พันธมิตรฯ-รักเชียงใหม่ 51 เผชิญหน้า-ปาหินเจ็บทั้งสองฝ่าย

วันที่ 28 ก.ย.51 เวลา 19.00 น. นายสุริยะใสกตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า กระบวนการมือตบของประชาชนที่ตามไล่ล่าคนในรัฐบาล เพื่อแสดงการต่อต้านรัฐบาลนอมินี ตนเห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมานาน กว่า 3-4 ปีแล้ว ซึ่งกระบวนการดังกล่าว เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปลายเหตุ โดยต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริงคือความขัดแย้งทางสังคมระหว่างคนที่ชอบ กับ ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จากนี้ไปถ้ายังมีนายกฯ ที่ยึดโยงกับระบอบทักษิณ สถานการณ์แบบนี้ก็ยังไม่จบ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าปรากฏการณ์เช่นนี้ไร้การจัดตั้ง และไม่ได้มีคำสั่งจากแกนนำ แต่เป็นการใช้มาตรการกดดันทางสังคม กับรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม และประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ ซึ่งถือว่าเป็นอารยะขัดขืน อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงว่าสถานการณ์อาจจะบานปลายไปสู่ลักษณะที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเวลารัฐมนตรีลงไปในพื้นที่ก็อาจจะจัดตั้งมวลชนเข้าคุ้มกัน จนอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าที่รุนแรง และนำไปสู่การแตกแยกรอบใหม่

 

เชื่อว่าปรากฏการณ์กระบวนการมือตบจะลามไปยังรัฐมนตรีคนอื่นๆแน่นอน จึงขอให้นายกฯ เห็นความถูกต้องมากกว่าผลประโยชน์ และให้เริ่มส่งสัญญาณความสมานฉันท์ และจริงใจ เพราะคนรอบข้างนายกฯ ขณะนี้ยังเป็นหัวโจกของความขัดแย้ง สื่อของรัฐก็ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือ จนทำให้ฝ่ายต่อต้านมีอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรห้ามไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิแต่ก็ช่วยเร่งหาทางออกไม่ให้บานปลาย นายสุริยะใสกล่าว

 

นายสุริยะใสกล่าวต่อไปว่า อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงวุฒิภาวะการเป็นผู้นำให้ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา เพราะขณะนี้เรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ หรือเรื่องยกเลิกพาสปอร์ตแดง ของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่มีความชัดเจน เอาแต่โยนให้กระทรวงต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนข้อเสนอของ 24 อธิการบดีนั้นนายกฯ ก็ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจน เพราะในวิกฤติขณะนี้ประเทศชาติต้องการผู้นำที่กล้าหาญ มีคุณธรรม

นายสุริยะใสกล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอ 24 อธิการบดีที่จะทำให้การเมืองใหม่เป็นวาระแห่งชาติ แต่ปัญหาคือ เจ้าภาพ ที่เป็นรัฐบาลหมดความชอบธรรมไปแล้ว จึงอยากตั้งคำถามว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่

 

ส่วนความคืบหน้าในการเจรจากับรัฐบาลนั้นผู้ประสานงานพันธมิตรฯกล่าวว่า มีคนสนิทของ พล.อ.ชวลิตยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ประสานเข้ามายังตน ซึ่งตนได้แจ้งให้กับแกนนำได้รับทราบแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ทั้งนี้ การเจรจาก็อยู่บนเงื่อนไขคือ ผู้เจรจาจะต้องมีอำนาจเต็ม และรัฐบาลต้องไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งมีแนวทางรองรับการเมืองใหม่ให้ชัดเจน

 

 

ปะทะเดือดพธม.-ม็อบเสื้อแดงปาหินเจ็บ1ที่เชียงใหม่

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 28 ก.ย. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต  วัฒนพงศ์ศิริกุล ซึ่งได้เปิดเวทีปราศัยโจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกับสมาชิกรถสี่ล้อแดงจากสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด และชมรมรถตุ๊กตุ๊กรวมกว่า 300 คน เคลื่อนขบวนไปปิดทางเข้าหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ต.หายยา อ.เมือง  จ.เชียงใหม่ ซึ่งภายในมีการเปิดเวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่ นำโดยนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา

 

กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้นำรถสี่ล้อแดงจอดปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน พร้อมจัดกำลังมวลชนชายฉกรรจ์ร่วมร้อยคนสวมเสื้อแดง พร้อมพกท่อนไม้ และก้อนหินเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ขณะที่กลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่ได้รวบรวมการ์ดและมวลชนได้ประมาณ 50 คน เดินเรียงแถวเผชิญหน้า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้สั่งกำลังสายตรวจ พร้อมประสานขอกำลังไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) เข้ามารักษาความเรียบร้อย โดยให้เจ้าหน้าที่กั้นกลาง ระหว่างสองกลุ่มเพื่อป้องกันการปะทะกัน

 

การเผชิญหน้าครั้งนี้เนื่องจากทั้งสองกลุ่มได้ประกาศจุดยืนที่แตกต่างกันและยังมีการโจมตียั่วยุฝ่ายตรงข้ามผ่านสถานีวิทยุชุมชนของทั้งสองกลุ่ม โดยกลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวโจมตีว่ากลุ่มรักเชียงใหม่สมคบวางแผนต่อต้านล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังโจม กล่าวโจมตีพันธมิตรเชียงใหม่ว่า เกณฑ์คนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาสร้างความไม่สงบในจังหวัดเชียงใหม่

 

นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำฝ่ายคนรักเชียงใหม่ 51 เสื้อสีแดง เปิดเผยว่า กลุ่มของนายโต้ง ที่อ้างตัวเองว่าเป็นพันธมิตรภาคเหนือออกอากาศทางคลื่นวิทยุชุมชนว่า กลุ่มพวกตนที่อยู่หลังวัดพระสิงห์หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรสจะล้มล้างสถาบัน ทำให้พวกตนอยู่กันไม่ได้ จึงนำกำลังทั้งหมดมาเพื่อให้พวกนายเทอดศักดิ์ถอนคำพูดและขอโทษที่กล่าวหากันแบบนี้ทำให้พวกตนเสียหายมาก

 

โดยฝ่ายที่อ้างตัวว่าเป็นพันธมิตร มีอดีตนายพลทหารคนหนึ่งร่วมอยู่ด้วย และมีทหารลูกน้องมาสมทบจำนวน 20 นาย ทั้งนี้ แต่ละฝ่ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการขว้างก้อนหินใส่กัน ศีรษะแตกไปข้างละ 1 คน

 

กระทั่งในเวลาประมาณ 20.30 น. แกนนำทั้งสองกลุ่มได้เข้าเจรจาตามคำร้องขอของตำรวจ กระทั่งได้ข้อสรุปว่าต่างฝ่ายต่างดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน และทั้งสองฝ่ายได้สลายตัวไปในที่สุด ขณะที่นายเทอดศักดิ์ ยืนยันผ่านรายการวิทยุว่า จะแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ในข้อหาบุกรุกและทำร้ายร่างกาย        

 

----------------------------

ที่มา: เว็บไซต์คมชัดลึกและข่าวสด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท