คนเล็กคนน้อยไม่สมควรอยู่ในเรือนจำ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข

 

เราจะต้องมีสติ ไม่ตกเป็นเครื่องมือให้เกิดความรุนแรง

ไม่ว่าจะกระทำโดยการยั่วยุจากฝ่ายไหน

จากการลงมือของรัฐ

หรือจากการรัฐประหาร

 

รัฐบาลต้องปฏิบัติต่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ด้วยการเคารพในสิทธิมนุษยชน

ไม่อาศัยความได้เปรียบใดๆ

เพื่อกลั่นแกล้ง ซ้ำเติม

 

0 0 0

 

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปฏิบัติการ "ไทยคู่ฟ้า" และมีผลสะเทือนจนทำให้สื่อทั่วไปเรียกว่า "ยึดเมือง" นั้น มีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอยู่มาก

 

โดยธรรมดาการดำเนินการจัดการและบริหารการชุมนุมนั้นเป็นทั้งศาสตร์และเป็นศิลป์ กล่าวอีกอย่างก็คือ เมื่อการชุมนุมเกิดขึ้นและมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมจำนวนมาก การชุมนุมก็คือเสือตัวใหญ่ที่มีชีวิตของมันเอง เพราะมันคือผลิตผลโดยรวมของผู้ชุมนุม และย่อมทำให้ผู้จัดการชุมนุมตกอยู่ในฐานะของคนขี่เสือเป็นธรรมดา ปัญหาของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สร้างเสือตัวนี้ขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องของการขี่เสือเท่านั้น หากแต่เป็นที่เสือตัวที่สร้างให้กระหายเลือดเกินไป ไร้เหตุผลเกินไป หรืออธิบายเหตุผลได้ยากเกินไป

 

การปักธงโดยขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สมัคร สุนทรเวช ไม่เพียงแต่ไร้เหตุผลและความชอบธรรมในทัศนะของคนส่วนใหญ่ หรือมีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ในประเด็น "ประชาธิปไตย" เท่านั้น การยึดมั่นในยุทธวิธี "ไม่ชนะไม่เลิก" และหลงระเริงกับชัยชนะในอดีตยังกลายเป็นบังเหียนรัดคอคนขี่ให้กลายเป็น "แพ้แล้วแต่ก็เลิกไม่ได้"

 

กล่าวกันแบบไม่ปราณีปราศรัย การตั้งเป้าที่ขับไล่รัฐบาลสมัครโดยที่รัฐบาลไม่มีความผิดแต่มีมวลชนรุนหลังเข้าร่วมมหาศาลนั้น ได้ทำให้การชุมนุม "ไร้ความชอบธรรม แม้จะมีผู้สนับสนุนอยู่มาก" อันเป็นวาทกรรมเดียวกับที่เคยใช้ขับไล่รัฐบาลจากการเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

 

ซ้ำร้ายกว่านั้น การดื้ออยู่ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างน้อยยังพออ้างเหตุผลว่า มีเรื่องพันธะผูกพันทางนโยบายต่อประชาชนที่เลือกตั้งเขาเข้ามา ทว่าพันธมิตรมีเพียงพันธะผูกพันและสัญญากับผู้ชุมนุมว่าจะปราบ "ผี" ที่ปั้นแต่งขึ้น (อาจมีบางส่วนถูก แต่โดยมากเกินจริง) ซึ่งอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนที่เหลืออีกมากกว่ามากในสังคม นอกนั้นก็เป็นเรื่องที่เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับชะตากรรม "ผู้นำการชุมนุม" เท่านั้น

 

0 0 0

 

 

บทความชิ้นนี้ เกิดขึ้นเนื่องมาจากคนจำนวน 80 กว่าคนที่ต้องไปอยู่ในเรือนจำชั่วคราวกรุงเทพมหานคร จากการไม่ได้รับการประกันตัวและต้องถูกฝากขังโดยคำสั่งของศาล ในกรณีการบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย-NBT

 

2 ในจำนวน 80 กว่าคนนี้เป็นคนที่ในแวดวงคนทำกิจกรรมเพื่อสังคมกลุ่มหนึ่งรู้จักกันดี หนึ่งคือ นัสเซอร์ ยีหมะ ซึ่งจะเห็นเคียงข้างสุริยะใส กตะศิลา ในหลายที่หลายประเด็นปัญหา อีกหนึ่งคือ "นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์"

 

ไม่ใช่เรื่องต้องแปลกใจเท่าใด ที่นิติรัตน์จะต้องรับหน้าที่ "บุก" NBT ทั้งๆ ที่เพิ่งจะโดดเข้ามาช่วยพันธมิตรเพียงสัปดาห์กว่าในสถานการณ์ขาลง การเพิ่งมาช่วยและมาในสถานการณ์ขาลงนั้น อาจจะมีเหตุผลและความจำเป็นใดที่ไม่อาจจะรู้ แต่นี่คือเรื่องที่จะอย่างไรก็ต้องเคารพกัน แต่หากใครรู้จักนิติรัตน์ก็ต้องมั่นใจว่า สิ่งที่นิติรัตน์พกไปวันนั้น ย่อมไม่มีมีด อาวุธใดๆ หรือใบกระท่อมตามที่ตกเป็นข่าว จะมีอย่างมากก็คือผ้าปิดหน้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องเท่สำหรับเขา คนที่รู้จักนิติรัตน์ ย่อมจะรู้ว่า เขาคือผู้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับกองกำลังพื้นเมืองปฏิวัติในเม็กซิโกเพื่อปลดปล่อยตัวเองออกจากสภาพการกดขี่ของรัฐและทุน ที่ชื่อว่า "ซับปาติสตา" จนตีพิมพ์ออกมาเป็นเล่ม

 

สำคัญไปกว่านั้นคือ นิติรัตน์มักจะต้องได้รับบทให้ต้องเล่นเป็นแนวหน้าและเสี่ยงเสมอ นับตั้งแต่การเป็นแนวหน้าอารยะขัดขืนในการต่อสู้ร่วมกับสมัชชาคนจน หรือเมื่อครั้งเป็นทัพหน้าฝ่าด่านกั้นของกองทัพตำรวจในการชุมนุมต่อต้านการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐที่เชียงใหม่

 

แน่ละ การบุก NBT เป็นการคุกคามสื่อ เป็นการบุกรุกสถานที่ราชการ มีความผิดตามกฎหมายอาญา บทความชิ้นนี้เพียงปรารถนาจะพยายามสื่อสารว่า ในท่ามกลางความผิดทางอาญา คนอย่างนิติรัตน์ นัสเซอร์ และคนอื่นๆ รวมถึงผู้คนอีกมากที่ต้องทำหน้าที่สุ่มเสี่ยงเหล่านี้ก็มีความคิดทางการเมืองของเขา และเลือกกระทำจากฐานความคิดทางการเมืองที่อาจจะคิดต่างกับคนอื่นๆ ก็เท่านั้น และแม้แต่การคิดต่างกับกฎหมายที่เขาคิดว่าไม่เป็นธรรมก็ได้ คนเหล่านี้มีหัวจิตหัวใจ เป็นมนุษย์ บ้างไม่เห็นด้วยกับขบวนทั้งหมด แต่ก็ต้องทำ ซึ่งจะอย่างไรก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ไม่มีหน้าให้ต้องเสีย ไม่มีผลประโยชน์ให้ต้องแลก

 

รัฐจึงพึงเข้าใจสถานการณ์ และปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านี้อย่างนักต่อสู้ทางการเมืองคนหนึ่ง แม้จะโดนคดีอาญา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านี้ในฐานะบุคคลที่อยู่ในคดีการเมืองได้

 

รัฐไทยจะต้องไม่เลือกปฏิบัติ คนเล็กคนน้อยกลับไม่ได้สิทธิประกันตัว ทว่ากลับกระทำอะไรแทบไม่ได้เลยกับคนที่มีอำนาจหรือระดับผู้นำ

 

คนเล็กคนน้อยเหล่านี้ไม่สมควรอยู่ในเรือนจำ แล้วปล่อยผู้นำให้เป็น "ฮีโร่" ยึดเมือง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท