Skip to main content
sharethis

พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "พรุ่งนี้ประเทศไทย" ตอนหนึ่งว่า ทุกคนห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังมีปัญหา แต่ตนกลับมองว่าประเทศไทยกำลังก้าวหน้า เพราะความขัดแย้งกำลังจะสร้างสิ่งที่ดีในอนาคต ทั้งนี้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเพราะการปกครองที่ไม่เป็นธรรม และไม่ใช่การปกครองของประชาชน เพราะในระบอบประชาธิปไตยจะต้องเป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น


 


การปกครองที่ไม่เป็นธรรมเป็นพื้นฐานความขัดแย้งของสังคม วันนี้ใช้แค่ไม้หน้าสามตีกัน ตายไป 1 คน สถานการณ์มันเบา อย่าตกใจ เพราะสมัยก่อนรุนแรงขนาดไหนยังแก้กันได้ บ้านเมืองเราตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง สังคมเราไม่เคยห่างเหินจากความขัดแย้งที่มีอยู่ตลอดเวลา วันนี้แนวร่วม นปช. มองกลุ่มพันธมิตรฯว่าเป็นเผด็จการ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไปยึดทำเนียบฯ ส่วนพันธมิตรฯก็ชี้ว่า กลุ่ม นปช.โกงเลือกตั้งเข้ามา และแย่งเข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่มีใครพูดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร


 


พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแก้ได้ ถ้าแก้ปัญหาการปกครอง ที่ไม่เป็นธรรมไม่ได้ความขัดแย้งอย่างนี้ต้องเกิดขึ้นอีก การแก้ปัญหาการปกครอง ที่ไม่เป็นธรรมคือ ต้องสร้างรัฐบาลที่เป็นกลาง สามารถมีรูปภาพในการแก้ปัญหาได้ การแก้ปัญหาการเมืองการปกครองต้องใช้สถาบันที่มีอำนาจ 3 สถาบัน คือ 1 สถาบันกษัตริย์ 2.สถาบันทหารที่ก้าวออกมา ขึ้นมาเป็นรัฐบาลรักษาการ เพื่อรักษาสถานการณ์ไม่ให้รุนแรงไปกว่านี้ ซึ่งเสียดายเวลาปีเศษที่เกิดขึ้น และ 3 คือรัฐบาล


 


ที่ผ่านมานายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ท่านไม่แก้ และสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นมาอีก ทั้งที่รัฐบาลต้องมีขีดความสามารถในการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ คนที่ควรจะแก้กลับไม่แก้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงต้องลุกขึ้นมาแก้


 


พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เราต้องมองคนกลุ่มนี้ให้เข้าใจความรู้สึกว่าเขาทนไม่ได้กับการเมืองที่มาจากการซื้อเสียง และมาโดยไม่ถูกต้อง เพราะตัวแทนต้องเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์ ไม่ใช่เอามาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่ใช่ใครมีเงินก็จะเอาตัวแทนมาจากไหนก็ได้ การที่เขาเสนอประชาภิวัฒน์ เพราะเขาต้องการให้อำนาจประชาชนมีอย่างแท้จริง เมื่อเสนอ 70-30 ไป เราก็ไปหัวเราะเขา วันนี้คนเบื่อเลือกตั้ง นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็หายใจไม่ทั่วท้อง เพราะประชาชนอยากให้ท่านตั้งรัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้นมา


 


ซึ่งสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ เสนอตรงกับความต้องการของประชาชน แต่ต้องมาพุดคุยกันแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ต้องปรับเข้าหากัน เขาอยากอยู่ทำเนียบฯก็ให้เขาอยู่ไป หัวใจเขาคือ อยากให้การเมืองบริสุทธิ์ วันนี้มีคนต่อว่าเขาเยอะ ผมสงสาร เราให้ความเข้าใจเขาเถอะ เพราะพวกเขาเป็นคนดีแม้จะด่าผมมากแต่ผมก็เฉยๆ


 


พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ความจริงเขาพูดถูก แต่พูดไม่เป็น ทุกวันนี้ต้องใช้เวลา ในการปรับปรุงพี่น้องประชาน คือการให้การศึกษา ซึ่งยังไม่ได้ทำอย่างเต็มที่ จะเห็นได้ว่าเราต้องการเวลา หากเราไม่มีรัฐบาลเฉพาะกาล เรามีนายสมชาย ก็ต้องช่วยท่าน เราต้องเอากลุ่มพันธมิตรฯมาพูดคุยกัน เราต้องแก้หลักเกณฑ์ ไม่อย่างนั้นกลับไปสู่อย่างเก่า


 


การสร้างการปกครองที่เป็นประโยชน์เพื่อประชาชน ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ให้ได้ หากเลือกตั้ง 50-50 ครึ่งหนึ่งเลือกตั้ง อีกครึ่งหนึ่งเลือกจากกลุ่มคนได้ไหม ซึ่งหากทำจริงจะต้องนำกลุ่มพันธมิตรฯ นักวิชาการ มาคุยกัน ตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจใช้เวลาเร็วที่สุด 5-6 เดือน เมื่อเสร็จก็เลือกตั้งใหม่เพื่อให้การเลือกตั้งยุติรรม และได้รัฐบาลที่ดี ไม่ต้องกลับไปเสียเวลา ยุบสภาและเสียเวลาไปอีก3-4 เดือน ใช้รัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีอยู่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เป็นปัญหาพื้นฐานให้ได้ตามแนวทาง บ้านเมืองจะได้สงบสุขสักที


 


ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการจะปฏิรูปการเมืองหรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ควรต้องทำ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญของสภาฯน่าจะได้ข้อสรุปในประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว แต่รัฐบาลจะต้องชัดเจนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปเพื่อ ปฏิรูปการเมือง ไม่มีการแอบแฝงเรื่องการช่วยเหลือกลุ่มคนหรือพวกพ้องให้พ้นผิด


 


ดังนั้น กระบวนการที่เกิดขึ้นควรเป็นไปในลักษณะที่มีกลุ่มคนในลักษณะคล้ายกับส.ส.ร. เข้ามายกร่างแล้วรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขว้าง ทั้งนี้ รัฐบาลชุดใหม่ ควรมีจุดยืนในเรื่องนี้อย่างชัดเจน เพราะจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง


 


นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ปี2550 บางมาตราไม่เอื้อต่อการเลือกตั้ง เช่นเขตเลือกตั้งควรจะกลับไปใช้แบบเดิม หลายมาตราจะต้องแก้ไข ถ้ายุบสภาไปแล้วเลือกตั้งใหม่ก็จะเกิดความวุ่นวาย เหมือนเดิม แต่มาถึงตอนนี้ก็ต้องดูว่าจะทำอะไร สิ่งที่จำเป็นก็ต้องทำ และอย่าไปแก้ทั้งฉบับเพียง 3-4 มาตราก็พอ แก้ไขมากก็จะถูกกล่าวหาว่า ไปช่วยใครคนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้เป็นความเห็นส่วนตัว และไม่ก้าวก่ายแนวทางการเสนอตั้ง ส.ส.ร. ส่วนการนิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยนั้น คงไม่น่าเป็นไปได้ เพราะบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ฝ่ายต่อต้านก็มีมาก เดี๋ยวยุ่งจะมีปัญหา อย่างสร้างปมขึ้นมาอีกเลยจะดีกว่า


 


สำหรับ ส.ส.เลือกตั้งและ แต่งตั้งนั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ความจริงส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้งมีความแตกต่างกัน การแต่งตั้งก็มีการบล็อกโหวต และที่มาจากการแต่งตั้งที่ไหนจะรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน ฉะนั้นเปรียบเทียบกันได้ โดยระบบรัฐสภาถือว่าดีที่สุด เหมือนกับประเทศสหรัฐฯและอังกฤษ และเราพยามประคองตรงนี้ ให้ไปตลอดรอดฝั่ง บ้านเมืองจะดีเอง แต่ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่คนที่มีความเห็นแตกต่างกัน จึงมีปัญหาเกิดขึ้น


 


ที่มา: ผู้จัดการรายวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net