แถลงการณ์คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย

ฉบับที่ 5/2551

เรื่อง  ท่าทีต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน

                        ด้วยสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งได้มีการชุมนุมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาเกือบ 100 วัน และความพยายามในการสลายการชุมนุมดังกล่าวของรัฐบาล ทำให้ส่อถึงท่าทีว่าอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างผู้ร่วมชุมนุมและฝ่ายปราบปราม หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยมีความกังวลต่อประเด็นปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จึงมีข้อเสนอต่อฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังนี้

                        1. สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายคือ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" และรัฐบาล ใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา โดยไม่ใช้ความรุนแรงเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน เพราะจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้ชุมนุมจำนวนมาก อีกทั้งทำให้ภาพพจน์ของประเทศเสียหายอันเนื่องจากการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม

                        2. ไม่เห็นด้วยกับการฉวยโอกาสในการทำรัฐประหาร หรือยึดอำนาจรัฐโดยฝ่ายทหาร เพราะหากมีการกระทำเช่นนั้นเสมือนกับการทำให้กระบวนการด้านต่างๆ ในระบอบประชาธิปไตยก้าวถอยหลัง

                        3. สนับสนุนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนในการปฏิบัติหน้าที่ตามสายงานของตนเอง โดยการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนก็ต้องให้ข่าวสารอย่างถูกต้องตรงไป ตรงมา ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่ส่อให้เห็นถึงการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง

                        4. เสนอให้มีบุคคลหรือองค์กรกลางมาทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดเวทีเพื่อหาทางออกของความขัดแย้ง ในรูปแบบการเจรจาที่ใช้เหตุและผลและหาทางออกร่วมของทั้งสองฝ่ายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ โดยมีบุคคลหรือองค์กรกลางเข้าร่วมในการหารือหาทางออกนั้นด้วย

                        5. เสนอให้ผู้ต้องหาในกรณีบุกรุกสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT จำนวน 82 คน ได้รับสิทธิพื้นฐานในการประกันตน เพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป

                        6. มีความเห็นว่าการตั้งข้อหาต่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพวก จำนวน 9 คน ในข้อหากบฏนั้น มีความรุนแรงในการตั้งข้อหาเกินกว่าเหตุ ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วจะเห็นว่าบุคคลทั้ง 9 คน มิได้มีเจตนาจะดำเนินการยึดอำนาจของภาครัฐแต่อย่างใด

                        7. ให้รัฐบาลลาออกจากการบริหารประเทศ เนื่องจากปัจจุบันจะเห็นได้ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศอีกต่อไป

8. ส่งเสริมการใช้หลักการประชาธิปไตยแก้ไขปัญหาในทุกด้าน เช่น หากจะมีนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่งใหม่ ก็ต้องมาจากการเลือกตั้งหรือมาจากเสียงข้างมาก ไม่ควรมาจากการแต่งตั้งจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

                        จึงแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน

แถลงเมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๑

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย