"สุริยะใส" เตือนเลือกสมัครกลับมาเป็นนายกฯ เพิ่มเงื่อนไข "รัฐประหาร"

สุริยะใสย้ำศุกร์นี้โอกาสสุดท้ายของรัฐสภา เลือกสมัครเป็นนายกจะเพิ่มเงื่อนไขรัฐประหาร รับรัฐบาลแห่งชาติเป็นทางออกหนึ่งแต่ไม่ดีที่สุด สนธิระบุ พธม.กำลังสร้างการเมืองแบบ "ไฮเปอร์" ทันโลกในยุคข้อมูลข่าวสาร เรียนรู้เร็วกว่า 20 ปีก่อน 17,000 เท่า เชิดชูผู้ชุมนุมเข้าใจการเมืองแบบ "ไฮเปอร์สปีด" นักการเมือง-นักวิชาการตีนไม่ติดดินไม่เข้าใจ ด้านการ์ด พธม.ซ้อมยิงเหี้ยจนตาย ก่อนแขวนประจาน องค์กรพิทักษ์สัตว์วอนอย่าใช้เหี้ยเป็นเครื่องมือทางการเมือง

 

แม้ว่าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์9 ต่อ 0 ว่าการเป็นพิธีกรจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" และรายการ "ยกโขยง 6 โมงเช้า" ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าข่ายเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนและมีการแสวงผลกำไร ซึ่งส่งผลให้นายสมัครต้องพ้นจากตำแหน่งทันที รวมถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ แต่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล และบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ต่อไป

 

พันธมิตรยังปักหลักชุมนุม-นวดฝ่าเท้า-ตัดผมฟรี

ผู้สื่อข่าวสื่อรายงานว่าในช่วงเช้าวานนี้ (10 ก.ย.) บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรบริเวณรอบนอกทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางตาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติ หรือ Young PAD และประชาชนทั่วไป เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ผู้ชุมนุมบางรายต้องหากิจกรรมส่วนตัวทำ เช่น นวดฝ่าเท้าเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า บางรายนอนพักผ่อนตามเต็นท์และใต้ต้นไม้ ขณะที่บนเวทียังคงสลับกันขึ้นปราศรัยตลอดเวลา โดยเนื้อหาหลักเน้นโจมตีพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีแนวโน้มจะกลับเข้ามาบริหารงานประเทศอีกครั้ง ขณะเดียวกันด้านประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล มีช่างตัดผมมาให้บริการตัดผมฟรี

 

แสงธรรมนำพันธมิตรเด็กประท้วงกระทรวงศึกษาธิการ

ต่อมาเวลา 14.00 น. กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา นำโดยนายแสงธรรม ชุนชฎาธาร ประธานนักเรียนโรงเรียนสาธิตมัฆวานฯ พร้อมด้วยกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต กลุ่มสามพระจอมเกล้า ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กลุ่มแนวร่วมนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มนักศึกษาอาชีวะและช่างกล และกลุ่มเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติกว่า 100 คน ได้ตั้งขบวนพร้อมรถปิกอัพติดเครื่องขยายเสียงเคลื่อนขบวนไปที่หน้าบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ ตรงข้ามประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ถนนราชดำเนินนอก นำป้ายผ้าสีขาวขนาดใหญ่มีข้อความตัวหนังสือสีแดงว่า "กระทรวงศึกษาพิการ" มาปิดทับกับป้ายกระทรวงศึกษาธิการ

 

จากนั้นกลุ่มนักศึกษาเคลื่อนขบวนเข้าไปยังอาคารราชวัลลภภายในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อยื่นแถลงการณ์เรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที โดยนายศตวรรษ์ อินทรายุธ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้อ่านแถลงการณ์โรงเรียนสาธิตมัฆวานฯ และเครือข่ายเยาวชน ฉบับที่ 6/2551 เรื่องทวงถามข้อเรียกร้องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีใจความตอนหนึ่งระบุว่าเราขอเรียกร้องให้รักษาการ รมว.ศธ. ลาออกจากตำแหน่งทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเยาวชนผู้มีวิจารณญาณที่จะใช้สิทธิเสรีภาพอันพึงมีตามรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งมอบรายชื่อนักศึกษาจำนวน 3,000 รายชื่อที่สนับสนุนการแสดงออกทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของนักศึกษาด้วย โดยนายชินภัทร ภูมิรัตน รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงออกมารับแทนนายสมชาย 

 

ด้านแนวร่วมนิสิตนักศึกษา เพื่อประชาธิปไตย ร่วมอ่านแถลงการณ์จุดยืนและความเคลื่อนไหวของกลุ่มในเวลา 18.00-20.15 น.นอกจากนี้ นายปราโมทย์ นาครทรรพ ได้อภิปรายเรื่องพลังนักเรียน นิสิต นักศึกษา กับการแก้ปัญหาของชาติ รวมถึงการแสดงดนตรีจากวงแหลมผู้จัดกวน วิทยากรศิลปิน นายวสันต์ สิทธิเขตต์ อภิปรายเรื่องการเมืองใหม่กับการปฏิวัติการศึกษา และปิดท้ายด้วยบทกวีจากศิลปินแห่งชาติ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นต้น

 

 

การ์ดพันธมิตรซ้อมยิง "ตัวเงินตัวทอง"

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเชิงสะพานอรทัย ซึ่งเป็นที่พักของการ์ดพันธมิตรและนักรบศรีวิชัย ที่ได้มีการกางเต็นท์เพื่อตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกมาร่วมชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า มีลูกตะกวด หรือ ตัวเงินตัวทอง ขนาด 1 ฟุตครึ่ง เดินขึ้นมาจากน้ำคลองผดุงกรุงเกษมขึ้นมาเดินป้วนเปี้ยนบริเวณเชิงสะพานดังกล่าว เมื่อการ์ดอาสาของพันธมิตรที่รักษาการณ์บริเวณดังกล่าวพบเห็น จึงนำหนังสติ๊กออกมาไล่ยิงซ้อมมือจนตาย ก่อนที่จะนำตัวเงินตัวทองขึ้นมาเหวี่ยงไปมา และโยนขึ้นฟ้าให้ตกลงมาที่พื้น และเอาเชือกมาผูกคอ แล้วนำไปแขวนไว้ที่แผงเหล็กทางเข้าตรงจุดตรวจสะพานอรทัย สร้างความตกใจและเศร้าสลดแก่ผู้พบเห็น ซึ่งกำลังเดินทางมาชุมนุม

 

ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวกล่าวว่าบริเวณนั้นเป็นท่อระบายน้ำที่ไหลออกมาจากในทำเนียบ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของตัวเงินตัวทอง แต่เนื่องจากตัวเงินตัวทอง ไม่สามารถเข้าไปเดินในทำเนียบและหาอาหารได้ดังแต่ก่อน เนื่องจากมีผู้ชุมนุมเข้ามาอยู่ในทำเนียบเป็นจำนวนมาก มันจึงออกมาหากินบริเวณปากคลองผดุงกรุงเกษม เชิงสะพานอรทัย เมื่อการ์ดกลุ่มดังกล่าวพบเห็น ก็จะนำหนังสติ๊กออกมายิงทันที และหากตัวเงินตัวทองว่ายน้ำหนีไปอีกฝั่ง การ์ดที่อยู่บริเวณดังกล่าว ก็จะวิ่งข้ามสะพานข้ามคลองผดุงเพื่อไปดักยิง และยิงต้อนให้ตัวเงินตัวทองว่ายกลับมายังฝั่งเดิม หากตัวไหนไม่แข็งแรงและตัวเล็ก ก็จะถูกยิงจนตาย หากตัวใหญ่แข็งแรงหน่อยก็จะว่ายน้ำก่อนและดำน้ำหนีไปได้รอดตายอย่างหวุดหวิด

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ผู้ชุมนุมจากกลุ่มพันธมิตรฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าไปต้อนจับตัวเงินตัวทองตัวหนึ่งที่คลานออกมาจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า ในทำเนียบรัฐบาล พันธนาการ โพกหัวด้วยผ้าสีแดงและพ่นสีแดงที่ลำตัว จากนั้นจับนั่งบนเก้าอี้และใส่รถเข็นเข็นไปรอบทำเนียบรัฐบาลให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอย่างครื้นเครง ก่อนนำไปปล่อยลงคลองหลังตึกไทยคู่ฟ้า ผู้ชุมนุมบางคนบอกว่าขอให้สิ่งชั่วร้ายออกไปพร้อมกับตัวเงินตัวทองและให้สิ่งดีๆ อยู่ในทำเนียบรัฐบาล บางคนบอกว่าขอให้ไปโผล่ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่ประชุม ครม.สัญจรวันพรุ่งนี้ (ข่าวย้อนหลัง)

 

สมาคมพิทักษ์สัตว์จวกอย่าใช้เหี้ยเป็นเครื่องมือการเมือง

นายโรเจอร์โลหนันทน์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรใช้หนังสติ๊กยิงตัวเงินตัวทองว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ไม่ว่าฝ่ายใดจะนำสัตว์มาเป็นเครื่องมือ เพื่อประชดประชันทางการเมือง หรือใช้เป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ โดยเฉพาะตัวเงินตัวทอง เรื่องนี้ทางสมาคมเคยประสานผ่านไปยังมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ ซึ่งมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร เป็นประธานกิตติมศักดิ์ ให้ช่วยดูแล อย่าให้กลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ใดนำสัตว์มาเป็นเครื่องระบายอารมณ์ทางการเมือง ไม่ว่าสัตว์นั้นจะเป็นสัตว์ชนิดใด ทั้งนี้มูลนิธิดังกล่าวก็ได้รับปากว่า จะประสานกับ พล.ต.จำลอง ให้ แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือไปยัง พล.ต.จำลอง ให้มีการจัดระเบียบในพื้นที่ชุมนุม โดยห้ามไม่ให้นำสัตว์ชนิดต่างๆ มาทรมานและทำร้าย

 

สุริยะใสเตือนดึงดันเลือกสมัครคือเพิ่มเงื่อนไขรัฐประหาร

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรเมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (10 ก.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ได้แถลงการณ์ถึงท่าทีของพันธมิตรฯ ต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันศุกร์ที่ 12 ก.ย.นี้ ว่า ถ้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ยังเลือก นายสมัคร สุนทรเวช หรือตัวแทนที่เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พันธมิตรฯ ก็ยังปักหลักชุมนุมและยึดทำเนียบรัฐบาล เป็นสถานที่ชุมนุมตามเดิม อยากแนะนำว่า พปช. น่าจะใช้โอกาสนี้ เปิดใจให้กว้างรับฟังขอเสนอจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เคยระบุไว้ว่า ปัญหาการเมืองควรแก้กันในสภา ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่าย ทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น

 

แต่ถ้าหากเลยวันศุกร์ไปแล้ว ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะทำให้อำนาจนอกสภาเข้ามามีบทบาท เป็นการเพิ่มเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารสูงขึ้น การเดินหน้าโดยไม่สนใจกระแสสังคม พปช.จะต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นผู้สร้างเงื่อนไขเหล่านี้

 

เตือนพรรคร่วมทบทวน ส่วนรัฐบาลแห่งชาติของมาร์คไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อยากฝากถึง นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคนอื่นๆ ว่า ให้กลับไปพิจารณาเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งมีข้อหนึ่งที่เคยพูดไว้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องกลับมาสู้คดีในประเทศ แต่ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณหนีหมายจับ ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลก็ควรทบทวนจุดยืนตัวเอง และหากวันศุกร์นี้ ยังไม่มีทางออกที่ดี พันธมิตรฯก็จะชุมนุมเคลื่อนไหวต่อไป แต่ถ้าหากวันศุกร์นี้มีทางออกที่ดี พันธมิตรฯ ก็พร้อมทบทวนการเคลื่อนไหว และยินดีที่จะเจรจา แต่ถ้าหาก พปช.ยังเสนอชื่อนายสมัคร หรือคนที่เป็นนอมินี ปัญหาก็ยังจะเป็นแบบเดิม

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลพิเศษแห่งชาติ ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านเสนอนั้น พันธมิตรฯมองอย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า ยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นทางออกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็เห็นด้วยและจะนำไปพิจารณารายละเอียดว่า มีเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งแม้จะไม่ใช่เงื่อนไขที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่ง สิ่งที่พันธมิตรฯ เรียกร้องนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ต้องการให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

 

และคิดว่า วันศุกร์นี้ คงจะเป็นโอกาสสุดท้ายของสภา แต่ถ้าหากยังเห็นแก่ตัวอยู่ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้อำนาจนอกระบบเข้ามา อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ แกนนำพันธมิตรฯ จะประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวว่า ในวันศุกร์นี้จะเคลื่อนไปชุมนุมที่หน้าสภาหรือไม่

 

สนธิระบุกำลังทำการเมืองไฮเปอร์ ยกปัจจัยสื่อสารไวกว่า 20 ปีก่อน 17,000 เท่า!

และเมื่อเวลาประมาณ 22.05 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันนี้ได้มีที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของสถานทูตออสเตรเลีย ที่เป็นฝรั่งสองคนมาพบ และถามจุดยืนของพันธมิตรฯ ก็ได้ตอบกลับไปว่ากำลังทำการเมืองแบบไฮเปอร์ โดยนายสนธิได้อ้างบทความการเมืองแบบตัวแทน กับ การเมืองแบบไฮเพอร์ ของประสาท มีแต้ม

 

นายสนธิ กล่าวว่า มนุษย์ถือเป็นสัตว์ประเสริฐ และในช่วงการพัฒนาการในช่วงกว่า 4 หมื่นปีที่ผ่านมา แต่มนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด พร้อมทั้งยกตัวอย่างการส่งจดหมายไปสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีก่อน กว่าจะตอบกลับมาต้องใช้เวลาถึง 14 วัน แต่ทุกวันนี้สามารถส่งอีเมล์และตอบกลับภายในไม่เกินครึ่งนาที ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เร็วกว่าเดิมประมาณ 17,000 เท่า นั่นหมายความว่า การส่งข้อมูลข่าวสาร 1 รอบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่วันนี้ส่งได้ 17,000 รอบ

 

เชิดชูผู้ชุมนุมเป็นผู้เข้าใจการเมืองแบบไฮเปอร์สปีด รู้ดีกว่าดอกเตอร์ตีนไม่ติดดิน

"เวลานี้ข้อมูลข่าวสารถาโถมเข้ามามากมาย และเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าการเมืองในสภาเวลานี้ ดังนั้น คนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา คนอย่าง เสนาะ เทียนทอง หรือคนอย่าง สมัคร สุนทรเวช ไม่มีวันเข้าใจ เพราะเวลานี้การเมืองได้เปลี่ยนเป็นไฮเปอร์สปีด ซึ่งเหนือกว่าซูเปอร์สปีด" นายสนธิ ระบุ และกล่าวชื่นชมผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ทุกคนในที่นี้มีความรู้มากกว่าพวกดอกเตอร์หลายคนที่ตีนไม่ติดดิน เพราะคนพวกนี้ไม่เข้าใจว่าสังคมได้เปลี่ยนไปมากแล้ว

 

นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า คนที่มาร่วมชุมนุมสามารถมองป่าทั้งป่าได้เข้าใจ ไม่ได้มองแค่ต้นไม้เพียงต้นเดียว เหมือนกับกรณีที่ว่า เมื่อนายสมัคร ไปแล้วแล้วเอานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มา พี่น้องที่นี่จะร้องยี้ เพราะรู้ว่า นายสมชาย เป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่คนอื่นไม่เข้าใจ ดังนั้น เราต้องสร้างสังคมอุดมปัญญาให้เกิดขึ้นให้มากที่สุด เพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอด และจะเป็นชัยชนะอย่างแท้จริง

 

ศุกร์นี้ถ้านายกฯ ชื่อสมัครหรือสมชาย จะเร่งปิดเกมภารกิจศักดิ์สิทธิ์

นายสนธิ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง วันศุกร์นี้ยังไม่รู้ว่าหมู่หรือจ่า เพราะพวกนั้นพยายามดิ้นรนรักษาอำนาจ แต่ด้วยความที่มีแต่มิจฉาทิฐิก็จะพบกับจุดจบที่ไม่คาดหมาย ขอให้เชื่อเถอะ ในวันนั้นถ้าไม่เสนอชื่อนายสมัคร ก็เสนอชื่อ นายสมชาย พี่น้องก็ต้องรู้ว่า เรามีหน้าที่ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ทำแล้วต้องทำให้จบใช่ไหมครับ ถ้าคนที่เป็นรัฐมนตรีศึกษาดูแลลูกหลานเราไม่เป็น ห้ามลูกหลานเราไม่ให้มามีส่วนร่วมทางการเมือง ประเทศชาติมิฉิบหายมากไปกว่านี้อีกหรือ"

 

"มีคนถามผมว่าเหนื่อยหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่านั่นเป็นแค่กายภาพ แต่ใจยังเข้มแข็ง เพราะมีเราชาติและลูกหลานเราเป็นเครื่องเดิมพัน" นายสนธิกล่าว

 

ที่มา: เรียบเรียงจากคมชัดลึกและผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท