฝ่าฝืนตามมาตรา 20 และมาตรา 80 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มา ซึ่ง ส.ว.แต่อย่างใด ส่วนประเด็นกล่าวหาว่ามีการเผาทำลายบัตรเลือกตั้งนั้น ข้อเท็จจริงมีว่า บัตรเลือกตั้งที่ถูกเผาทำลายเป็นบัตรเลือกตั้งในปี 2548 ไม่เกี่ยวข้องกับบัตรเลือกตั้งในปี 2550 แต่อย่างใด จึงเห็นควรยกคำร้อง ซึ่ง กกต.พิจารณาผลการสรุปของคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ


 


นายสุทธิพลกล่าวว่า หลักจากนี้ กกต.จะดำเนินการจัดสำเนาเอกสาร พร้อมทั้งร่างคำวินิจฉัยทั้งหมดส่งไปให้ พล.ต.ต.เสวก ผู้ร้อง และเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการทั้งหมด กกต.ได้ส่งคำวินิจฉัยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ด้วย อย่างไรก็ตามทาง กกต.ได้จัดทำวีซีดีเนื้อหาขั้นตอนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง การจัดเก็บควบคุมดูแล รวมถึงการประกวดราคา กว่าจะได้บริษัทที่เข้ามาดำเนินการพิมพ์บัตร โดยมีความยาว 19 นาที ซึ่ง กกต.จะดำเนินการแจกจ่ายให้ กับ กกต.จังหวัด สื่อทีวีทุกแขนง รวมทั้งเผยแพร่ทางเวบไซต์ของ กกต.เพื่อให้สังคมได้รับทราบ ส่วนสาเหตุที่ต้องจัดซีดีครั้งนี้ เนื่องจากกรณีดังกล่าวดูนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งดูจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง มากกว่า กกต.ชุดอื่นๆ ทั้งที่ทำงานตามกฎหมาย อาจทำให้ผลทางการเมืองที่ออกมาไม่เป็นที่ถูกใจของผู้มีอำนาจ จึงจำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชนให้เข้าใจ ในเรื่องความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้


 


เมื่อถามว่า ดีเอสไอ ได้ตั้งกรรมการสอบ กกต.ในเรื่องดังกล่าว นายสุทธิพลกล่าวว่า ขณะนี้ทาง กกต.ได้ทำเอกสารส่งไปตามที่ดีเอสไอร้องบางส่วนแล้วหลังจากดีเอสไอทำหนังสือร้องขอผ่านมาทางนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ทั้งนี้เราไม่ได้ชักช้าตามที่ถูกกล่าวหา แต่เราต้องขอเวลาในการตรวจสอบเอกสารที่จะจัดส่งให้ดีเอสไอ เราพร้อมให้ความร่วมมือ แม้ กกต.จะยุติการตรวจสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วก็ตาม ทั้งนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ระยะเวลาในการตรวจสอบของดีเอสไอนั้นเกิน 30 วันนับจากวันที่ผู้ร้องได้ยื่นคำร้อง ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะส่งผลให้ดีเอสไอไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว


 


"หน่วยงานใดที่ทำงานตามอำนาจทางการเมือง ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาตามอำนาจทางการเมือง ขณะที่หน่วยงานซึ่งทำงานด้วยความโปร่งใส แม้ว่าอำนาจทางการเมืองผ่านพ้นไปแล้ว หน่วยงานนั้นก็ยังคงอยู่ได้ ในส่วน กกต.เป็นองค์กรอิสระที่ ไม่ได้ทำงานตามอำนาจทางการเมือง" นายสุทธิพลกล่าว


 


เมื่อถามว่า กรณีที่บัตรเลือกตั้งหายไป จนเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนต่อดีเอสไอทำให้กกต.เสียหาย นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการ กกต.ด้านบริหารกลาง ในฐานะประธานกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีบัตรเลือกตั้งหาย กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย และต้องรับผิดชอบ มีอยู่ด้วยกัน 2-3 คน ซึ่งได้เสนอผลสรุปถึง กกต.แล้ว ดังนั้นเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่ กับ กกต.ว่าจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทางวินัย ต่อไปอย่างไร


 


"เรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึงคนที่นำเรื่องไปร้องต่อ ดีเอสไอ เนื่องจากบัตรเลือกตั้งที่ถูกนำไปเป็นหลักฐานร้องต่อ ดีเอสไอ ไม่ใช่บัตรเลือกตั้งใน กทม. ตามคำร้องเรียน แต่เป็นบัตรเลือกตั้งของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และนครราชสีมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งใน กทม." นายสมชาติ กล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net