สมัคร สุนทรเวช ปราศรัยที่ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา

ที่มาของภาพ: คุณมินิแมน กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน

ตลอดช่วงบ่ายวันที่ 8 กันยายน ข้าราชการจังหวัดอุดรธานีเตรียมห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ในศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เป็นห้องประชุมไว้รองรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ เป็นครั้งแรกของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในวันที่ 9 กันยายน รวมถึงจัดเตรียมเมนูอาหารชื่อดังของจังหวัดไว้คอยบริการบรรดาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งเกี๊ยวกุ้ง และฮองเฮา

ขณะที่บริเวณทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุดรธานี จัดเวทีปราศรัย 3 เวที ประกอบด้วยเวทีที่หนึ่ง เวที "ครม.สัญจรพบพี่น้องประชาชน" เป็นเวทีสำหรับนายสมัคร และ ครม.ใช้พบปะประชาชน เวทีที่สอง เวที "คลีนิคกระทรวงมหาดไทย" นำโดย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเวทีที่สาม เวที "แกนนำกลุ่ม นปช." นำโดยนายอุทัย แสนแก้ว และนายขวัญชัย ไพรพนา ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านสวมเสื้อแดงกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลในนามคนรักอุดรฯหลายร้อยคนต่างรอเก้อ เมื่อไปรวมตัวกันที่สนามบินอุดรธานี แต่ไม่ปรากฏว่านายสมัครเดินทางมาพร้อมเที่ยวบินที่ ทีจี-1010 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในเวลา 14.15 น.

ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นสมาชิกกลุ่มปกป้องประชาธิปไตย หยุดคนทำลายประเทศ และสมาชิกชมรมคนรักอุดร กว่า 1,000 คน รวมตัวกันในช่วงเช้าที่สนามบินอุดรธานี เพื่อป้องกันฝ่ายตรงกันข้ามยกคณะมาปิดสนามบิน กลุ่มผู้ชุมนุมต่างยกป้ายสนับสนุนคณะรัฐบาลด้วยข้อความต่างๆ ที่สนามบินอุดรธานี โดยมี ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน (พปช.) อาทิ นายวิเชียร ขาวขำ นายอนันต์ ศรีพันธ์ นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ผลัดกันกล่าวปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

กระทั่งช่วงบ่ายเวทีปราศรัย "ครม.สัญจรพบพี่น้องประชาชน" เริ่มคึกคัก เนื่องจากมีประชาชนสวมเสื้อแดง ทยอยร่วมงานจำนวนมาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยชักชวนให้ชาวบ้านสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งบรรยายผลงานตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล พร้อมประกาศว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายสมัครขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกฯ จะเรียกร้องให้สภาเลือกนายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง

นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การประชุม ครม.วันที่ 9 กันยายน จะเสนอก่อสร้างถนนใน จ.อุดรธานี ตั้งแต่ 8 เลนขึ้นไป ใช้งบฯกว่า 100 ล้านบาท และยังมีงบฯเฉพาะกิจที่เตรียมการไว้แล้วถึง 600 ล้านบาท "วันนี้ย้ายศูนย์อำนาจมาที่ จ.อุดรธานี ถ้าเป็นไปได้ อยากจะสร้างทำเนียบไว้ที่อุดรธานีด้วยซ้ำ วันนี้สิ่งที่อยากขอนายสมัครคือ อย่าลาออก และอย่ายุบสภา" นายธีระชัยกล่าว

จากนั้นเวลา 18.40 น. นายสมัครเดินทางโดยรถตู้โฟล์ค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน นข 2727 อุดรธานี จากสนามบินอุดรฯมาเวทีปราศรัยทุ่งศรีเมือง โดยมี ส.ส.และรัฐมนตรีมาให้การต้อนรับพร้อมหน้า และประชาชนอีกกว่า 30,000 คน มารอฟังการปราศรัย โดยขณะที่นายสมัครปราศรัยมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์โดยรอบ

นายสมัครปราศรัยว่า หลายคนบอกว่า นายกฯเหมือนมือใหม่หัดขับ หนังสือพิมพ์เขียนว่า นายกฯ คนนี้ดื้อด้านขวานถาก ทำไมไม่ทำตามที่แนะนำให้ยุบสภาหรือลาออก ไม่ได้หรอก ทั้งหมดเป็นเพราะความเกลียดชังอดีตนายกฯ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ปฏิวัติมาก็แล้ว ได้รัฐธรรมนูญกระโดกกระเดกมา พรรคพลังประชาชนก็สู้ เป็นพรรคมาแค่ 6 เดือน แต่ต้องมาสู้กับพรรคที่มีอายุ 60 ปี วันนี้โดนนำไปเป็นเหยื่อ ที่ผ่านมาเอเอสทีวีด่าตนมาหลายเดือน พูดจาว่าคนอื่นไม่จงรักภักดี ว่าคนอื่นได้ แต่อย่ามาว่านายสมัคร แหกปากว่าจงรักภักดีได้ แต่อย่ามาเหยียบย่ำคนอื่น พยายามอดทน อดกลั้นมาโดยตลอด ถ้าเป็นนายกฯคนอื่นคงทนไม่ได้ ลาออกไปนานแล้ว

"แต่ผมไม่ออก และไม่ยอมให้ไอ้พวกดื้อด้านขวานถากมาชี้หน้าไล่ และยืนยันว่าจะไม่ยุบสภา ลาออก จะสู้เหมือนกับที่คนอุดรฯบอกให้สู้ เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย" นายกฯกล่าว และว่า จะหารือกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เพื่อใช้ จ.สุพรรณบุรี เป็นสถานที่จัด ครม.นอกสถานที่ในสัปดาห์หน้า และจะย้ายไปจังหวัดอื่นๆ อีกเรื่อยๆ เพื่อบอกประชาชนในสิ่งที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลประชาธิปไตย

จากนั้น นายสมัครเดินทางกลับ โดยระหว่างทางมีประชาชนนำดอกไม้มาให้กำลังใจจำนวนมาก ก่อนจะเดินทางเข้าพักที่โรงแรมเจริญศรี แกรนด์ โฮเต็ล และร่วมรับประทานอาหารค่ำกับ ครม.ทั้งคณะ

ทางด้าน นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตร จ.อุดรธานี กล่าวว่า คณะทำงานประชุมกันแล้ว ว่าจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุปะทะกัน แต่จุดยืนเหมือนเดิม โดยในวันที่ 9 กันยายน จะรณรงค์ให้สวมเสื้อสีดำ และร่วมกันขอเลื่อนการชำระภาษีต่างๆ ไปจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

โดยวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีขาดคุณสมบัติของนายสมัคร กรณีการจัดรายการชิมไปบ่นไปและรายการยกโขยง 6 โมงเช้า เวลา 14.00 น.

และรายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญเผยว่า การพิจารณาการขาดคุณสมบัติรัฐมนตรีของนายสมัคร คณะตุลาการฯ พิจารณาประเด็นของผลประโยชน์ทับซ้อน มากกว่าการตีความว่าเป็นลูกจ้างหรือรับจ้าง เพราะเห็นได้ชัดเจนว่ามีการใช้ตำแหน่งหน้าที่นายกฯ เป็นเงื่อนไขในการหาโฆษณาให้รายการ โดยมติจะมีเสียงออกมาเอกฉันท์ว่านายสมัครขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ

ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายสมัครอาจตัดสินใจยุบสภาก่อนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อคงสถานะของรัฐบาลรักษาการเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป เนื่องจากไม่มีความมั่นใจว่าเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ จะมีมติสนับสนุนให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ดังนั้นการประชุม ครม.ในวันที่ 9 ก.ย. อาจเป็นการประชุม ครม.ครั้งสุดท้าย ซึ่งอาจมีการนำเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย เข้าสู่การพิจารณาเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

ที่มา: มติชนรายวัน