Skip to main content
sharethis





คุณภาพชีวิต


 


ไข้ฉี่หนูระบาดอีสานใต้ ผู้ป่วยตายแล้ว2


วันนี้ ( 16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลงานระบาดวิทยาในพื้นที่สาธารณสุข เขต13 ภาคอีสานตอนล่าง ตั้งแต่ต้นปี 2551 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้ป่วยโรคเลปโตสไปโรซีส จำนวน 71 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 1.08 ต่อประชากรแสนคน ต่ำกว่าระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา (1.73) และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ จ.ชัยภูมิ อัตราตาย 0.03 ต่อประชากรแสนคน จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ จ.สุรินทร์ เท่ากับ 1.45 รองลงมาคือ จ.บุรีรัมย์ 1.30 ชัยภูมิ 0.98 และ จ.นครราชสีมา 0.78 ตามลำดับ ส่วนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบการแพร่ระบาดรุนแรงใน อ.ครบุรี  ด่านขุนทด โชคชัย  เทพารักษ์ แก้งสนามนาง  สีคิ้ว วังน้ำเขียว ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ มีการระบาดในเขต อ.เมือง  ภักดีชุมพล  เกษตรสมบูรณ์ หนองบัวแดง  คอนสวรรค์ ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ ระบาดมากใน อ.เมือง  บ้านกรวด  ปะคำ  ประโคนชัย  ลำปลายมาศ  บ้านด่าน  นางรอง และที่ จ.สุรินทร์ ระบาดรุนแรงใน อ.เมือง   ชุมพลบุรี  ท่าตูม   บัวเชด  จอมพระ และ อ.สังขะ


 


นพ.สมชาย  ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคเลปโตสไปโรซีสหรือไข้ฉี่หนูว่า เป็นโรคที่มักมีการแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนจนถึงต้นฤดูหนาว โดยมีหนูเป็นตัวแพร่เชื้อโรคที่สำคัญ ติดต่อโดยการสัมผัสกับปัสสาวะสัตว์นำโรคโดยตรงหรือติดทางอ้อมจากแหล่งน้ำ ทุ่งนา น้ำท่วมขังที่มีเชื้อโรคปนอยู่ เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลตามร่างกาย ผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อมาก ปวดน่อง ตาแดง ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้


 


"โรคเลปโตสไปโรซีส สามารถป้องกันได้โดย สวมรองเท้าบู๊ทกันน้ำทุกครั้งหากต้องลุยน้ำย่ำโคลนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีบาดแผล หากจำเป็นต้องลงแช่น้ำในคูคลองไม่ควรแช่น้ำนาน และเมื่อขึ้นจากน้ำต้องรีบอาบน้ำให้สะอาดโดยเร็ว ปกปิดอาหารไม่ให้หนูปัสสาวะรด และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสกับสัตว์ หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการภายหลังสัมผัสสัตว์ หรือลุยน้ำ ย่ำโคลน ภายใน 2-14 วัน ต้องรีบพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็วที่สุด ถ้าช้าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้" นพ.สมชาย ระบุ


 


ที่มา: http://www.dailynews.co.th


 






เศรษฐกิจ


น้ำมันต่ำสุด3เดือนคาดอุปสงค์หดตัว-เศรษฐกิจโลกชะลอ


นิวยอร์ก - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงต่อเนื่อง หลังโอเปคลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมัน เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก


 


ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดนิวยอร์ก เมอร์แคนไทล์ เอ็กซ์เชนจ์ (ไนเม็กซ์) ปิดที่ระดับ 113.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หลังจากลงไปแตะระดับต่ำสุดระหว่างวันที่ 111.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับจากวันที่ 2 พ.ค. และลดลงมากกว่า 35 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.


 


กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ออกรายงานคาดการณ์ฉบับล่าสุดระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวเพียง 1.17% ลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนก.ค.ที่คาดว่าจะขยายตัว 1.20% แต่ยังไม่เปลี่ยนแปลงการคาดหมายการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้าที่ 1.03% โดยคาดว่าจะเป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันในภาคการขนส่งและอุตสาหกรรมลดลง ไม่เพียงแต่ในอเมริกาเหนือ แต่รวมถึงยุโรป และแถบแปซิฟิก ซึ่งจะทำให้ความต้องการน้ำมันขยายตัวต่ำสุดนับแต่เมื่อปี 2545


 


โอเปคคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันโลกโดยเฉลี่ยในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 86.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 87.80 ล้านบาร์เรลต่อวัน


 


ราคาน้ำมันที่ร่วงลงช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ไต่ขึ้น 43.97 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 11,659.90 การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ช่วยเพิ่มความหวังต่อการฟื้นตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ก็เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับวัสดุและพลังงาน


 


ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่ำกว่าระดับ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่มีปัจจัยบ่งชี้ว่าการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังกระทบต่ออุปสงค์ทั่วโลก


 


ด้านดอลลาร์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบยูโร อยู่ที่ 1.4678 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และนักลงทุนมีความเชื่อมากขึ้นว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจแตะจุดต่ำสุดแล้ว  ขณะที่การเติบโตในเขตยูโรโซนเริ่มประสบภาวะชะงักงัน


 


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com


 






ต่างประเทศ


อันวาร์ลงเลือกตั้งซ่อมปูทางสู่นายกฯ


ปีนัง - "อันวาร์ อิบรอฮิม" ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในรัฐปีนัง มาเลเซีย ผู้สนับสนุนหลายหมื่นคนแห่ให้กำลังใจล้นหลาม คาดชัยชนะปูทางสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไป


 


นายอันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของมาเลเซีย ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เขตเลือกตั้งเปอร์มาตัง ปาอูห์ รัฐปีนัง วานนี้ (16 ส.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าเขาจะได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย ในการเลือกตั้งวันที่ 26 ส.ค.นี้ เพื่อหวนคืนสู่รัฐสภา ซึ่งจะเป็นก้าวแรกในการโค่นล้มรัฐบาลและปูทางสู่การเป็นนายกรัฐมนตร


 


ผู้สนับสนุนราว 30,000 คนส่งเสียงเชียร์อย่างเนืองแน่นระหว่างนายอันวาร์ยื่นใบสมัครที่ศูนย์รับสมัคร โดยยืนประจันหน้ากับผู้สนับสนุนของฝ่ายรัฐบาลราว 5,000 คน ทำให้เกิดการพูดจาถากถางและโต้เถียงกัน และมีตำรวจอย่างน้อย 3,000 คน รวมถึงตำรวจปราบจลาจล เฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อย


 


นายอันวาร์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี วัย 61 ปี กล่าวว่า รู้สึกประทับใจที่ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นขนาดนี้ เขาลงสมัครเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ในนามพรรคความยุติธรรมของประชาชน (เคดิลัน) หลังจากนางวัน อาซิซะห์ วัน อิสมาอิล ภรรยา ลาออกจากเก้าอี้ส.ส.ดังกล่าว เพื่อเปิดทางให้สามีได้กลับคืนสู่สภา


 


การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ได้รับการจับตามองว่าเป็นการวัดคะแนนนิยมในตัวนายอันวาร์ หลังจากถูกผู้ช่วยชายกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ โดยเขาจะต้องชิงชัยกับนายอารีฟ ชาห์ โอมาร์ ชาห์ นักการเมืองมากประสบการณ์ของพรรคอัมโน ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติฝ่ายรัฐบาล


 


อย่างไรก็ตาม นายอารีฟ ซึ่งเคยเป็น ส.ส. 2 สมัย พูดภาษาจีนกลางและจีนฮกเกี้ยนได้ คงไม่สามารถเอาชนะนายอันวาร์ ที่เป็น ส.ส.เขตนี้นานถึง 17 ปี ระหว่างปี 2525-2542  และในเขตเลือกตั้งนี้ มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นชนเชื้อสายมาเลย์มากกว่า 2 ใน 3 และมีชนเชื้อสายจีน 26% และเชื้อสายอินเดีย 6%


 


นายลิม กิต เสียง ประธานพรรคกิจประชาธิปไตย ซึ่งมีฐานเสียงเป็นชนเชื้อสายจีน และเป็นหนึ่งในพันธมิตรพรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกนายอันวาร์ เพราะขณะนี้เขตเปอร์มาตัง ปาอูห์ อยู่ในสายตาของชาวโลกแล้ว และพวกเขาจะเป็นผู้กำหนดชะตาให้อันวาร์ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


 


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com


 


สหรัฐร้องรัสเซียถอนทหารทันที


ทบิลิซิ - มะกันร้องรัสเซียถอนทหารออกจากจอร์เจียทันที แต่ผู้นำหมีขาวยังไม่กำหนดกรอบเวลา ย้ำมีอำนาจในการรักษาสันติภาพ "บุช" เตือนจะไม่อดทนต่อการข่มขู่ของรัสเซีย ยูเอ็นเผยมีผู้อพยพแล้วกว่าแสนคน


 


นางสาวคอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องเมื่อวันศุกร์ (15 ส.ค.) ให้รัสเซียถอนทหารออกจากจอร์เจียโดยทันที หลังจากนายมิกฮาอิล ซาคัชวิลี ประธานาธิบดีจอร์เจีย ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงที่จัดทำโดยสหภาพยุโรป (อียู)


 


"ด้วยลายเซ็นของประธานาธิบดีจอร์เจียในข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังรัสเซียทั้งหมดที่อยู่ในจอร์เจียจะต้องถอยทัพออกไปทันที" นางสาวไรซ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงทบิลิซิ


 


ทำเนียบประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีของฝรั่งเศส เผยว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ ประธานาธิบดีรัสเซีย ยืนยันว่าจะลงนามในข้อตกลงดังกล่าว และให้สัญญาว่าจะถอนทหาร ขณะที่รัสเซียระบุว่า นายเมดเวเดฟสนทนาทางโทรศัพท์กับตัวแทนของฝรั่งเศส เกี่ยวกับความคืบหน้าแผนการสันติภาพที่ลงนามโดยทุกฝ่าย รวมถึงข้อผูกพันพิเศษเกี่ยวกับความร่วมมือในทุกระดับ


 


ทางการสหรัฐและจอร์เจียอ้างว่า หลังจากนายเมดเวเดฟมีคำสั่งยุติการสู้รบไปแล้ว 4 วัน ทหารรัสเซียก็ยังเข้าไปยึดอาวุธสงครามในค่ายทหารของจอร์เจียที่ตั้งอยู่ถัดจากแคว้นออสเซเทียใต้ ส่วนนายซาคัชวิลี เผยว่า ทหารรัสเซียบุกเข้าไปใน 3 เมืองของจอร์เจีย ได้แก่ คัสปี บอร์โจมี และคาชูรี หลังจากมีข้อตกลงหยุดยิง


 


"เรากำลังตกอยู่ภายใต้การบุกรุกและยึดครองของรัสเซีย และข้อตกลงหยุดยิงยังไม่สามารถระงับความรุนแรงได้" นายซาคัชวิลี กล่าวขณะยืนเคียงข้างนางสาวไรซ์ พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาแทนที่การยึดครองของรัสเซีย


 


นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียต้องเคารพคำสัญญาที่จะถอนทหารออกจากเขตแดนจอร์เจียทั้งหมด และย้ำว่ามีเพียงกองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซีย ที่ประจำการอยู่ในแคว้นออสเซเทียใต้และอับคาเซีย ก่อนเกิดความขัดแย้งครั้งนี้เท่านั้น ที่สามารถประจำการในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปได้ พร้อมเตือนว่าจะไม่อดทนต่อการข่มเหงและข่มขู่ของรัสเซีย


 


นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณามทหารรัสเซียที่บุกโจมตีจอร์เจีย หลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายเมดเวเดฟที่เมืองโซชี ทางตอนใต้ของรัสเซีย ด้านนายเมดเวเดฟ ระบุว่า ยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาในการถอนทหาร เพราะรัสเซียมีอำนาจในการรักษาสันติภาพและจะทำต่อไป


 


ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่า นายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็น หารือเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง กับทูตจากสหรัฐ รัสเซีย และจอร์เจีย วานนี้ (16 ส.ค.)


 


ยูเอ็นประเมินว่า จำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นเนื่องจากความขัดแย้งครั้งนี้อาจขึ้นไปถึง 115,000 คน ก่อนหน้านี้ ยูนิเซฟ ระบุว่า มีจำนวนผู้ลี้ภัยแล้วประมาณ 100,000 ราย


 


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com


 






การเมือง


พปช.ป่วน! ส.ส.-อดีตผู้สมัคร ทุกภาคถกด่วน เข้าชื่อร่วม 200 จี้"หมัก"แจงที่ประชุมพรรคอังคารนี้ กรณี สตช.ออกหมายจับ"นายใหญ่-นายหญิง"


ที่พรรคพลังประชาชน ได้มีการประชุม ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.จากทุกภาคประมาณ 40 คน อาทิ นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส.กทม. นายประเสริฐ เด่นนภาลัย นางอนุสา  ยังตรงและนายนที สุทินเผือก หรือ กรุง ศรีวิไล  ส.ส.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายวัฒนา เซ่งไพเราะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กำแพงเพชร นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตผู้สมัคร สส.กทม.เป็นต้น


 


ต่อมา นายพีระพันธ์ แถลงภายหลังการประชุมว่าวันนี้ ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ที่มีความรู้สึกสะเทือนใจในกรณีที่สำนักงานตำรวจแหงชาติ ประกาศออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาผ่านสื่อไปทั่วประเทศ เหมือนเป็นการประจานทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ประกอบจากการลงพื้นที่ได้มีประชาชนสะท้อนความรู้สึกว่าอดีตนายกฯไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้วถามว่าจะสามารถช่วย พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรได้บ้าง


 


"พวกเราจึงขอตั้งคำถามว่าเป็นมาตราฐานของ สตช.ในการออกหมายจับกับผู้ที่ถูกกล่าวหาทุกคนใช่หรือไม่ หรือเป็นการจงใจ ทำต่อท่านทักษิณคนเดียว และ สตช.มีเจตนาอย่างไรกันแน่เพราะท่านอดีตนายกฯ เป็นถึงผู้นำประเทศได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศ ความจริง สตช.ควรจะระมัดระวัง แต่รู้สึก สตช.มีเจตนาที่ต้องการจะประจานทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ขณะนี้ดูเหมือนว่าพ.ต.ท.ทักษิณถูกละเมิดความเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่กระเทือนใจมาก  ไม่มีใครช่วยอะไรได้แต่อยากให้สื่อให้ความเป็นธรรม ทั้งที่ สตช.รู้กันว่าท่านออกไปอย่างถูกต้องและรู้ว่าอยู่ที่ไหน สามารถที่จะประสานและรอการดำเนินการระหว่างศาลและอัยการเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย สตช.ไม่น่าจะทำอย่างนี้ พวกเราจึงขอร้องทุกข์ฝ่ายสื่อไปยัง สตช.ด้วย"นายพีระพันธ์ กล่าว


 


นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มี ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นสมาชิกได้เข้าชื่อเกือบ 200 คนจะยื่นหนังสือในวันที่ 18 ส.ค.ถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะกำกับดูแล สตช.เพื่อให้มาชี้แจงในที่ประชุมพรรควันที่ 19 ส.ค.นี้ในกรณีที่ สตช.ออกหมายจับดังกล่าวว่า มีนโยบายในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร หรือเป็นมาตรฐานในการปฎิบัติของ สตช. ทั้งนี้ เนื่องจากพวกเราเกิดข้อสงสัยน่าจะมีบุคคลที่อยู่เบื้องหลังในการดำเนการดังกล่าวและมีการสั่งการเกินความจำเป็นไปหรือเปล่า



เมื่อถามว่าหากในการประชุมพรรควันที่ 19 ส.ค.นี้ นายกฯไม่เข้าร่วมด้วยจะดำเนินการอย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เชื่อว่าท่านนายกฯจะเดินทางมาชี้แจงในการประชุมพรรค แต่หากไม่ได้เข้าร่วมประชุมพรรคอาจจะชี้แจงผ่านสื่อ


 


นายวัฒนา เซ่งไพเราะ ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ภาค กทม.กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองอย่างมาก ท่านหัวหน้าพรรคฯน่าจะแสดงความเห็นเรื่องนี้บ้าง หรือว่าต่อไปหากมีการออกหมายจับต้องขึ้นหน้าหนึ่งด้วย  ทั้งนี้ ตนจะทวงถามนายสมัครที่ได้ปราศรัยหาเสียงและประกาศชัดเจนว่าจะมีการนิรโทษกรรมให้กับ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อประเทศกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย จึงอยากถามว่าท่านยังยืนยันคำพูดที่ประกาศไว้หรือไม่ จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้


 


นายวัฒนา กล่าวอีกว่าในมาตรา 39และ40 ของรัฐธรรมนูญ2550 ได้ระบุว่า ก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุด บุคคลนั้นย่อมเสมือนกับบุคคลที่ยังไม่มีความผิดและต้องให้สิทธิ์ในการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้อง แต่ขณนี้จะเห็นว่ามีการกระทำกันอยางโจ๋งครื้มและมีบางกลุ่มเอานำเรื่องดังกล่าวไปขยายความต่อ ถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ เป็นการใส่ร้ายเหมือนอาชญากร ทั้งที่คดียังไม่ถึงที่สุด นอกจากนี้จะเห็นว่าการเข้าสู่กระบวนการทางคดีก็ไม่ชอบ เนื่องจาก คตส.ที่ถือเป็นพนักงานก็มีอคติโดยตรง ไม่รับฟังคำชี้แจงและคำคัดค้านทำให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่มั่นใจในกระบวนการสอบสวนเบื้องต้นที่ถือเป็นกระบวนการยุติอย่างหนึ่งแตไม่ใช่ศาล


 


เมื่อถามว่าการประชุมหารือครั้งนี้ได้มี ส.ส.ในกลุ่มแก๊งค์ออฟโฟร์และกลุ่มเพื่อนเนวินเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า มีแต่ไม่ได้เข้ามาร่วมแถลงด้วย วันนี้มี ส.ส.มาจากทุกกลุ่มทุกภาคที่เข้าประชุม


 


ที่มา: http://www.naewna.com


 


"สุริยะใส" บี้ รบ.ต้องลาออก แนะอย่าคิดยุบสภา มั่นใจ 3 รมต.หยุดปฏิบัติหน้าที่  หลังศาลสั่งคุ้มครอง


เมื่อเวลา 18.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา  ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน ออกมาตำหนิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ออกหมายจับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และภริยา ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ทางพันธมิตรฯเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำถูกต้องแล้ว และต้องให้กำลังใจ


 


นายสุริยะใส ยังกล่าวถึง การเคลื่อนไหวตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปยังสถานทูตอังกฤษ ในวันที่ 19 ส.ค.ว่าไปเพื่อชี้แจงให้สถานฑูตอังกฤษเข้าใจว่าทำไมต้องมีการตรวจสอบคดีของ พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างเข้มข้น จาก คตส.  เพราะที่ผ่านมาองค์กรอิสระได้ถูกแทรกแซงมาตลอด นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังไม่ปกป้องการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ทางพันธมิตรฯ จึงต้องใช้สิทธิเพื่ออธิบายความให้สถานทูตอังกฤษเข้าใจ และให้พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมาประเทศไทยเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้พันธมิตรฯจะถ่ายสำเนาข้อมูลคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีหุ้น บริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนคอมมินิเคชั่น จำกัด และข้อเท็จจริงต่างๆ ไปเผยแพร่ ให้สถานทูตนานาประเทศได้ทราบด้วย


 


นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงเรื่องการยุบสภาว่า พันธมิตรฯ ไม่เห็นด้วยแม้จะยอมรับว่ารัฐบาลบริหารงานล้มเหลว แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายนิติบัญญัติ ทางพันธมิตรฯเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดทางรัฐบาลควรจะลาออกมากกว่า เพื่อรักษารัฐธรรมนูญเอาไว้ ถ้าหากยุบสภาไปโดยเร็วจะทำให้รัฐบาลนอมินีกลับมาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายตามที่ พ.ต.ท. ทักษิณวางไว้


 


นอกจากนี้ นายสุริยะใส ยังกล่าวอีกว่าในวันที่ 18 ส.ค. นี้ที่ศาลปกครองนัดไต่สวนฉุกเฉิน กับ 3รัฐมนตรีกรณีหวยบนดิน ขณะนี้ทีมทนายความได้เตรียมเอกสารไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งคุ้มครองและทำให้ 3 รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที่ทันที จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิจารณาคดีจนถึงที่สุด


 


ที่มา: http://www.naewna.com


 


นักวิชาการเรียกร้อง"สมัคร"แสดงจุดยืนประเทศ


 "ปณิธาน" เห็นด้วยกับการที่ก.ต่างประเทศออกแถลงการณ์โต้ "ทักษิณ" ที่กล่าวหากระบวนการยุติธรรม เพื่อให้น้ำหนักมาก นายกฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรชี้แจงเพิ่ม ระบุ ไม่สามารถเปลี่ยนทัศนะต่างชาติได้เพียงข้ามคืน ชี้พันธมิตรฯดาวกระจายไปสถานทูตอังกฤษได้


 


 (16ส.ค.)นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความชัดเจนของคำชี้แจงกระทรวงการต่างประเทศที่ตอบโต้แถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้แจงถึงจุดยืนของประเทศต่อประชาคมโลก อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อรักษาสถานภาพให้นานาประเทศเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งการชี้แจงโดยใช้ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก กรณีที่ประเทศถูกกล่าวหาจากอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีคนรู้จักและเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ


 


นายปณิธาน กล่าวว่าความชัดเจนของคำชี้แจงขึ้นอยู่กับการมองของแต่ละประเทศ แต่โดยขณะนี้หลายประเทศก็มองประเทศไทยว่าไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตย และกระบวนการต่างๆ ของไทยไม่ก้าวหน้า ดังนั้น การชี้แจงจึงควรจะต้องทำอย่างหนักแน่นเพื่อแสดงจุดยืน แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของต่างประเทศในข้ามคืน เป็นเรื่องต้องต้องใช้เวลา ขณะเดียวกันการชี้แจงอาจเป็นการทำหนังสือผ่านช่องทางการทูตผ่านหน่วยงานยุติธรรมที่เป็นระดับสากล


 


"รัฐบาลควรให้บุคคลระดับสูงออกมาชี้แจง ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยให้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน และท้ายที่สุด นานาชาติต้องยอมรับหลักการกระบวนการยุติธรรมของไทย ในทางการเมือง หากนายกรัฐมนตรีออกมายืนยันจะทำให้เกิดชัดเจนมากขึ้นว่า รัฐบาลไทยมีความตั้งใจจริงในการดำเนินคดีกับอดีตนายกรัฐมนตรี และต้องการทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปได้จนถึงที่สิ้นสุด อีกทั้งยังเป็นการปกป้องผลประโยชน์ ชื่อเสียงของประเทศด้วย จึงเป็นสิ่งสิ่งที่ควรจะทำ" นายปณิธาน กล่าว



 


นายปณิธาน ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะใช้แผนดาวกระจายไปยังหน้าสถานทูตอังกฤษเพื่อเรียกร้องไม่อนุญาตให้อดีตนายกรัฐมนตรีลี้ภัย ว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ และในการเมืองของภาคประชาชนหลายประเทศทำกันอยู่ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของสันติวิธี ไม่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ในแง่ของความวุ่นวาย โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ทางการทูต


 


ที่มา: http://www.komchadluek.net


 






ความมั่นคง


"หยุดยิง"ครบเดือนไฟใต้ยังโชน-บึ้มสะพานรถไฟเจ็บ1


นักวิชาการจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ชี้ หนึ่งเดือนหลังกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ฯ แถลงหยุดยิง สถานการณ์ในพื้นที่ยังป่วนหนัก เกิดเหตุร้ายเฉลี่ยมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน เชื่อเป็นผลพวงกลุ่มไม่เอาด้วยกับก๊วนกำมะลอ ขณะที่ไฟใต้ยังโชน ลอบบึ้มสะพานรถไฟที่รือเสาะ ทหารพรานเจ็บ 1 ประกบยิงผู้ใหญ่บ้านที่ยะรัง เจ้าตัวโดดรถหนีรอดตายหวุดหวิด


 


สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงรุนแรงและเกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะครบเวลา 1 เดือนหลังมีคำแถลงหยุดยิงของกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย" แล้วก็ตาม


 


อนึ่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2551 บุคคลนิรนาม 3 คนซึ่งอ้างว่าเป็นกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ได้ออกมาแถลงหยุดยิงและหยุดก่อความไม่สงบทุกรูปแบบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยทุกช่อง โดยการประสานงานของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก แม้ต่อมาหลายฝ่ายจะออกมาตั้งข้อสงสัยถึงคำแถลงดังกล่าว แต่ พล.อ.เชษฐา ก็ขอเวลาพิสูจน์ 1 เดือน หากครบแล้วสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว


 


ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) กล่าวเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่า เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าจับตามอง เนื่องจากเดือน ส.ค.ของทุกปีเป็นช่วงที่อัตราความรุนแรงพุ่งสูงที่สุด โดยมีหลักฐานทางสถิติยืนยัน


 


อย่างไรก็ดี สาเหตุของความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นสามารถมองได้หลายแง่มุม รวมไปถึงประเด็นการแถลงหยุดยิงของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วย เพราะคำแถลงดังกล่าวอาจเป็นแรงส่งหรือแรงขับให้กลุ่มที่เลือกไม่ปฏิบัติตามแถลงการณ์หยุดยิง เลือกที่จะส่งสัญญาณก่อเหตุรุนแรงกับเป้าหมายในพื้นที่เพื่อแสดงศักยภาพ


 


สำหรับสถิติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรอบ 30 วันหลังคำประกาศหยุดยิงของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทยนั้น มีเหตุร้ายไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง หรือวันละเกือบ 2 ครั้ง กระจายกันทั้งสามจังหวัดชายแดน



บึ้มสะพานรถไฟรือเสาะทหารพรานเจ็บ 1


ด้านสถานการณ์ในพื้นที่เมื่อวานนี้ เวลา 06.30 น. พ.ต.ต.เรืองศักดิ์ บัวแดง สารวัตรเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดสังหารทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4611 กรมทหารพรานที่ 46 บริเวณคอสะพานรถไฟ ห่างจากสถานีรถไฟย่อยบ้านสะโลบูกิตจือแร หมู่ 7 ต.รือเสาะ ประมาณ 200 เมตร ทำให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 1 นาย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ


 


ในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดบริเวณคอสะพานริมรางรถไฟ ลึก 12 นิ้ว กว้าง 24 นิ้ว มีชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนักประมาณ 10 กิโลกรัมกระจายเกลื่อน โดยระเบิดดังกล่าวจุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน


 


ส่วนผู้บาดเจ็บ เพื่อนทหารได้นำส่งรักษาโรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ฮาฟิต บือราเฮง อายุ 18 ปี ยังโชคดีที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


 


สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.สมชาย ช่วยสังข์ หัวหน้าชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 4611 ได้นำกำลัง 6 นาย ออกลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยตามเส้นทางรถไฟ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่าริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดที่นำไปฝังไว้บริเวณคอสะพานรถไฟ จนเกิดระเบิดขึ้น 1 ครั้ง แรงระเบิดทำให้ อส.ทพ.ฮาฟิต ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว


 


รวบ 3 ผู้ต้องสงสัยเปื้อนสารระเบิด


อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้รถไฟสายสุไหงโก-ลก-นราธิวาส ซึ่งเป็นขบวนท้องถิ่นขบวนแรกของวัน ต้องเสียเวลากว่า 2 ชั่วโมง เพราะเจ้าหน้าที่ต้องสั่งหยุดเดินรถชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย และทหารจากชุดเฉพาะกิจ (ฉก.) นราธิวาส 30 ได้สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณหลังสถานีรถไฟย่อยบ้านสะโลบูกิตจือแร จนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นชายฉกรรจ์ได้  3 คน  เมื่อนำตัวไปสอบสวนและนำเครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจตามร่างกาย พบสารปนเปื้อนวัตถุระเบิด จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลต่อไป


 


ประกบยิง ผญบ.ที่ปัตตานีรอดหวุดหวิด


เวลา 08.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.อาคม บัวทอง สารวัตร สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายชนบท ท้องที่หมู่ 4 บ้านปูรากาซิง ต.กอลำ อ.ยะรัง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ


 


ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังช่วยเหลือ นายสาการียา เต๊ะแต อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านปูรากาซิง จึงเข้าไปสอบสวนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสาการียา กำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระ ระหว่างทางมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่หลายนัด แต่นายสาการียากระโดดลงจากรถทัน ทำให้ไม่ได้รับอันตราย จากนั้นคนร้ายได้พยายามเลี้ยวรถกลับมายิงซ้ำ แต่มีชาวบ้านเข้ามาช่วยเสียก่อน ทำให้คนร้ายหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ


 


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net