Skip to main content
sharethis


 



 



 


ยอดเลิกจ้างโฮยาพุ่ง 50 คน ทั้งหมดเป็นกรรมการบริหารและสมาชิกสหภาพแรงงาน ด้านคนงานชุมนุมเหนียวแน่นหน้านิคมฯ จ.ลำพูน ร่วมฟังสหภาพชี้แจง แห่จ่ายเงินบำรุงสหภาพ ยืนยันการเพิกถอนทะเบียนสหภาพแรงงานยังไม่สิ้นสุด สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ และสหภาพแรงงานยังอยู่


 


ตามที่ นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในฐานะนายทะเบียนสหภาพแรงงานมีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนสหภาพแรงงาน โดยอ้างว่าผู้ขอจดทะเบียนตั้งสหภาพขาดคุณสมบัติตามมาตรา 95 พรบ.แรงงานสัมพันธ์ และทันทีที่มีคำสั่งเพิกถอน ผู้บริหาร บจก.โฮยา กลาสดิสค์ (ประเทศไทย) ได้มีหนังสือเลิกจ้างกรรมการบริหารสหภาพแรงงานและคณะกรรมการลูกจ้างทั้งคณะ 21 คน และพนักงาน ตำแหน่งช่างเทคนิค 22 คน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.


 


และล่าสุดในวันที่ 5 ส.ค. ได้มีการเลิกจ้างพนักงานตำแหน่งช่างเทคนิคอีก 7 คน ทำให้ขณะนี้มีแกนนำสหภาพแรงงานและพนักงานถูกเลิกจ้างรวม 50 คน และตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. เป็นต้นมา มีรายงานว่าทางบริษัทได้ประกาศผ่านเสียงตามสายในโรงงานอยู่เป็นระยะๆ ว่า สหภาพแรงงานถูกเพิกถอนไปแล้ว


 


สำหรับสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) นั้น สหภาพแรงงานอิเล็คทรอนิคส์และเครื่องไฟฟ้าสัมพันธ์ (สอฟส.) จัดชุมนุมเพื่อชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกสหภาพแรงงาน โดยเป็นการจัดการชุมนุมเป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา


 


อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ห้ามมิให้นำเครื่องเสียงเข้าไปบริเวณหน้าโรงงาน จึงทำให้การชุมนุมในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) ทางสหภาพแรงาน ได้ย้ายที่ชุมนุมมาเป็นบริเวณพื้นที่หน้าทางเข้านิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ทางฝั่งตะวันตกแทนการชุมนุมบริเวณหน้าโรงงาน โดยการชุมนุมช่วงเย็นมีพนักงานราว 200 คน ที่รอทำงานช่วงกลางคืนมาฟังคำชี้แจงของแกนนำสหภาพแรงงาน ขณะที่หลังเวลา 20.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเลิกเวลาทำงานของพนักงานช่วงกลางวัน มีพนักงานออกมาร่วมชุมนุมประมาณ 500 คน โดยการชุมนุมวันนี้ มีการเก็บค่าบำรุงสหภาพแรงงาน ซึ่งเป็นการดำเนินงานของสหภาพแรงงานตามปกติ


 


โดยแกนนำสหภาพแรงงานได้ปราศรัยชี้แจงพนักงานซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานว่า การเพิกถอนทะเบียนสหภาพแรงงานโดยนายทะเบียนยังไม่สิ้นสุด สหภาพแรงงานยังคงดำเนินการได้อยู่ เพราะยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนนี้ได้ภายใน 15 วัน และหากอุทธรณ์ไม่ได้ ก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลแรงงานได้ นอกจากนี้ในเวลา 20.30 น. นายสฤษดิ์ เจียมกมล นักวิชาการด้านแรงงานและทนายความจากสภาทนายความ ได้ปราศรัยชี้แจงข้อกฎหมายแรงงานให้กับสมาชิกสหภาพแรงงานด้วย


 


อนึ่ง สหภาพแรงงานอิเล็คทรอนิคส์และเครื่องไฟฟ้าสัมพันธ์ (สอฟส.) ได้การจดทะเบียนจากนายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะนายทะเบียนสหภาพแรงงาน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2550 เลขทะเบียน 984 ปัจจุบันมีสมาชิกสหภาพราว 2,900 คนเศษ


 


บจก.โฮยา กลาสดิสค์ (ประเทศไทย) เป็นหนึ่งบริษัทในเครือ บรรษัทโฮยา (Hoya Corporation) ซึ่งมีสำนักงานแม่ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในประเทศไทย มีบริษัทในเครือโฮยาอยู่ทั้งหมด 5 บริษัท ได้แก่ บจก.โฮยา กลาสดิสค์ (ประเทศไทย) - มี 3 โรงงาน, บจก.โฮยา ออพติกส์ (ประเทศไทย) มีโรงงานเดียว ทั้งสองแห่งที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลำพูน และ บจก. ไทย โฮยา เลนส์ ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ, บจก.โฮยา เลนส์ ไทยแลนด์ ตั้งอยู่ที่ปทุมธานี และอยุธยา แพลนท์ (Ayutthaty Plant) ตั้งอยู่ที่นิคมอุสาหกรรม ปางปะอิน อยุธยา


 


โฮยา มีสาขาอยู่ทั่วเกือบทุกภูมิภาค ทั้งในอเมริกา (สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย) ยุโรป (สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เนเธอร์แลนด์) และเอเชีย (สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์) ทั้งนี้โฮย่า ดำเนินธุรกิจโดยมีบริษัทผลิตสินค้าหลักอยู่ 3 ประเภท คือ (1) อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนดิสค์หน่วยความจำ อุปกรณ์เลเซอร์ (2) เลนส์สายตา คอนแท็คเลนส์ และ (3) แก้วคริสตอล เครื่องแก้วต่างๆ


 


โฮยา คอร์ปอร์เรชั่น จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484 ด้วยเงินทุนตั้งต้นมากกว่า 6 พันล้านเยน และเมื่อเดือนสิงหาคม ปีนี้เอง ที่โฮยาดึงเอา PENTAX เข้ามาร่วมกิจการด้วย ปัจจุบันมีจำนวนหุ้นประมาณ 85,979 หุ้น ในจำนวนผู้ถือรายใหญ่ประมาณ 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นนิติบุคคล - ธนาคาร กองทุนร่วมจากหลายบริษัท และบริษัทประกันภัย ทั้งสัญชาติญี่ปุ่น อเมริกันและยุโรป


 


ปัจจุบัน โฮยามีบริษัทเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ดำเนินการผลิตสินค้าจำนวนกว่า 59 ประเภท ในกว่า 29 ประเทศ มีอัตราการจ้างงานทั้งหมดทั่วโลก จำนวน 36,000 คน (กันยายน 2550) ซึ่งประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตเลนส์ อันดับต้นๆ ของโฮยาในเอเชีย และเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุด (อีกสองประเทศ คือ จีน และฮังการี) เพื่อการส่งออกจำหน่ายทั่วโลก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net