Skip to main content
sharethis

เล็งใช้สนามบินดอนเมือง เป็นทำเนียบฯชั่วคราว


ผู้จัดการรายวัน - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ภายหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล และปักหลักชุมนุมมาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะถอยออกไป จนทำให้สถานที่ สนามหญ้า และอาคารบางส่วนเกิดความเสียหาย อีกทั้งบรรดารัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ ก็ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ ต้องย้ายไปทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ ,บ้านมนังคศิลา ,บ้านพิษณุโลก กองบัญชาการกองทัพไทย และสถานที่ต่างๆ เป็นการชั่วคราว ทำให้มีปัญหาต่อการประสานงานกัน


 


มีรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องมองหาสถานที่ทำงานชั่วคราวให้กับฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำทั้งหมดของทำเนียบฯ ซึ่งล่าสุดได้ตัดสินใจที่จะขอใช้อาคารสนามบินดอนเมือง เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวให้กับนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ และข้าราชการประจำทั้งหมด


 


ขณะนี้ทางฝ่ายอาคารสถานที่ของทำเนียบรัฐบาลได้ไปสำรวจ และกำลังรวบรวมจำนวนห้องและพื้นที่ที่ต้องการใช้ในส่วนของข้าราชการการเมือง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนนายกฯ, เลขาธิการนายกฯ , รองนายกฯ,รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึงทีมงานเลขานุการ และที่ปรึกษา เพื่อเตรียมไปหารือกับทางการท่าอากาศยานฯในเร็วๆนี้ โดยอาคารที่จะเข้าไปใช้ได้แก่ อาคารรับรอง VIP 1 และ 2 และอาคาร เทอมินอล 1 ที่อยู่ติดกัน ซึ่งเดิมอาคารดังกล่าว เป็นออฟฟิศของสายการบินต่างๆ และมีห้องต่างๆจำนวนมากอยู่แล้ว


       


ศาลปค.กลางนัดอ่านคำสั่งวันนี้ คดีแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา


ผู้จัดการรายวัน - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น.วันนี้ (11ก.ย.) ศาลปกครองกลาง กำหนดนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ 984/2551, 1001/2551,1024/2551 ระหว่างนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ที่ 1 กับพวกรวม 13 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ(นายนพดล ปัทมะ) ที่ 1 และคณะรัฐมนตรี ที่ 2 ( ผู้ถูกฟ้องคดี )


 


ฟ้องคดีฟ้องว่า ครม.ได้เห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทยและกัมพูชา กรณีการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก พร้อมแผนที่แนบท้าย ซึ่งเสนอและจัดทำขึ้นโดยรัฐบาลกัมพูชา และได้มอบหมายให้รมว.ต่างประเทศลงนาม ในคำแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นการสละสิทธิ์ในข้อสงวนที่ประเทศไทยจะเอาปราสาทพระวิหารกลับคืนมาในอนาคต และยอมรับว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของประเทศกัมพูชาอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นการยอมรับในแผนที่ กำหนดแนวเขตที่จัดทำโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศกัมพูชา ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่า เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทย


 


เมื่อวันที่ 27มิ.ย.51 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดี อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ และประชาชน อันเป็นความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง


         


อีกทั้งหากศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อน การพิพากษาก็ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงานภาครัฐ และยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ที่ยังคงสงวนสิทธิโต้แย้งคำพิพากษา ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไว้เช่นเดิม จึงมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองดำเนินการใดๆที่เป็นการอ้างหรือใช้ประโยชน์ จากมติของผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 2 เมื่อวันที่ 17มิ.ย.51 ที่เห็นชอบแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา และการดำเนินการตามมติดังกล่าว จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น


 


ทั้งนี้การอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ดังกล่าวจะมีขึ้นที่ ห้องพิจารณษคดีที่ 8 ชั้น 3 อาคารศษลปกครองถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม.


 


นักโทษคลองไผ่ลุกฮือประท้วงผู้คุมตรวจพัสดุเข้ม


คมชัดลึก - เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ก.ย. 2551 สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมาว่า นักโทษแดน 2-3 ได้ก่อเหตุชุมนุมประท้วง เนื่องจากไม่พอใจมาตราการคุมเข้มในการตรวจสอบพัสดุที่ส่งมาจากญาติ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีรายละเอียดในการเรียกร้องที่แน่นอน ขอให้ตำรวจส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาเตรียมความพร้อมด้วย โดยมีผู้ต้องที่อยู่ในแดน 2-3 ประมาณ 1,500 คน



ต่อมานายอาทร เครือรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองไผ่ นายเสกสรรค์ ยอดแสง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิสิทธิ์ รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้เข้าไปเจรจากับตัวแทนผู้ต้องขังภายในเรือนจำ ส่วนผลการเจรจาในเบื้องต้นยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เนื่องจากภายในเรือนจำไม่สามารถนำโทรศัพท์มือถือติดตัวเข้าไปด้วย



 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเบื้องต้นทางเรือนจำได้กันไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในเรือนจำ โดยให้รอทำข่าวอยู่เพียงภายนอก ซึ่งบรรยากกาศบริเวณด่านหน้าเรือนจำมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดปราบจลาจลประมาณ 500 คน ดูแลความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกเรือนจำ ทั้งนี้ได้มีรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลคลองไผ่ เทศบาลตำบลลาดบัวขาว  จำนวน 4 คัน พร้อมรถพยาบาล จาก รพ.สีคิ้ว รพ.ปากช่อง และรพ.สูงเนิน จำนวน 3 คัน จอดเตรียมพร้อมรับสถานการณ์รุนแรงอยู่บริเวณหน้าเรือนจำกลาง



 


พ.ต.อ.พงษ์เดช  กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้งที่ตำรวจได้ระดมกำลังเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยแล้วจำนวน 200 นาย และได้มีการขอกำลังเสริมจากสถานีตำรวจใกล้เคียงในช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยในเบื้องต้นกลุ่มผู้ต้องขังทั้งแดน 2 และ 3 ได้ชุมนุมเรียกร้องสิทธิพิเศษในเรื่องการตรวจสอบพัสดุ ที่คุมเข้มของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดำเนินการอย่างเข้มงวด ผู้ต้องขังขอให้ผ่อนปรนการตรวจพัสดุ ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องขังได้ใช้วิธีการประท้วงโดยไม่ยอมขึ้นเรือนนอน สถานการณ์ภายในขณะนี้ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงในการชุมนุมแต่อย่างใด



 


สนธิกำลังปิดล้อม 9 อำเภอจับผู้ต้องสงสัยป่วนใต้ได้หลายคน


สยามรัฐ - เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 10 ก.ย.51 พ.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส  หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด  ภ.จว.นราธิวาส ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนราธิวาส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดในจังหวัดนราธิวาส ตามนโยบายกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดหลังสืบทราบจากสายเป็นแหล่งค้ายาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายเป้าหมาย โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 62/2 ม.3 ต.โคกเคียน อ.เมือง จว.นราธิวาส  ซึ่งเป็นบ้านของ นายเจ๊ะอูมา  ปิ  และได้ร่วมกันทำการตรวจยึด 1.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สษ 1048 กทม. จำนวน 1 คัน 2.รถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิซิ รุ่น ไททัล สีบรอนส์เงิน  หมายเลขทะเบียน ตน 8764 กทม. จำนวน 1 คัน 3.รถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน กพ 958 สงขลา จำนวน 1 คัน  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและรับทราบจากแหล่งข่าวว่า นายเจ๊ะอูมา  ปิ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)และประเภทกัญชา โดยอยูในกลุ่มเครือข่ายของ นาย แวมามุ  แวกูโน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา



 


จุดที่ 2.พื้นที่ สภ.เจาะไอร้อง


พ.ต.ท.ธิติ  กิจรุ่งโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.เจาะไอร้อง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหมายค้นของ  ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 613/2551 ลงวันที่ 9 ก.ย.2551 ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 99/1 ม.8  ต.บูกิต  อ.เจาะไอร้อง  จว.นราธิวาส ผลการตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง 1.นายซุลกิปลี  อาแว   อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 ม.8  ต.บูกิต  อ.เจาะไอร้อง  จว.นราธิวาส พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)  จำนวน 10 เม็ด 2.นายอัตพันธ์  ดะบู ซึ่งอยุ่ภายในบ้านของนายซุลกิปลี  อาแว พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)  จำนวน 1 เม็ด



 


จุดที่ 3.พื้นที่ สภ.สุไหงโก-ลก


พ.ต.อ.ปราบพาล  มีมงคล  ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ กฎอัยการศึก เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 50/ ถ.เจริญเขต ซ.5 ต./อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส ผลการตรวจค้นจับจับผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ดังนี้ 1.น.ส.สุริยา  เจ๊ะมะ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 52/1 ถ.ชลธารเขต ต./อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส  2.นายไซนูเด็ง  บินหลง อายุ 38 ปี  ที่อยู่ 940/3 ถ.ประชาภิวัฒน์ ต./อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส 3.นางสุรา  เจ๊ะมะ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 311/12 ซ.13  ถ.เจริญเขต ต./อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส



4.น.ส.อากมา  สามะ  อายุ 26 ปี ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส 5.นายโรสมีซี  บิน  ฮัดซิน (ROSMIZI BIN HASSIN) อายุ 26 ปี  สัญชาติมาเลเซีย 6.นายโมฮัมมัด ฮาฟิส บิน โมฮัมมัด นาซีรี (MOHD HAFIZ BIN MOHD NAZERI)  อายุ 20 ปี สัญชาติมาเลเซีย 7.นายโรสมัน  บิน  ฮัดซิน(ROSMAN BIN HASSIN) อายุ 23 ปีสัญชาติมาเลเซีย พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 6 เม็ด 2.ยาอี   จำนวน 1 เม็ด 3.อุปกรณ์การบรรจุยาไอซ์ จำนวน 1 ชุด



 


จุดที่ 4.พื้นที่ สภ.ตากใบ


พ.ต.อ.จักรพร  แท่นทอง ผกก.สภ.ตากใบ พร้อมกำลังนำหมายค้นของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 596 และ 597/2551  ค้นบ้านเลขที่ 292 ม. 1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จว.นราธิวาส  และ บ้านไม่ทราบเลขที่  ม.5 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จว.นราธิวาส กวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ และจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ดังนี้ 1.นายอับดุลเลาะ  อูมา บ้านเลขที่ 292 ม. 1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จว.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) น้ำหนักประมาณ 0.02  กรัม 2.นายมะยีนูรี  เล๊าะเย๊าะ บ้านไม่ทราบเลขที่  ม. 5  ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จว.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ขนาด 12 เลขทะเบียน กท 1851050 จำนวน 1 กระบอก



2.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 4  นัด 3. .เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 2  นัด



 


จุดที่ 5.พื้นที่ สภ.บาเจาะ


พ.ต.อ.จำลอง  งามเนตร ผกก.สภ.บาเจาะ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 609/2551 ลง วันที่ 9 ก.ย.2551 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 7 ม.3 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จว.นราธิวาส จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย 1.นายมูฮัมมัดรูดี  สาและ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 7 ม.3 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จว.นราธิวาสพร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาอัดแท่ง)  น้ำหนักประมาณ 0.05  กรัม 2.ยาแก้ไอ โคเดอีน  จำนวน  1  ขวด 30 ซีซี



 


จุดที่ 6 พื้นที่ สภ.จะแนะ


พ.ต.อ.จิรวุฒิ  ทิศเสถียร ผกก.สภ.จะแนะ  พร้อม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายค้นของศาลจังหวัดนราธิวาส ค้นบ้านเลขที่   69 ม. 10 ต.จะแนะ อ.จะแนะ .จว.นราธิวาส จับกุมผู้ต้องหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) จำนวน 1 ราย 1.นายมาหามะ  อาแว บ้านเลขที่  69 ม. 10 ต.จะแนะ อ.จะแนะ .จว.นราธิวาส


 



จุดที่ 7 พื้นที่ สภ.ยี่งอ


พ.ต.ท.สุทิน  พงษ์ศรี รอง ผกก.สส.รรท.ผกก.สภ.ยี่งอ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผุ้ต้องหา ยาเสพติด 1 ราย 1.นาย อยุทธ  ละเลง  อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/3 ม.1 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จว.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเม็ดอัลปราโซแลม จำนวน 1 เม็ด



จุดที่ 8 พื้นที่ สภ.ตันหยง


พ.ต.ต.ศราวุธ  เป้าเพชร สว.สส.รรท.สวญ สภ.ตันหยง  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.ตันหยง ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 625/2551 ลงวันที่ 10 ก.ย.2551 ตรวจค้น บ้านไม่มีเลขที่ ม.4 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จว.นราธิวาส กวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ ผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายดังนี้ 1.นายซูไฮมี  ดอรอเง๊าะ   บ้านเลขที่ -  ม.4 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ( กัญชา ) น้ำหนักประมาณ 0.5 กรัม


จุดที่ 9 พื้นที่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ

 

พ.ต.ท.ชวาลย์  วงษ์รอด  สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้หมายค้นของศาลจังหวัดนราธิวาส เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 304 ม.6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จว.นราธิวาส ได้จับกุมผู้ต้องหายาเสพติด 1 ราย  1.นายมะโซร์  กะแปะ บ้านเลขที่ 304 ม.6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จว.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อมที่ต้มแล้ว)จำนวน 1 ถุง 2.น้ำต้มพืชกระท่อม จำนวน  2 ขวด พร้อมควบคุมผู้ต้องหา และของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net