Skip to main content
sharethis

อัยการคดีที่ดินย้ำทำหน้าที่ปกติ แม้"ทักษิณ-หญิงอ้อ"ไม่อยู่ไทย


อัยการคดีที่ดินฯ ย้ำทำหน้าที่ปกติแม้"ทักษิณ-พจมาน"ไม่อยู่ไทย ระบุ กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องรอคดีสิ้นสุด "ไกรกฤษ์" ยันกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถแทรกแซงได้ ส่วนคำแถลงการณ์หมิ่นศาลหรือไม่ เป็นเรื่ององค์คณะไปพิจารณาเอง


 


(12ส.ค.) นายนันทศักดิ์ พูนสุข อธิบดีอัยการ ฝ่ายคดีศาลสูง เขต 8 ในฐานะคณะทำงานคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินรัชดา กล่าวถึงการดำ เนินการของอัยการที่รับผิดชอบคดี หลังศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยในคดีดังกล่าวที่ไม่มารายงานตัวต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า อัยการคงว่าความตามปกติ จนกว่าจะเสร็จคดีในวันที่ 22 สิงหาคม 2551


 


ส่วนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำนักงานคดีต่างประเทศที่จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว เพราะคดียังไม่สิ้นสุด และเมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว ก็ต้องดูด้วยว่า กฎหมายที่ลงโทษ เป็นความผิดของทั้ง 2 ประเทศหรือไม่ เพราะหลักเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือส่งมาเพื่อรับโทษ หรือส่งมาเพื่อดำเนินคดีต่อ


 


"กรณีคุณหญิงพจมานคดีร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ทราบว่า จำเลยทั้ง 3 คน ไม่อยู่ในประเทศแล้ว แต่คดีนี้อยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ จึงถือว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่ถ้าครบกำหนด 30 วัน แล้วไม่มีการอุทธรณ์ ก็ถือว่าคดีสิ้นสุด จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการขอผู้ร้ายข้ามแดน" นายนันทศักดิ์ กล่าว


 


ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในคดีอาญาไม่สามารถขอลี้ภัยได้ นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางการขอลี้ภัยถือเป็นสิทธิผู้ร้องในการต่อ สู้ ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ อาจร้องขอลี้ภัยต่อกระทรวงมหาดไทยอังกฤษ ตามหลักเกณฑ์กฎหมายอังกฤษ ซึ่งอำนาจการพิจารณาเป็นของอังกฤษ ไม่เกี่ยวกับไทย


 


หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เดินทางกลับมาขณะนี้ส่วนคดีอื่นๆจะดำเนินการอย่างไรนั้น นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นคดีเข้าสู่กระ บวนการศาลแล้ว ศาลจะจำหน่ายคดีก่อน เนื่องจากไม่มีตัวบุคคลอยู่ในประเทศ ซึ่งจะมีการดำเนินการต่อไปเหมือนคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษกในตอนแรก ที่จำเลยไม่เดินทางมาในวันที่ศาลนัดครั้งแรก


 


ด้านม.ล.ไกรกฤษ์ เกษมสันต์ อดีตรองประธานศาลฎีกา ซึ่งเป็นผู้พิพากษาอาวุโสศาลฎีกา อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวกรณีพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมของไทยถูกแทรกแซง ว่า ตนไม่อยากที่ไปกล่าวอะไรที่ไปตอบโต้ในเรื่องนี้เพราะอยู่ในตำแหน่งตุลาการดูแล้วไม่เหมาะสม ส่วนที่มีการกล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมนั่นถูกแทรกแซง เท่าที่ตนทำหน้าที่อยู่ และอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และอยู่ในสถาบันตุลาการ ตนก็มองเรื่องนี้อยู่ เท่าที่เห็นก็ไม่เห็นจะมีการแทรกแซง


 


ส่วนจะมีความพยายามจะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ตนไม่รู้ อย่างไรก็ตามสถาบันตุลาการก็ทำหน้าที่ดีที่สุดและตุลาการจะต้องทำหน้าที่ตุลาการให้ดีที่สุด ส่วนคำแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จะหมิ่นอำนาจศาลหรือไม่ ตนไม่ได้เป็นองค์คณะในคดีดังกล่าว จึงไม่สามารถที่จะชี้แจงได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับตุลาการที่เป็นองค์ที่รับผิดชอบคดีจะไปพิจารณากัน


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตุลาการสายศาลฎีกาที่มารับตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งเก่าและใหม่ อาทินายนุรักษ์ มาประ ณีต นายสมชาย พงษ์ธา นายธานิศ เกศวพิทักษ์ สายว่างแต่ไม่รับสาย ส่วนอื่นๆก็ปิดโทรศัพท์ หรือไม่ก็ตัดสายทิ้ง ขณะที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเคยเป็นองค์คณะในการพิจารณา หากพูดไปก็จะเป็นการเสียมรยาท


 


เตรียมฟ้องยึดทรัพย์ "ทักษิณ "7.6 หมื่นล้านสัปดาห์หน้า


วันที่ 12 ส.ค.51 นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานอัยการสำนวน คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ( คตส.) เปิดเผยถึงการพิจารณาสำนวนคดีร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 76,000ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นของแผ่นดินเนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติอันเนื่องมาจากการใช้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ให้กับธุรกิจของครอบครัวชินวัตร ว่า หลังจากที่คณะกรรมการร่วมอัยการ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหงชาติ (ป.ป.ช.) ได้ประชุมหารือกันแล้ว ป.ป.ช.ยืนยันต้องการให้อัยการส่ง


 


สำนวนยึดทรัพย์ทั้ง 7.6 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อัยการได้เขียนบรรยายฟ้องในคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดพิจารณาลงความเห็น ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำสำนวนส่งฟ้องต่อศาลได้โดยจะมอบหมายให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นผู้นำสำนวนไปยื่นฟ้องในสัปดาห์หน้า


 


ศาลอาญาจ่อหมายจับ"อ้อ"ซุกหุ้นซ้ำรอยศาลฎีกา


12 สิงหาคม 2551 นายณรัช อิ่มสุขศรี เลขานุการศาลอาญา กล่าวถึงกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งเป็นจำเลยคดีจงใจหลีกเลี่ยงการเสียภาษีหุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ( มหาชน ) ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ว่า หลังจากศาลฎีกา ฯ ออกหมายจับคุณหญิงพจมาน แล้ว ขณะนี้สำนักงานเลขานุการศาลอาญาก็กำลังรวบรวมข้อเท็จจริง หากปรากฏแน่ชัดว่า คุณหญิงพจมาน หลบหนีไปที่ประเทศอังกฤษแล้ว ในวันที่ 13 สิงหาคม จะนำข้อเท็จจริงนี้เข้าหารือกับ นายปราโมทย์ พิพัทธ์ปราโมทย์ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญา ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดีจงใจเลี่ยงภาษีว่า องค์คณะผู้พิพากษาศาลอาญาจะเห็นสมควรให้มีหมายเรียกจำเลยและนายประกันมาตรวจสอบว่ายังมีตัวตนอยู่หรือไม่ ถ้าคุณหญิงพจมานไม่มาโดยไม่ปรากฏเหตุผลที่รับฟังได้ ก็เท่ากับว่าหลบหนีองค์คณะอาจพิจารณาสั่งปรับเงินประกันจำนวน 5 ล้านบาท เพราะผิดสัญญาประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ และออกหมายจับคุณหญิงพจมาน ในคดีดังกล่าวด้วยเพื่อดำเนินการให้ได้ตัวคุณหญิงพจมานมาศาล


 


" ตามกฎหมายอาญาคดีหลบเลี่ยงภาษีฯ คุณหญิงพจมานถือเป็นจำเลยที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ หากศาลปรับเงินประกันและมีหมายจับเมื่อได้ตัวมา คุณหญิงพจมาน มีสิทธิขอยื่นประกันอีกครั้ง แต่ถ้าศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าจะไม่หลบหนีก็จะไม่ให้ประกัน คุณหญิงพจมานก็จะต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเรียกว่า ขังระหว่างอุทธรณ์เพราะไม่ได้ประกัน ยังไม่เรียกว่าเป็นการคุมขังตามคำพิพากษาจำคุก 3 ปีของศาลชั้นต้นเพราะคดียังมีการอุทธรณ์อยู่ " เลขานุการศาลอาญา กล่าว


 


เมื่อถามว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และที่ 3 ที่ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปีและ 2 ปี ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษหรือหลบหนีไปพร้อมกับคุณหญิงพจมานด้วยแล้วจะดำเนินการด้วยหรือไม่ นายณรัช กล่าวว่า องค์คณะ ฯ คดีจงใจเลี่ยงภาษีฯ ก็มีอำนาจออกหมายจับและสั่งปรับเงินประกันที่บุคคลทั้งสองเช่นกัน ซึ่งทั้งสองศาลตีราคาประกันไว้คนละ 5 ล้านบาทเหมือนคุณหญิงพจมาน ซึ่งรวมวงเงินประกันทั้งสามแล้วเป็นเงิน 15 ล้านบาท


 


 


ที่มา: http://www.komchadluek.net, http://www.siamrath.co.th

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net