Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


มุกดาวรรณ ศักดิ์บุญ แปลและเรียบเรียงจาก


"Clash of the Thai-tans"


By Nirmal Ghosh


Thailand Correspondent, The Straits Times


http://blogs.straitstimes.com/2008/9/2/clash-of-the-thai-tans


 


 


 


นีมาล โกช ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เสตรทไทม์ ประจำประเทศไทย รายงานสดจากแถวหน้าของการปะทะเดือดบนถนนราชดำเนินคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา


 


ราวเที่ยงคืนเพื่อนช่างภาพของผมที่ไปเฝ้าจับตาม็อบหนุนรัฐบาลอยู่ที่สนามหลวงโทรศัพท์มาหา "รีบมาด่วน พวกม็อบจะบุกเข้าราชดำเนินแล้ว"


 


ได้ยินเพื่อนพูด ผมรู้ทันทีว่าเกิดเรื่องแย่แน่ เพราะการเคลื่อนขบวนย่อมไม่อาจหมายความเป็นอื่นไปได้ นอกจากไปท้าทายฝ่ายพันธมิตร


 


ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมเดินผ่านจุดชุมนุมและแถวของพวกพันธมิตร บรรยากาศเครียดเขม็งเกลียว พวกผู้ชายทั้งหมดบริเวณแผงแนวกั้นต่างสวมหมวกกันน็อคและถือไม้เบสบอลในมือ บางคนมีหนังสติ๊ก หลายคนมีโล่ป้องกันตัว


 


พวกเขากำลังรอ...


 


แว่วเสียงขบวนของฝ่าย นปช.เคลื่อนใกล้เข้ามา ผมรีบหลบหลีกออกจากแถวของพวกพันธมิตร พร้อมถอยห่างไปอยู่ด้านหลังม็อบหนุนรัฐบาล ก่อนที่จะตกอยู่กลางวงล้อมของสองฝ่าย


 


ไม่นานนัก ผมเผชิญหน้ากับพวกกองหน้า นปช.ที่เดินตรงไปยังแถวโหรงเหรงของตำรวจที่มีเพียงโล่ป้องกันตัว


 


พวกม็อบหนุนรัฐบาลมีกันราวๆ 5,000 คน มาถึงตั้งแต่วันก่อนจากภาคเหนือและภาคอิสาน พวกเขาหลายคนสวมเสื้อแดงและคาดหัวด้วยผ้าแดง ต่างพากันย่างเท้าอย่างรวดเร็วไปยังสะพานมัฆวานฯ และประจันหน้ากับตำรวจซึ่งตั้งแถวคู่คุมเชิง พวกตำรวจใส่ชุดปราบจลาจลเต็มยศแต่ไม่มีกระบอง


 


ตำรวจปล่อยให้พวกม็อบ นปช.ผ่านไป พวกม็อบบางคนที่ถือไม้ท่อนกับหนังสติ๊ก เริ่มวิ่งตรงเข้าไปหาการ์ดของพวกพันธมิตรที่ยืนกระจัดกระจายอยู่วงนอก ทำให้การ์ดพันธมิตรฮือกระเจิงออกไปโดยฝ่าย นปช.วิ่งไล่กวด พร้อมกระชากเครื่องกีดขวางให้ล้มลง ฝ่ายไล่ล่ากรีดร้องราวบ้าคลั่ง กระจกรถคันหนึ่งถูกทุบแตก แล้วพวกม็อบหนุนรัฐบาลฮือหนุนเข้ามา


 


หลังตีหนึ่งเล็กน้อยสถานการณ์พลิกผัน เมื่อฝ่ายพันธมิตรตอบโต้กลับด้วยกำลังคนที่เหนือกว่า และอาวุธที่พร้อมกว่าฝ่าย นปช.


 


เสียงปืนระดมยิงอย่างต่อเนื่องดังมาจากฝ่ายพันธมิตร ผู้เห็นเหตุการณ์ฝ่ายม็อบ นปช.อ้างว่ามีพวกเขาคนหนึ่งล้มลง แต่นักข่าวไทยรายงานว่ามีฝ่ายพันธมิตรเสียชีวิต


 


รายงานข่าวอีกด้านหนึ่งอ้างแหล่งข่าวในโรงพยาบาลว่า ผู้ชายที่เสียชีวิตมาจากจังหวัดนครราชสีมา ในภาคอิสาน ที่ซึ่งคนส่วนใหญ่สนับสนุนฝ่ายรัฐบาล


 


เมื่อม็อบทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากัน การตะลุมบอนเกิดขึ้น ม็อบ นปช.ที่อยู่แถวหลังๆ ต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงเมื่อรู้ว่าพวกพันธมิตรเป็นต่อและเมื่อได้ยินเสียงปืน


 


เสียงปืนดังรัวเป็นช่วงๆ ในสองสามนาทีของการต่อสู้รุกไล่และถอยกลับ เสียงยิงปืนดังอย่างชัดเจนมาจากแถวพันธมิตร แหวกอากาศเหนือหัวผมไปฝังอยู่ตามต้นไม้ ผมและนักข่าวอีกคนจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เป็นนักข่าวต่างชาติเพียงสองคนในเหตุการณ์ปะทะ


 


ผมตะโกน "ลูกกระสุนมาแล้ว" เมื่อได้ยินเสียงปืน ทั้งแดน เทน เคท และผมต่างพากันวิ่งหลบหนีกระสุนไปพร้อมๆ กับบรรดาฝูงชน หลายคนพากันปีนป่ายกำแพงและพยายามบุกเข้าไปหลบในตึกใกล้ๆ


 


มีหลายช่วงที่เราต่างแตกตื่น หาทางหลบเอาตัวรอด เพราะคิดว่าพวกม็อบพันธมิตรคลั่งกำลังจะเข้ามายำบาทาพวกเรา


 


แต่ไม่มีอะไร หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มสงบลง


 


ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งมีเลือดท่วมขาถูกหามออกไป


 


รถพยาบาลอย่างน้อย 5 คัน นำร่างผู้ที่ได้รับบาดเจ็บออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ แหล่งข่าวบางคนรายงานตัวเลขคนบาดเจ็บราว 25 ถึง 35 คน นอกจากนี้ยังมีรถพยาบาลคันอื่นๆ จอดเตรียมพร้อมอยู่


 


ซากเศษหินกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มท้องถนน เสียงดังกรอบแกรบของเศษกระจกแตกและชิ้นส่วนกระถางต้นไม้ดอกไม้ ได้ยินมาจากใต้รองเท้าบู๊ตของผมที่เหยียบย่ำผ่านไป


 


ม็อบหนุนรัฐบาลดูเหมือนจะตระหนกตื่นจากการถูกยิงโดยฝ่ายพันธมิตร ผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า "เรามีแค่มีดกับไม้มาสู้กับปืน" ผู้หญิงหลายคนบนทางเท้านั่งซบหน้ากับฝ่ามือ


 


ม็อบฝ่ายพันธมิตรรุกคืบหน้าออกมาหลายเมตรและทยอยดาหน้าเข้ามาตามถนนเพื่อแสดงพลัง เผชิญหน้ากันกับม็อบหนุนรัฐบาล


 


ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนรถบรรทุกของฝ่าย นปช.ตะโกนก้องผ่านไมโครโฟน บอกผู้ชุมนุมฝ่ายตนอย่าถอย ปากก็ร้องว่า "พวกของเรากำลังตามมาเสริม"


 


ราวตีหนึ่งครึ่ง คลื่นระลอกสองของม็อบหนุนรัฐบาลราวสิบกว่าคน มีไม้และมีดดาบเป็นอาวุธเริ่มดาหน้าเข้ามาอีก


 


ถึงตอนนี้ ตำรวจเริ่มเข้าแทรกแซง โดยการตั้งแถวขวางถนนกั้นกลางระหว่างคู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งร้องตะโกนม็อบให้สลายตัว


 


สถานการณ์สงบลงอย่างง่ายดาย และรถพยาบาลนำร่างผู้บาดเจ็บออกไป แต่ฝ่าย นปช.ยังตะโกนโหวกเหวกไปยังฝ่ายพันธมิตร


 


ม็อบหนุนรัฐบาลส่วนใหญ่มาจากภาคเหนือและภาคอิสาน ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคเสียงข้างมาก


 


ราวๆ ตีสองสี่สิบห้านาที ทหารกว่า 100 คนเริ่มทยอยมาถึงพร้อมกับอุปกรณ์ควบคุมจลาจลแต่ไม่มีอาวุธอื่นๆ แหล่งข่าวทหารคนหนึ่งยืนยันทางโทรศัพท์ว่า กองทัพยังคงเฝ้าดูสถานการณ์อยู่อย่างสงบ เพียงแต่ส่งหน่วยทหารสี่กองร้อยมาคุมสถานการณ์ พวกเขาในชุดพรางทหารและโล่ป้องกันตัวเริ่มเข้ามาสนับสนุนการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


 


ไม่นานรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งขนเสาเต็นท์ ผ้าใบ และลังน้ำดื่ม เข้ามาให้กับพวกม็อบหนุนรัฐบาล


ประมาณตีสามครึ่ง ไม่มีท่าทีว่าจะมีการปะทะกันอีก แต่บรรยากาศยังคงเครียดเขม็งเกลียวน่ากลัว ม็อบ นปช.รายหนึ่งวิ่งเอาป้ายไปติดตรงต้นไม้ มีข้อความว่า "เรายึดราชดำเนินคืนมาได้แล้ว"


 


เมื่อวันอังคารที่แล้ว ม็อบของฝ่ายพันธมิตร (ซึ่งเป็นกลุ่มนิยมเจ้า ที่ได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นนำที่นิยมทหารและสถาบันกษัตริย์ และบรรดาตระกูลธุรกิจที่มั่งคั่ง) ได้บุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ทางการ และปิดล้อมสนามบินสามแห่งในภาคใต้ สร้างความวุ่นวายโกลาหลแก่นักท่องเที่ยวกว่า 15,000 คน เป็นเวลาสองวัน และยังได้บุกเข้ายึดครองทำเนียบรัฐบาลด้วย


 


พวกพันธมิตรเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช และคณะรัฐมนตรี ซึ่งพวกเขาเรียกว่าเป็น "หุ่นเชิดคอรัปชั่นของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร" ลาออก


 


นายกฯ สมัครปฎิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งมา เขาจะไม่ยอมถอยให้กับพวกเสียงข้างน้อยเด็ดขาด


 


แต่สถานการณ์ทางการเมืองที่ต่างฝ่ายไม่มีใครยอมกันและกัน ในที่สุดก็มาถึงจุดแตกหักอันนำมาสู่การปะทะเดือดบนถนนราชดำเนินในคืนที่ผ่านมา


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net