Skip to main content
sharethis


สนธิทำนายสัปดาห์หน้าจะเกิดความพินาศฉิบหายกับ "คนบางคน"

บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วานนี้ (25 ธ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัย โดยกล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า เชื่อหรือไม่ว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความพินาศฉิบหายเกิดขึ้นกับบางคนในประเทศไทย


 


นายสนธิ กล่าวว่า เชื่อหรือไม่ว่าการออกหมายจับตนเองนั้นเป็นการวางแผนอย่างต่อเนื่องไปจนกระทั่งมีการระดมพลจากภาคเหนือ-อีสานมากดดันศาลในวันที่ 31 ก.ค.นี้ แต่ด้วยพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทำให้ตนได้รอดพ้นจากเพทภัย โดยตำรวจไม่มีทางเลือกต้องให้ประกันตัว


 


 


อ้างมีคนสั่งเก็บตนกับจำลอง โชคดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง


นายสนธิ ยังได้เปิดเผยแผนชั่วของบางคนว่า มีความพยายามสั่งเก็บ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และตนเอง โดยวันนั้นถ้าไม่ได้ประกันตัวตนเองก็ต้องตายทันที เพราะมีการเตรียมทีมงานเอาไว้แล้ว แต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาคุ้มครอง สิ่งศักดิ์ดังกล่าวที่ว่าคืออะไรคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไม่มีวันทอดทิ้งพวกเรา


 


โดยขณะที่นายสนธิปราศรัยอยู่ได้มีลมพายุฝนรุนแรงมาก


 


เขายังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน บอกว่าไม่เกิน 7 วันจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้น สำหรับตนเองเชื่อว่าเร็วกว่านั้น เพราะเห็นภาพที่จังหวัดอุดรธานีทำให้ต้องลุกขึ้นมาสู้


 


"เราจะไม่ทนกับพวกมึงอีกต่อไป เราจะยืนหยัดสู้ เพราะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย ถ้าไม่สู้เราก็จะไม่มีทางได้แผ่นดินของเราคืนมา" นายสนธิ ระบุ


 


 


แช่งบางคนพร้อมครอบครัวบริวารให้ตกนรกใน 3 วัน 7 วัน


นายสนธิ กล่าวว่า บางคนหลังชนกำแพงปากบอกว่าหันหลังให้การเมือง ทั้งที่ความจริงมีแต่การเมือง เหม็นเน่าไปหมด ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเมืองรวมทั้งทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ล้วนมาจากฝีมือของมันทั้งนั้น


 


"ขอให้พี่น้องทั้งหมดร่วมกันรวมพลังจิตสาปแช่งคนๆ นั้นพร้อมครอบครัวของมันและบริวารของมันได้ตกนรกในขุมที่ลึกที่สุดภายใน 3 วัน 7 วัน เพราะความชั่วของมัน ให้อภัยไม่ได้เลย" นายสนธิ ระบุและแฉแผนชั่วอีกว่า นอกจากต้องการฆ่า พล.ต.จำลอง และตนเองแล้วก็จะระดมคนในต่างจังหวัดมาป่วนแล้วประกาศภาวะฉุกเฉิน นำไปสู่การยึดอำนาจ


 


"พล.อ.ปรีชา"สุดทน"หุ่นเชิด"อำมหิต ปลุกทหารร่วมสู้ลั่นต้องไปใน 7 วัน
พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขอลัดคิวขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ เพื่อบอกความรู้สึกที่เหลือทนกับเหตุการณ์ม็อบป่าเถื่อนไล่ทำร้ายพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ จ.อุดรธานี โดย พล.อ.ปรีชา ขี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวรัฐบาลรู้เห็นเป็นใจด้วย นับเป็นการใช้อำนาจปกครองที่อำมหิต ดังนั้น รัฐบาลนี้จึงหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไป และขอเรียกร้องให้ลาออกภายใน 7 วันขณะเดียวกันเรียกร้องทหารหาญออกมาร่วมสู้และปกป้องประชน และแสดงความผิดหวังต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ห้ามกำลังพลออกมาร่วมกับพันธมิตรฯ ทั้งยังไม่ยอมใช้อำนาจในฐานะ ผอ.รมน.เพื่อรักษาความสงบ จึงขอประกาศตัดความเป็นพี่น้องและเป็นศัตรูกันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศตายเป็นตาย เพื่อหยุดยั้งรัฐบาลทรราช


 


พันธมิตรสลายกลับมัฆวาน 3 ชม.ปิดถนนปราศรัย


ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมกันที่บริเวณบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต แกนนำพันธมิตรฯ นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของปตท. ว่า เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้นบางกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนส่วนรวม และเรียกร้องทวงคืนสมบัติของแผ่นดิน ทั้งนี้การชุมนุมของพันธมิตรฯ ใช้เวลา กว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นได้สลายการชุมนุม ประกาศไปปักหลักชุมนุมต่อที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ อีกทั้ง มีการจุดประทัดส่งท้ายก่อนเดินทางกลับ


 


ส่วนบรรยากาศด้านในบริษัท ปตท.ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารได้เรียกประชุม พร้อมสั่งปิดประตูเข้า-ออกทุกทาง ห้ามบุคคลภายนอก รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปโดยเด็ดขาด ทั้งออกหนังสือเวียนห้ามพนักงานออกมาดูการชุมนุม หรือยั่วยุให้เกิดปัญหา โดยให้ทำงานกันตามปกติ


 


 


พันธมิตรเรียงหน้าประณามผู้ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย


นอกจากนี้ ในช่วงบ่าย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 16 ประณามกลุ่มต่อต้านที่เชื่อว่ามีกลุ่มการเมืองท้องถิ่นสนับสนุนให้บุกเข้าทำร้ายร่างกายและทำลายเวทีพันธมิตรฯ ในจังหวัดต่าง ๆ พร้อมเปิดวิดีทัศน์ภาพเหตุการณ์การปะทะกันล่าสุดที่จังหวัดอุดรธานีเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำฯ กล่าวประณามกลุ่มต่อต้านที่ทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ อุดรธานีจนได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน ว่า โหดเหี้ยม แม้แต่ผู้ฟุบลงกับพื้นแล้ว ยังเข้าไปกระหน่ำซ้ำเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลย โดยห่วงว่าอาจนำไปสู่การนองเลือดได้ในอนาคต จึงเรียกร้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ควรส่งทหารเข้ามาช่วยดูแล เพราะไม่อาจปฏิเสธหน้าที่ได้ ในฐานะรับผิดชอบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.


 


ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำฯ กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นการปล่อยให้มีกลุ่มอันธพาลทางการเมืองมากระทำการป่าเถื่อนต่อกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันโดยยึดหลักอหิงสา ทั้งนี้จะรอดูปฏิกิริยาจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทั้งจะร้องเรียนไปยังองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ตลอดจนจะดำเนินคดีทางอาญากับผู้กระทำผิด และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ต่อไป


 


 


ทักษิณวอนทุกฝ่ายลดทิฐิ เก็บแรงแก้ปัญหาบ้านเมือง


ขณะที่ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางลงมาจากตึกชินวัตร 3 เพื่อทักทายกับกลุ่มคนรักทักษิณ ที่มารออวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 59 ตั้งแต่ช่วงเช้า นอกจากมีการมอบดอกไม้ ถ่ายรูป แจกลายเซ็นต์แล้ว กลุ่มคนรักทักษิณยังได้ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ และเพลงโปรดช่วยรักษาคนดี เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วย ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างเห็นได้ชัด


 


จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อยากให้ประเทศสงบสุขโดยเร็วไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย หากความสงบไม่เกิดขึ้นประชาชนจะเดือดร้อน ประเทศจะเสียหาย ขณะนี้ตนเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญ นั่งสมาธิ อโหสิกรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวร คนมุ่งจองเวรทั้งหลายตลอดเวลา


 


"ขอให้ทุกฝ่ายลดทิฐิลง เพื่อเก็บแรงแก้ปัญหาบ้านเมือง พร้อมยืนยันไม่เล่นการเมืองอีก และหากคดีต่าง ๆ เสร็จสิ้นก็จะไปทำมาหากินต่อ" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า กรณีข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับการมาให้ผลประโยชน์กับตน อีก 2 วัน เมื่อมีการแต่งตั้ง รมว.ต่างประเทศคนใหม่ จะช่วยแก้ปัญหาได้ นโยบายการต่างประเทศควรเป็นเรื่องของประเทศ ไม่ใช่พวกหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง


 


 


อนุพงษ์หวั่นภาพลักษณ์ชาติเสียหาย ไทยตีกันเอง


ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าววานนี้ (25 ก.ค.) ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนรักอุดร ทำร้ายกันเองที่จ.อุดรธานี และที่จ.บุรีรัมย์ ว่า ไม่อยากให้มีการทำร้ายกันเอง เพราะมีผลเสียกับประเทศชาติ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชน ส่วนปัญหานี้จะยุติอย่างไรนั้น  กองทัพบกไม่มีอำนาจในเรื่องนี้


 


ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองตนถือว่าเป็นเรื่องปกติในสังคม  แต่จะต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ทั้งนี้อยากเรียกร้องต่อกลุ่มบุคคลทั่วไปที่จะออกมาเคลื่อนไหวหลังจากนี้ว่า การดำเนินการต่างๆ ไม่ควรมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเหตุรุนแรงหรือการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม   เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของผู้ชุมนุมแล้ว  ยังจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก


 


"เหตุการณ์ปะทะกันที่จ.อุดรธานีเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น และน่าเสียใจ ใครจะใช้สิทธิเสรีภาพควรอยู่ในขอบเขตของรัฐธรรมนูญ หากใครมีความเห็นอย่างไร จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ไม่ควรไปทำร้ายผู้อื่น และขอให้เจ้าหน้าที่ และรัฐบาล เร่งพิสูจน์ให้เห็นว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย นำคนผิดมาลงโทษ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ฝ่ายที่มีความเห็นเหมือนรัฐบาลอยู่เหนือกฎหมาย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


 


ส่วนนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันว่า ระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับเครือข่ายต่อต้านพันธมิตรฯ ที่จ.บุรีรัมย์ว่า  ยังไม่ทราบเรื่อง แต่คิดว่าเป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกันธรรมดา การเมืองไทยก็อย่างนี้ ต่างคนต่างเอาชนะกัน


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาอย่างไร นายชัย กล่าวว่า ตามกระบวนการจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีศาลดำเนินการอยู่ เราเป็นผู้แทนจะไปยุ่งกับเขาได้อย่างไร


 


 


 


ที่มาของข่าว: ผู้จัดการออนไลน์และไทยรัฐ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net