Skip to main content
sharethis


(ล่าสุด) หลังจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีออกอากาศได้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย ขณะที่ผู้ดำเนินรายการกำลังสัมภาษณ์นายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า สัญญาณภาพจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้หายไป โดยขึ้นข้อความ No Signal (ไม่มีสัญญาณ) ที่หน้าจอ ตั้งแต่เวลา 13.45 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 14.30 น. สัญญาณของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้กลับมาอีกครั้ง


 


สำหรับคำให้สัมภาษณ์ของนายประสิทธิ์ ก่อนสัญญาณจะหายไปนั้น นายประสิทธิ์ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวตามหลักประชาธิปไตยหรือไม่  โดยระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการใช้สิทธิในการชุมนุมเกินขอบเขต แม้ว่ารัฐธรรมนูญ 2550 จะรับรองว่าบุคคลมีสิทธิชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ แต่ภาพข่าวที่ออกมาจากหลายช่องเห็นว่ามีการตรวจพบอาวุธในกลุ่มผู้ชุมนุม และมีการบุกเข้าสถานที่ราชการโดยใช้กำลังความรุนแรง ดังนั้น คงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการชุมนุมเคลื่อนไหวโดยสันติวิธี


 


นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ยังเรียกร้องต่อนักวิชาการ นักกิจกรรมที่ก่อนหน้านี้เคยชูประเด็นการไม่ใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหวว่าน่าจะออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์นี้ โดยเฉพาะสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ หรือสมาคมเกี่ยวกับสื่อมวลชนควรมีกำหนดจุดยืนให้ชัดเจนว่า การกระทำเช่นนี้คุกคามเสรีภาพสื่อมวลชนหรือไม่ เพียงใด


 


ต่อคำถามเรื่องทางออกต่อสถานการณ์นี้ เขามีความกังวลว่าถ้าเหตุการณ์ยืดเยื้อถึงกลางคืน การควบคุมสถานการณ์จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะสถานที่ราชการหลายแหล่งก็ถูก (พันธมิตรฯ) คุมไว้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่อยากให้เกิดความรุนแรงหรือการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงใดๆ เพราะจะเกิดผลกระทบต่อประเทศ


 


ต่อคำถามว่าในมุมมองของกฎหมายการเคลื่อนไหวเช่นนี้ถือเป็นผิดกฎหมายหรือไม่ นายประสิทธิ์กล่าวว่า ผิดกฎหมาย แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะรับรองสิทธิการชุมนุม แต่ถ้าดูในมาตรา 68 วรรค 2 ระบุชัดถึงเขื่อนไขการชุมนุมว่าต้องไม่กระทบสิทธิผู้อื่น


………………………..


จากกรณีมีรายงานข่าวว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ทราบว่าได้ยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ไว้เรียบร้อยแล้ว และกำลังพยายามเชื่อมต่อสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ให้ออกมาเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อเวลาประมาณ 8.35 น.


 


หลังจากที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทียุติการแพร่ภาพประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 09.45 น.ทางสถานโทรทัศน์เอ็นทีวีได้แพร่ภาพข่าวการบุกยึดสถานีอีกครั้ง โดยมีการสัมภาษณ์นายตำรวจสรุปได้ว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ก่อกวนเกินกฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน และคาดว่าจุดต่อไปที่จะเกิดความรุนแรงคือหน้ากระทรวงการคลัง


 


ทั้งนี้คาดว่า สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กลับมาออกอากาศโดยใช้เครื่องส่งสัญญาณจากรถโมบายด้านนอกอาคารสถานีส่งบริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) บนถนนวิภาวดีรังสิต นอกจากนี้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที มีสถานีถ่ายทอดสัญญาณอีก 8 แห่งทั่วประเทศ


 


ด้านนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีผู้บุกรุกเข้าในสถานีเอ็นบีทีทำให้การออกอากาศต้องยุติลง แต่เรามีสำนักงานประชาสัมพันธ์เขตตามภูมิภาค 8 แห่งที่ออกอากาศได้ปกติ โดยใช้เครือข่ายช่องทางท้องถิ่น ส่วนช่องทางออกอากาศเราบอกไม่ได้ว่าเป็นที่ไหนบ้าง แต่เราเป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐ ก็พยายามเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ แต่ยังบอกจุดอากาศไม่ได้ว่าเป็นจุดใดบ้าง อย่างไรก็ตามได้รายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้นแล้ว ขั้นต้น คือ ปลัดสำนักนายกฯ ซึ่งปลัดสำนักนายกฯ คงจะรายงานให้นายกฯ รับทราบต่อไป


 


ส่วนการสั่งการใดๆ นั้น คงจะมีการดำเนินการเร็วๆนี้ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร แต่ปลัดสำนักนายกฯให้คำแนะนำว่าขอให้เจ้าหน้าที่ของเราพยายามรักษาตัวให้ดีที่สุด โดยทุกคนจะต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของตนเองก่อน


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 10.00น. กลุ่มพันธมิตรฯ กว่า 500 คน ได้ไปที่หน้า บช.น. เพื่อเรียกร้องให้พนักงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีที่ในรถโมมายออกอากาศเอ็นบีที หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯบุกเข้าไปยึดสถานีเอ็นบีทีที่ถนนวิภาวดีรังสิต โดยเจ้าหน้าที่เอ็นบีทีที่ออกอากาศสดอยู่ได้ไหวตัวเคลื่อนรถออกไปจาก บช.น.ก่อนที่ม็อบพันธมิตรฯจะพังประตูเข้ามาภายใน บช.น.ได้


 


สำหรับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) ซึ่งอยู่คนละอาคาร แต่อยู่ในบริเวณเดียวกับสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีทีได้ยุติการออกอากาศรายการตามปกติแล้วเปิดเพลงเฉลิมพระเกียรติฯ แทน


 


ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปสถานีโทรทัศ เอ็นบีที ช่วงเวลา 05.00 น. ว่า ทาง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้มอบได้ พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิรวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน นำตัวผู้ที่กระทำผิดทั้งหมด 80 คน ประกอบด้วย ผู้ชาย 78 คน ผู้หญิง 2 คน ไปคุมตัวอยู่ที่ตำรวจตระเวนชายแดน และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ผู้บุกรุกเข้าสถานีโทรทัศเอ็นบีที 4 ข้อหา คือ มีอาวุธไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้เสียทรัพย์ โทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365



อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินคดีทุกคนที่เข้าไปในรั้วเอ็นบีที แต่เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่เข้าไปกับคนที่เข้าไปในอาคารสถานที่ทำลายสิงกีดกั้น สั่งการให้เจ้าหน้าที่เอ็นบีทีหยุดออกอากาศ คุกคามการทำงานสื่อมวลชน และพยายามยึดสถานีเพื่อจะทำการสื่อสารถึงประชาชนเพื่อประกาศสิ่งหนึ่งสิ่งใด เหมือนกับที่เคยมีการปฏิวัติในอดีต


 


พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่าการสั่งการมีการเชื่อมโยงกลุ่มบุคคลภาย นอกจากนี้การสั่งการของแกนนำที่สั่งให้มีการปิดสถานที่ราชการเข้าข่ายล้มล้างรัฐบาล ถือว่าเข้าองค์ประกอบล้มล้างรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี จะไม่ใช้กำลังสกัดกั้น จะไม่ใช้กำลังจนนำไปสู้ความรุนแรง


 


ในเวลา 09.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะทำงานและฝ่ายทหาร เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลประชุมหารือประเมินสถานการณ์การชุมนุมแบบนาทีต่อนาที ร่วมกับ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พร้อมสั่งการมาตรการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด


 


มีรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้เดินทางไปร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีและผู้นำเหล่าทัพ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนพล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผบ.ตร.มค.และ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ ที่ปรึกษาสบ.10 ที่ดูแลด้านการชุมนุมและความมั่นคงไม่ได้เดินทางมาทำงานที่ตร. แต่เดินทางไปร่วมประชุมสถานการณ์การชุมนุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล


 


ส่วนรายการข่าว เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวพร้อมทั้งแพร่ภาพ นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการ ข่าว 3 มิติ ที่ถูกรุมทำร้ายโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังเข้าไปดูเหตุการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ลานด้านหน้าของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที โดยนายกิตติ กล่าวในรายการว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการเข้าใจผิด ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายตนแต่อย่างใด


 


ด้านการชุมนุมที่กระทรวงการคลังผู้ร่วมชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 1 พันคน ซึ่งมีสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้รวมตัวชุมนุมกันบริเวณด้านข้างกระทรวงการคลังในช่วงเช้าวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณ และปิดประตูทุกด้านไม่ให้คนเข้าออกล่าสุด กลุ่มพันธมิตรฯ บางส่วนได้ทยอยไปชุมนุมหน้ากรมประชาสัมพันธ์ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกระทรวงการคลัง


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีลาออก และเรียกร้องให้ดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง


 


นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะปักหลักชุมนุมบริเวณหน้ากระทรวงการคลัง เบื้องต้น 1 คืน เพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลาออก รวมถึงเรียกร้องข้าราชการในกระทรวงต้องยืนอยู่บนความถูกต้องหลังที่ได้มีการตรวจสอบพบว่ารัฐบาลมีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างไม่โปร่งใส


 


พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมนายตำรวจใหญ่ เพื่อรับมือสถานการณ์ที่พันธมิตรฯ บุกยึดสถานที่ราชการ ได้มีการสั่งการให้ตำรวจใช้แผงเหล็กไปกั้นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่พันธมิตรฯ มีการประกาศว่าจะเคลื่อนขบวนไปเพื่อกดดันให้ตำรวจมีการปล่อยตัวชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปในสถานีเอ็นบีทีเมื่อเช้านี้ ล่าสุด มีรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกตัดน้ำตัดไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


 


ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่วันนี้ กลุ่มพันธมิตรฯได้กระจายกำลังผู้ร่วมชุมนุมนับหมื่นคนไปยัง ทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น


 


รายงานข่าวระบุว่า นอกจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมในกรุงเทพหลายจุดแล้ว ในต่างจังหวัดพันธมิตรฯ ยังชุมนุมปิดเส้นทางจราจร หลายแห่งเช่นที่ถนนเพชรเกษม ท่าแซะ จ.ชุมพรมีการปิดถนนล่องลงใต้ ส่วนที่ถนนมิตรภาพสีคิ้ว จ.นครราชสีมา และที่ จ.พิจิตรด้วย


 


 


........................
บางส่วนจาก
: เว็บไซต์แนวหน้า เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ เว็บไซต์คมชัดลึก เว็บไซต์สยามธุรกิจ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net