Greg Baker , AP Photo
หากเราต้องการข้อพิสูจน์ว่าโอลิมปิกเกมส์เป็นสิ่งที่จะช่วยให้จีนปรับภาพลักษณ์ของจีนได้ล่ะก็ ไม่ต้องมองไปที่ไหนไกล ลองมองดูในธนบัตรสิบหยวนก็จะพบว่า "ท่านประธานเหมาต้องจากลา สนามกีฬารังนก* เข้ามาแทน"
มีธนบัตรจำนวนมากพอที่ได้เอาภาพของอดีตผู้นำคอมมิวนิสต์ออกไป และแทนที่ด้วยสนามกีฬาที่เป็นภาพแทนโอลิมปิกเพื่อให้พวกมันเป็นของสะสม
เช่นเดียวกับเรื่องธนบัตร ภาพของจีนยุคใหม่ที่พวกเขาพยายามจะแสดงให้โลกได้รับรู้ในช่วงที่แสงสปอตไลท์เจิดจ้าของงานกีฬาโอลิมปิกยังคงสาดส่อง อาจจะดูสวยงามดีอยู่ ทว่า พรรคคอมมิวนิสต์ยังคงดำเนินการควบคุมอย่างหนาแน่น
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนและเรื่องการประชาสัมพันธ์กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์หลายระดับของจีนอย่างมุ่งมั่น ช่วยดึงให้นักท่องเที่ยวลืมภาพของจีนที่มักจะถูกมองว่ากดขี่และเต็มไปด้วยมลภาวะไปได้ และยังช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้กับชาวจีนคอยหนุนโอลิมปิกอยู่เบื้องหลังด้วย
แต่ในเวลาเดียวกัน ผู้นำประเทศก็ไม่ลดราวาศอกกับทิศทางนโยบายของเขาเลย
พวกเขาเมินเฉยกับการวิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชนและยังคงควบคุมด้านเสรีภาพในการสื่อสาร การปกครองด้วยความรุนแรงในทิเบตถูกทำให้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีความสำคัญ ผู้ต่อต้านทางการเมืองถูกกักตัว ขอทานถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง มีการใช้กำลังกับนักข่าวที่ทำข่าวเกี่ยวกับการประท้วง และพวกเขายังไม่อนุญาตให้มีการประท้วงด้วย
รัสเซล ลีห์ โมเสส นักวิเคราะห์การเมืองจีนเผยว่า "ผมคิดว่ารัฐบาลจีนทำได้ดีมากในการนำเสนอภาพลักษณ์ทางบวกให้กับต่างชาติ แต่ในวิธีการของพวกเขา ไม่ได้ทำให้พวกเขาเปลี่ยนพฤติกรรมเลย"
ขณะที่หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในประเทศสำหรับความสำเร็จในกีฬาโอลิมปิก แต่บททดสอบที่แท้จริงจะมาในเวลาหลังจากนี้ เมื่อเขาต้องรับมือกับปัญหานับหมื่นที่จีนกำลังเผชิญ โมเสสกล่าว
สำหรับชาวจีนจำนวนมาก โอลิมปิกเปรียบเสมือนภาพแทนการกลับมาของจีน หลังจากกว่าศตวรรษที่ผ่านมาคือศตวรรษแห่งความโรยแรงและน่าอดสู นี่ถือเป็นจุดสุดยอดของ "ความฝันนับร้อยปี" (100-year Dream) ที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้รับจากความสำเร็จของพวกเขา
จีนยังได้พยายามจะนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดูไม่เป็นพิษภัยต่อชาวโลก ซึ่งจะช่วยขับไล่ความรู้สึกน่าหวาดกลัวของจีน-ในฐานะประเทศที่กำลังจะผงาดสู่เวทีโลกได้ ช่วยทำให้พวกเขาฟื้นฟูสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นที่ทางเหมาะสมของพวกเขาในประชาคมโลก
อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนกลายเป็นพวกที่บูชาภาพลักษณ์ในการเป็นเจ้าภาพมากเสียจนทำให้อะไรก็ตามที่ไม่น่าดูสำหรับพวกเขา พวกเขาก็จะหาว่าเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนาไปเสีย
ย่านร้านค้าแผงลอยถูกปิดคลุมสายตาไว้ด้วยรั้วกั้นทางเท้าแสดงรูปแนวจีนโบราณที่มีหลังคาโค้ง ไม่ก็เป็นตราโอลิมปิก มีการปิดโรงงานและกันรถนับล้านออกไปจากท้องถนนเพื่อปรับลดมลภาวะให้กรุงปักกิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกปกคลุมจากฝุ่นควันอย่างเห็นได้ชัดเจน
ธนบัตร 10 หยวน (ภาพจาก Huffington Post)
สก็อต ครอนนิกค์ ประธานของศูนย์ประชาลัมพันธ์โอกิลวีในจีนบอกว่า "นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่เพื่อนำเสนอภาพประเทศจีนยุคใหม่ และผมคิดว่ามันต้องอาศัยความเอาใจใส่ในหลายๆ ด้าน" รัฐบาลจีนกำลังเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นและมีความประณีตมากขึ้นในการนำเสนอสารของพวกเขาแก่ชาวโลก สก็อต กล่าว
ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่ทุ่มงบอย่างมหาศาลโดยผู้นำจีนนั้น แทบไม่มีการแตะต้องเรื่องคอมมิวนิสม์และช่วงปีอันแสนวุ่นวายหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสม์ขึ้นสู่อำนาจในปี 1949 เลย พิธีเปิดมุ่งไปยังภาพวัฒนธรรมโบราณของจีน มีการอ้างคำกล่าวของขงจื้อ แต่ไม่มีการอ้าง "เหมา" เลยแม้แต่น้อย
ไมเคิล ดัทตัน ผู้ศึกษาวัฒนธรรมการเมืองในสถาบันเอเชียของมหาวิทยาลัยกริฟฟิทประเทศออสเตรเลีย ให้ความเห็นว่า "จีนกำลังพยายามจะนำเสนอภาพลักษณ์ของตัวเองในแง่ที่ดูไม่เป็นพิษภัย และในอีกหลายๆ แง่ที่ดูไม่เป็นสังคมนิยม พวกเขาทุ่มเททุกวิถีทางพยายามจะนำเสนอภาพของประเทศที่มีความเก่าแก่ขณะเดียวกันก็ซูเปอร์โมเดิร์น"
นอกจากนี้ตัวผู้นำจีนเองยังเปลี่ยนสไตล์ของตัวเอง มีการใส่สูทอย่าเป็นพิธีรีตองมากขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชน ประธานาธิบดี หู จินเทา ส่งยิ้มตลอดทางขณะเดินเข้าพิธีเปิด เขายังได้เข้าดูปิงปองพร้อมปรบมือเคียงคู่กับภรรยาเขาและกับประธานคณะกรรมโอลิมปิกนานาชาติ (IOC) ชาร์ค รอค ด้วย
ทางการปักกิ่งยังมีคนอีกกลุ่มที่ทำให้พวกเขาพอใจได้ คือชาวจีนกว่าล้านคนผู้ที่ได้รับผลกำไรจากการบูมทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากการเจริญเติบโตด้านความมั่งคั่งส่วนบุคคลและการสื่อสารที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกมากขึ้น ทั้งจากโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต
มันช่วยเหลือรัฐบาลในการทำให้ประชาชนลืมเกี่ยวกับการกระทำเกินขอบเขตในการปฏิวัติวัฒนธรรมของเหมาในปี 1960 และจากการปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989
มันดีกว่าที่ทางรัฐบาลจะถูกมองว่าเป็นบริกรแห่งความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดสามทศวรรษ ที่สามารถนำพาประชาชนกว่าล้านคนขยับสถานะไปเป็นชนชั้นกลาง
จัตุรัสเทียนอันเหมินเอง ก็ได้รับการประดับประดาด้วยสวนดอกไม้ขนาดใหญ่และตราโอลิมปิกปักกิ่ง 2008 ใหญ่
ขณะเดียวกันมีการประท้วงสั้นๆ ของชาวต่างชาติไม่กี่คนในช่วงก่อนเริ่มเกมส์ แล้วมันก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อมีกองกำลังตำรวจจำนวนมากเข้ามา ภาพที่เห็นได้ทั่วไปจึงกลายเป็นภาพการเต้นระบำและกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ทางการอนุมัติให้ทำ
แอนน์-มารี แบรดี นักวิทยาศาสตร์การเมืองจากมหาวิทยาลัยแคนเตอร์บิวรี่ของนิวซีแลนด์บอกว่า สำหรับชาวต่างชาติเอง รัฐบาลก็ "ต้องการให้ประชาชนเปลี่ยนท่าทีตอบโต้ของพวกเขาให้ไปไกลกว่าการที่คนๆ หนึ่งไปยืนขวางหน้ารถถัง"
การพยายามปรับภาพลักษณ์หลายด้านดูจะส่งผลลัพธ์ที่ดี
"ฉันรู้สึกประทับใจในบรรยากาศที่มีความแตกต่างหลากหลาย (cosmopolitan) ฉันไม่คิดว่ามันจะดูมีความเป็นเมืองใหญ่มากเกินไป หรือเจริญมากเกินไปเลย" สเกต เอพริล ผู้ให้คำปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์จากรัฐยูทาห์ ผู้มาชมกีฬาโอลิมปิกบางรายการที่ปักกิ่ง แสดงความเห็นไว้ "สิ่งที่เป็นอคติก่อนหน้านี้ ตอนนี้แตกสลายไปหมดแล้ว"
แรนดี ลินซ์ ประธานคิปลิ่ง แอนด์ คลาก บริษัทนำเที่ยวจีนระดับไฮเอนด์ในชิคาโกเผยว่า มีการสำรองที่นั่งล่วงหน้าสำหรับปีถัดไปเพิ่มขึ้น 40% ตั้งแต่เริ่มโอลิมปิก ในจำนวนเหล่านั้น เป็นจำนวนมากเป็นคนที่ไม่เคยคิดไปเที่ยวเมืองจีนมาก่อน จนกระทั่งมีงานโอลิมปิก
"สิ่งหนึ่งที่โอลิมปิกได้แสดงให้อเมริกาเห็น คือการที่ประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างดี มีระบบโครงสร้างคมนาคมที่ประสบความสำเร็จ และเดินทางไปมาสะดวก" แรนดีกล่าว "มันแทบจะเหมือนกับว่า พวกเขาได้โยนแถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ออกนอกหน้าต่างไปแล้ว"
*Bird"s Nest หรือ สนามกีฬารังนก ชื่อเรียกเล่น ๆ ของสนามกีฬาแห่งชาติกรุงปักกิ่ง
ที่มา
Olympics as PR: Here's the new, modern China , HENRY SANDERSON , AP , 23/08/2008
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)